Tumgik
10969rainbow · 5 years
Text
🐶  ในวันหยุด
Tumblr media
‘โฮ่งๆ’
เสียงเห่าเจ้าไทจิทำให้ทากะสะดุ้งตื่นขึ้นบนฟูกนอนขนาดใหญ่ รู้สึกได้ถึงเสียงเห่าที่ใกล้เข้ามาทุกที ถ้าหากได้ยินเสียงเมื่อไหร่ อีกไม่นานร่างก็จะพุ่งตรงมาที่ฟูก ขึ้นมาบนตัว นั่งทับแล้วก็เห่าไม่หยุด
โทรุปล่อยให้มันเข้ามาในบ้านอีกแล้วสิ
ทากะกลิ้งไปที่ข้างฟูก หย่อนขาข้างขวาลงพื้น ฝืนตัวลุกขึ้นมานั่ง แต่คงทำเร็วเกินไป รู้สึกหัวหมุนขึ้นมาชั่วขณะ ทรงตัวนั่งต่อไปไม่ไหว ยอมแพ้ต่อระบบของร่างกาย เอนตัวลงไปนอนในสภาพเดิม
‘โฮ่งงงงง’
มาแล้ว—ไทจิกระโดดขึ้นมาบนที่นอน  เอาเท้าทั้งสี่ข้างขึ้นมาเหยียบบนอก
ตาปรือมองเจ้าหมาตัวน้อยที่ส่ายหางดุกดิกไปมา ตัวที่เหยียบอยู่บนอกก็หนักไม่ใช่เล่น ยังจะเอาลิ้นเปียกๆ มาเลียบนแก้ม ก่อนหน้านั้นไปเลียอะไรมาบ้าง ต้องยกมือขึ้นปัดลิ้นที่ละเลงลงมาบนใบหน้านั้นโดยด่วนก่อนสิวบุก
ไทจิ เจ้าหมาตัวร้ายที่มารบกวนการนอน มันเป็นหมาพันธุ์ซามอยด์ ลูกของไทจู หมาของเพื่อนสนิท
ทากะรับเป็นพ่ออุปถัมภ์ให้ไทจิเมื่อมันมีอายุได้หนึ่งเดือนกว่า เพื่อนเลี้ยงน้องหมาไม่ไหว ส่งมาให้เลี้ยงหนึ่งตัว เพราะลูกหมาห้าตัวทำเอาค่าใช้จ่ายเกินงบ  ส่วนลูกหมาอีกสี่ตัวยังอยู่กับเพื่อน แม้จะชอบบ่นว่าค่าใช้จ่ายบานปลายแต่ก็ไม่ยอมยกให้ใคร คุณเพื่อนก็อยากให้น้องอยู่กับคนที่ไว้ใจได้ แต่จะมีสักกี่คนที่เขาสะดวกเลี้ยงสุนัขที่ต้องใช้งบดูแลพอสมควร 
ส่วนสาเหตุที่ได้เจ้าไทจิมาเพราะว่ามันดูแข็งแรงที่สุดในบรรดาพี่น้อง สำหรับทากะมันเป็นหมาที่น่าสงสาร ต้องห่างแม่ตั้งแต่ยังเล็กเพราะแข็งแรงกว่าตัวอื่น
‘โฮ่งง’
“ไม่ไหวน่า ง่วง ขอนอนก่อน”
‘โฮ่งงง’
“ขอนอนอีกหน่อยน่า” ทากะส่งเสียงงึมงำ จับเจ้าไทจิโยนออกไปข้างฟูก ไทจิเลยเห่าดังขึ้นพร้อมกับการบุกจู่โจมอีกรอบ
“ไทจิ หยุดดดดดดดด’ ครางเสียงหลงเมื่อลิ้นไทจิลงมาละเลงบนหน้า
ตื่นก็ได้เจ้าหมา!!
โทรุ ทีหลังอ่ะให้ฉันตื่นก่อนค่อยปล่อยมันเข้ามาในบ้านนะ ถือว่าขอล่ะ
ทากะตื่นแล้วด้วยความง่วงงุน อุ้มไทจิไว้ในอ้อมแขน  แม้อยากจะล้มตัวลงนอนต่อ แต่กลิ่นอาหารเช้าเล็ดลอดมาจากช่องประตูที่เปิดอ้าอยู่นั้นทำให้ท้องเจ้ากรรมประท้วงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นอมแพ้ต่อกินอาหาร
ย่ำเท้าไปตามทางเชื่อมไปยังห้องครัว มองออกไปนอกระเบียง ท้องฟ้าแสนแจ่มใสแบบที่แดดปะทะใบหน้าแล้วต้องหรี่ตาลง
เจ้าไทจิดิ้นจะลงไปจากตัวเมื่อได้เห็นใครบางคนกำลังถือสายยางรดน้ำต้นไม้ในสวน ทากะปล่อยไทจิลงให้วิ่งไปหาคนๆ นั้น
ส่วนตัวทากะเองก็หย่อนตัวลงนั่งที่ชานบ้าน มือเท้าคาง ศอกยันลงกับตัก มองโทรุที่ถือสายยางรดน้ำต้นไม้ หยดน้ำจากสายยางกระเซ็นไปทั่วลำต้น น้ำไหลเปียกชุ่มไปทั่วพื้นหญ้า บางจุดที่เป็นพื้นดินที่หญ้าไม่ปกคลุมนั้นเพิ่งจะเอาหินมาโรย ก็ตั้งแต่ที่เจ้าไทจิมาอยู่ด้วย พื้นที่ในสวนรอบบริเวณบ้านก็ถูกใช้เป็นสนามวิ่งเล่น บางวันที่ฝนตก มักจะมีรอยเท้าเปียกเป็นรอยอยู่บนพื้นเสื่อ ทุกทีก็ไม่ได้เป็นคนทำความสะอาดรอยเหล่านั้นเลยไม่ได้จริงจังอะไร จนวันนึงที่โทรุต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ทำให้รอยเลอะพวกนั้นก็ต้องเป็นคนจัดการเองทั้งหมด—โคตรเหนื่อย
ถึงรู้ไงว่าโทรุคงจะลำบากมาตลอดที่ต้องคอยมาเช็ดรอยเท้าไทจิ ก็เลยจัดการสั่งหินมาโรยพื้นดินในสวนให้เรียบร้อย
‘โฮ่งงง’ เจ้าไทจิยืนเห่าคนในสวน ฝ่ายนั้นย่อตัวลงมาหา เอามือมาลูบไปบนศีรษะของเจ้าหมาน้อย
“จะเสร็จแล้ว รอเดี๋ยว”
“ไปนั่งรอกับเจ้านายแกนะ”
“อย่าซนน่า เดี่ยวตัวเปียก”
นั่งง่วงๆ ดูผู้ชายคุยกับหมา ก็มีความสุขดีนะ...
ไทจิก็ยังคงเห่าไป วิ่งไล่งับขากางเกงนอนโทรุไป ทายว่าคงยังไม่ได้เลี้ยงอาหารเจ้าหมา ถึงได้วิ่งไปกวนอยู่อย่างนั้น
“หิวใช่ไหม จะเสร็จแล้วนะ รอแป๊บ” มือขยี้บนศีรษะไทจิอีกรอบโดยไม่มีทีท่าว่ารำคาญแต่อย่างใด
ที่มันกวนคงเพราะหิวไงล่ะโทรุ นายก็มากินข้าวก่อนก็สิ้นเรื่อง…
จะมีบ้านไหนที่หมากินข้าวพร้อมกับคนนะ
“โทรุ หิวแล้วอ่าาา ไปกินข้าวกัน” ตะโกนบอกโทรุแต่เจ้าไทจิกลับพุ่งตัวมาหาเขาที่นั่งอยู่ทันทีทันใด
นึกว่าเรียกให้มาหาเหรอ ไมใช่เว้ย ฉันเรียกโทรุไม่ใช่แก เจ้าหมา!!
เปลี่ยนใจแล้วที่บอกว่าน่าสงสาร…ไม่น่าสงสารเล้ย!! ตัววุ่น
สุดท้ายก็นอนเล่นกับมันตรงชานบ้าน รอให้โทรุเดินเข้ามาหา หยิบถาดใส่อาหารพร้อมโต๊ะเล็กออกมาวางที่ชานบ้าน
ทากะจ้องมองเจ้าอาหารที่หอมยั่วยวนมาตั้งแต่เช้า ข้าวสวยร้อนๆ ราดนัตโตะ แกงจืดกับปลาทอด หอมมากๆ เลย
“ล้างหน้ายัง”
“ยัง กินก่อน”
โทรุนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะ ในชุดนอนสีน้ำเงินที่ยังคงไม่เปลียนเหมือนกันนั่นแหละ
“ที่จริงควรไปอาบน้ำกันก่อนกินข้าว มันดีต่อระบบย่อย”
“ขี้เกียจอ่ะ” ทากะตอบ ตักข้าวใส่ปากได้แล้ว
“วันนี้อยากไปไหนไหม”
ทากะสั่นหัว ไม่ได้มีแพลนอะไรทั้งนั้นแหละ
“งั้นวันนี้ช่วยปลูกผักหน่อยสิ”
ทากะสั่นหัว “เดี๋ยวนอนเป็นกำลังใจให้”
โทรุสั่นหัวเช่นกัน “ตัวขี้เกียจ”
ทากะหยักหน้าหงึกๆ หันไปมองเจ้าไทจิที่กำลังกินอาหารจากชามของตน ไม่ยอมมองคนที่ส่งสายตาอ้อนมาจากอีกฝั่ง
คืนวันศุกร์…แค่หน้าที่แฟนก็หนักแล้ว อย่ามาเอาเปรียบกันหน่อยเลยโทรุ!!
วันหยุดหนึ่งวันของทากะกับโทรุแล้วก็หมาหนึ่งตัว
:)
จบแล้วจ้า
ขอบคุณภาพจากคุณ RyanRTG นะคะ ^_^
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
Have I told you lately that I love you *2
Tumblr media
Have I told you lately that I love you 
1 / *2  
  Toruka 
   🎤   Pink Sweat$ - Honesty  /   ONE OK ROCK - Letting Go
  Rate : PG
         ถูกสายตาของเขาสะกดไว้ ใบหน้าของเขาขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แค่หายใจยังรู้สึกติดขัด รู้สึกถึงเงาที่เคลื่อนไหวเข้ามาบดบังแสง น้ำหนักของปากที่ทาบลงมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอาลิ้นเกลี่ยบนริมฝีปากเราแล้วขยับตัวออกไป 
   “หายแล้ว เพี้ยง”
   รู้สึกถึงความร้อนที่แล่นไปทั่วใบหน้าและลำคอ คนทำมองปากที่ชุ่มชื้นจากการเกลี่ยลิ้นลงมา มุมปากอมยิ้มนิดๆ ด้วยความพึงพอใจ
  แค่อึดใจเดียวก่อนที่จะเลิกตากว้าง ทำเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าทำอะไรไป
  แล้วเขาก็เดินกลับไปที่กีตาร์ของตัวเอง ก้มหน้าก้มตาเล่นอย่างเอาเป็นเอาตาย
    บ้าบอ
  เมื่อกี้คืออะไร
  ไม่มีคำอธิบายออกจากปากเขา
      โทรุก็เป็นแบบนี้แหละ คงเส้นคงวาเหลือเกินกับความผีเข้าผีออก
   บางทีก็คอยเดินตามโดยไม่บอกว่าแอบตาม
   จำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่งที่อยากออกไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยคนเดียว แต่โทรุก็แอบเดินตามมาโดยไม่บอกให้รู้ ที่รู้ว่าเขาตามมาเพราะตอนที่เผลอเดินใจลอยจนเดินชนกับคนบนทางเท้า ผมรีบขอโทษเขาแต่ดันถูกอีกฝ่ายชวนให้ไปดื่มด้วยกัน ปฏิเสธยังไงฝ่ายนั้นก็ไม่ฟัง เขาจับมือเราให้เดินตามไปด้วย เราก็ต้านทานแรงเขาไม่ไหวเพราะเขาตัวใหญ่กว่ามาก
  โทรุที่เดินเข้ามาจากไหนไม่รู้ มาดึงมือเราให้กลับไปข้างหลังเขา กันฝ่ายนั้นไม่ให้ยุ่งกับผม
  ฝ่ายนั้นพอเห็นโทรุก็รามือไป ต้องขอบคุณเขาถ้าหากตอนนั้นโทรุไม่อยู่ด้วยผมคงแย่ ฝ่ายนั้นตัวใหญ่แล้วก็น่ากลัว ผมคงทำได้แค่วิ่งหนีน่ะแหละ
  หลังจากนั้นถ้าอยากจะออกไปไหนก็ไม่เคยไปคนเดียวหรอก ต้องมีโทรุไปด้วยตลอด ก็กลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก ถึงแม้บางทีอยากออกไปเดินเล่น แม้จะไม่มีโทรุไปด้วยเขาก็คอยกำชับให้คนอื่นไปแทน เขาเป็นห่วงผม...
  เห้อ ไอเรามันโกรธเขาได้ไม่นานหรอก รู้ตัวดี ใจอ่อนกับเขามานานเท่าไหร่แล้ว
      สุดท้ายก็มาตามเขาไปกินข้าวอยู่ดี ก็เรียวตะน่ะ ไม่ได้เรื่องเลย ให้ไปตามโทรุแค่นี้ไม่ยอมทำให้เรียบร้อย แทนที่จะปลุกเขามากิน ดันปล่อยให้เขานอนต่อ นี่มันเวลากินนะ ถ้าไม่มากินตอนนี้ของกินหมดทำไง เดือดร้อนเรา��้องทำให้เขาคนเดียวอีก
  บ่นไปงั้น พอเจอสายตาอ้อนของเขาก็ใจอ่อนทำให้ใหม่
    ทากะไปตามโทรุที่ห้องซ้อมแล้วก็ดันมาเห็นที่ฝ่ายนั้นละเมอถามถึงลิปที่ตัวเองใช้กับเรียวตะ(อ่อ เข้าใจว่าเราเป็นเรียวตะ)                                                                                      
  แล้วเขาก็บอกว่าปากเรานุ่มมากๆ คือแบบเป็นคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกเขินมากๆ แต่ก็ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม จนบางทีก็อยากเข้าไปกระชากเสื้อเข้ามาถามนะว่า ต้องการอะไรจากเรา มาทำแบบนี้ทำไม
  เหตุการณ์พวกนี้วนเวียนซ้ำไปมา เขาไม่ได้มาง้อเราเพราะสุดท้าย เป็นเราที่หายโกรธก่อน
    เอาจริงนะ โทรุ ตกลงว่านายเป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมต้องมาทำอะไรให้เราคิดเยอะ
  คือบางทีนายก็น่ากลัวนะ เพราะไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่ คือเราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ แบบที่จะปล่อยให้ปากสัมผัสกันน่ะ
  แล้วใจอยากได้อะไรจากเขาล่ะ
  ไม่กล้าคิดมากไปกว่านี้แล้ว ใจไม่กล้าพอ...
     ทากะเปิดประตูห้องออกมาก็ต้องตกใจ โทรุมายืนดักรออยู่หน้าห้อง รีบปิดประตูหนีคนตรงหน้า
  เขามีออร่าแปลกๆ  สายตาไม่น่าไว้วางใจ ก็เลยปิดประตูหนีแต่ก็โดนบังคับจับมือพามาในห้องซ้อมจนได้ อยากจะสะบัดมือทิ้งก็ทำได้แค่ไม่อยากทำ
  คนหน้ามึนพามานั่งที่เก้าอี้ หยิบกีตาร์ลูกรักขึ้นมาวางบนตัก ไม่พูดไม่จา ก้มหน้าก้มตาเล่นเพลงที่เขาคิด
  เขาร้องเพลงให้ด้วย
   Have I told you lately that I love you?
 Have I told you there's no one else above you?
 Fill my heart with gladness, take away all my sadness
 Ease my troubles, that's what you do
      เจ้าหัวใจดวงน้อย ช่วยอดทนอีกนิดหนึ่ง โทรุเขาใกล้จะร้องเพลงจบแล้ว เดี๋ยวเราก็ต่างคนต่างแยกย้ายกลับห้อง ไม่ว่าตอนไหนที่โทรุอยู่ใกล้ หัวใจจะต้องเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากอก...แล้วดูเพลงที่เขาร้องให้เราสิ
    หัวใจจะระเบิดเพราะเขาอีกแล้ว
   คนที่หยุดเล่นกีตาร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน คำบอกเล่าผ่านทางสายตา ส่งผ่านมาทางบทเพลงนี้ ที่ไม่ได้พูดอะไรเพราะตกใจจนรับไม่ทัน น้ำหนักของเพลงหยุดทุกความคิดเอาไว้ ร้อนวูบวาบในอก แต่ทว่าก็อึดอัดเพียงแค่คิดเรื่องราวต่อจากนี้
  “ถ้าจะขอโทษก็แค่บอก….ไม่ต้องท่าเยอะ” ปากแข็งๆ นี่ได้มาจากใคร อยากตีปากตัวเอง ทำไมพูดแบบนั้นไป ทำไมไม่พูดไปล่ะว่าดีใจที่เขาทำแบบนี้ให้
  “ไม่ชอบเหรอ…" ท่าทางเว้าวอน น้ำเสียงหม่นลงเมื่อเห็นท่าทีตอบสนองของเขา โทรุยิ้มมุมปาก หลบสายตา ก้มลงมองสายกีตาร์ตัวเองอีกครั้ง 
  ทากะถอนหายใจ ไม่ตอบ ยกมือขึ้นกอดอกแล้วเม้มปาก ต้องพูดอะไรที่มันสวนทางกับจิตใจ ก็ต้องใช้ความพยายามมากๆ ยืนหันหลังให้คนนั่ง ตามองไปที่ประตู ก้าวเท้าเดินออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนจะไม่ได้ทำแบบที่คิดไว้ 
 ทากะกลับเข้ามาในห้องนอนตัวเอง ยืนอยู่ด้านหลังประตูก็ต้องถอนลมหายใจเฮือกใหญ่
    ทากะยกมือขึ้นปิดแก้มแดงของตัวเอง ด้วยความที่เป็นคนฟอร์มจัดเลยเก็บอารมณ์ไว้ ไม่ยอมแสดงออกไปว่ารู้สึกยังไง รีบกลับห้องมาตั้งสติ
  เรื่องจริงใช่ไหมที่เขาชอบเรา.....ใจเต้นระส่ำจนจะหลุดออกมาจากอก
  แต่ว่าเหตุผลที่หนีมา มันมีอะไรมากกว่านั้น เกี่ยวกับคนที่บ้าน ถ้าหากรู้ว่าเราเป็นแบบนี้
  คงได้กลายเป็นความอัปยศของครอบครัว แค่นึกถึงช่วงเวลาที่ทรมาน เรื่องเก่าๆ ที่เคยทำให้เสียใจ
  ไม่อยากตกอยู่ในสภาวะแบบนั้นอีกแล้วอ่ะโทรุ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมวงที่สนิทกันมากๆ ดีกว่านะ ความสัมพันธ์แบบนี้มันจะยาวนานและปลอดภัย เพราะว่า เนี่ย..ฉันแอบรักนายมาตั้งนานแล้ว พอฉันไม่พูดมันออกไปก็ไม่เคยมีปัญหา เราก็อยู่ด้วยกันแบบมีความสุข ไม่เคยต้องมีเรื่องบาดหมางใจ
  ให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปดีกว่าเนอะ
         สังเกตปากทากะแตกอีกแล้ววันนี้ปากเขาช้ำมากกินน้ำซุปร้อนๆ ไม่ได้เลย ท่างทางจะเจ็บปากเวลากิน
  ทำไมคนเราต้องกัดปาก ถ้าเรื่องนั้นมันทำร้ายตัวเองก็เลิกสนใจไปบ้าง....อ้อ...แต่ถ้าเป็นเรื่องของผม ก็อย่าเพิ่งเลิกคิดเลยนะ
  คิดไปถึงไหนแล้ว บอกกันได้รึเปล่า
  ไม่คิดเลบว่า การบอกเขาไปแล้ว จะทำให้ตัวเองเหงาได้ขนาดนี้
  แย่จัง ไม่ได้เผื่อใจไว้เลย
  จะไม่ได้คุยกันอีกกี่วัน
  ต้องเหงาอีกนานไหม?
  ทากะ.....
       "ทากะ" โทรุเรียกไว้หลังจากที่ทุกคนลงจากเวทีกำลังเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเพื่อจะกลับไปที่โรงแรม ทากะชะงักฝีเท้าหยุดแต่ไม่หันกลับมาคุยกัน
  “คืนนี้ไปเดินเที่ยวกันไหม หาอะไรดื่มกันสองคน” 
  เหมือนทุกทีตอนที่เราเคยทำด้วยกัน
  ถ้าหากว่าเว้นช่องว่างไว้นานกว่านี้แล้วเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก เป็นฉันคนนั้น คนที่นายเคยคุยด้วยได้ทุกเรื่อง...น่ะ
  ไม่เอาแล้วอ่ะ ฉันพอก็ได้... อยากกลับไปทำแบบเดิม พากันไปดื่ม กลับห้องทั้งๆ ที่นายเมาเต็มที่ ส่วนฉันก็ต้องคอยโอบนายไว้ไม่ให้ใครมาวุ่นวาย
  พลาดที่ตัดสินใจบอกแทนที่จะเลือกที่จะเก็บเงียบ
      "วันนี้เหนื่อยมากไว้พรุ่งนี้แล้วกันเนอะ" ทากะบอก ไม่ยอมสบตาเท่าไหร่ เขาไม่ยิ้มตอบด้วยซ้ำ เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหนีผม
  ทั้งๆ ที่วันนี้แสนจะว่างและไม่มีคอนเสิร์ตที่ต้องเล่น 
ที่บอกว่าเหนื่อยน่ะ เพราะหนีฉันรึเปล่า?
ทำไมเราไม่ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ทำไมล่ะ ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้จริงๆ เหรอ?
       โทรุยังไม่ได้กลับไปที่ห้องพัก หลังจากกินข้าวเสร็จก็นั่งดูทีวีอยู่กับคนอื่นๆ จนต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน คืนนี้แบ่งกันนอนเป็นคู่ แน่นอนว่าจะหนีไม่พ้น กลับห้องไปต้องเจอ เพราะเรานอนด้วยกันมาตลอด 
 โทรุลองขยับตัวนอนบนโซฟาดูว่าพอนอนไหวไหม ก็ยังโอเคอยู่ ไม่ได้แย่มาก งั้นนอนมันที่นี่แหละ ไม่ต้องกลับไปทำให้เขาอึดอัดหรอก
  หวังว่าพรุ่งนี้อะไรๆ ระหว่างเรามันจะดีขึ้นกว่านี้
 และถึงมันไม่มีอะไรดีขึ้น อย่างน้อยการได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ไปไห���มาไหนด้วยกัน นอนห้องเดียวกัน ก็ยังดี
       คืนนั้นโทรุไม่ได้กลับห้อง....
  ก็นอนรอเขากลับมาที่ห้องจนเผลอหลับไป...
       ทากะใส่หูฟังตลอดทางที่นั่งอยู่บนรถ เหม่อมองออกไปยังกระจกที่เกิดฝ้าขุ่นมัวจนมองไม่เห็นด้านนอก เสียงคนในรถสนทนากัน จับใจความไม่ได้ สมาธิอยู่ที่เพลงที่ได้ยิน ฟังวนถ้อยคำในเพลงที่เขาร้อง สายตาของเขายามที่ร้องว่า You fill my life with laughter, somehow you make it better  โทรุเขาก้มมองมือตัวเอง แล้วร้องท่อนต่อไป ก้มหน้ามองสายกีตาร์แล้วร้องวนกลับมาท่อนนี้อีกรอบและมองสบตากันอีกครั้งที่ท่อนคอรัส
  ทากะเม้มปากสักพักก็เผลอเอาฟันขบเนื้อบนริมฝีปากล่าง รสเค็มปะแล่มเข้ามาในปากถึงรู้สึกตัวว่าเผลอกัดจนปากแตกอีกแล้ว ไม่คิดก็ไม่ได้ หยุดคิดก็ไม่ได้ แต่คิดมากไปก็เท่านั้นแหละ 
  ทากะเพ่งสายตากลับมาที่สมุดที่ตัวเองถืออยู่ เพลงใหม่ที่เขากำลังเขียนอยู่นั้นใกล้จะเสร็จแล้ว มีบางท่อนที่เขียนไม่ลื่น ไม่ได้ดั่งใจ ทากะโทษว่าเป็นเพราะสมองตื้อจมอยู่กับความคิดอันวุ่นวายใจเลยเขียนไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ 
  จ้องมองหน้ากระดาษที่ถูกขีดฆ่าเนื้อเพลง ยังไม่มีท่อนไหนถูกใจเท่าไหร่
  ทากะเผลอหลับไปไม่รู้ตัว เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีสมุดที่ถืออยู่ในมือหายไปไหน ลุกขึ้นมองหาพบว่ามันอยู่บนตักโทรุที่นั่งอยู่เบาะข้างหน้าเขา
  เขาถามด้วยสายตาที่บอกว่า ‘ไม่เอาเหรอ’ ผมตอบไปว่า ‘ก็ส่งมาสิ’ แต่เขาก็หันกลับไปเปิดสมุดดูเนื้อเพลงที่ผมกำลังเขียน ผมร้อนรน มีหลายท่อนที่แสดงออกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร 
  โทรุหันมายิ้มเจื่อนๆ เศร้าๆ แล้วส่งสมุดคืนมาเปิดหน้านั้นค้างไว้
   I hope you know that it wasn't easy
 Letting go of the life I knew
    ใช่...รู้ไหมว่ามันยากสำหรับนายและมันก็ยากสำหรับฉันเหมือนกัน
           บรรยากาศที่ชวนหดหู่ใจโอบล้อมคนทั้งคู่ ก็คนที่ตัวติดกันไปไหนไปด้วยกันตลอด พอมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นที่สังเกตได้ง่าย
 ถ้ามีใครสักคนรู้ความลับของสองคนนี้ ใครคนนั้นคงไม่พ้นเรียวตะที่อุตส่าห์มาดักรอเจอทากะก่อนจะเข้าไปในห้องใหญ่
  “เป็นไรรึเปล่า นายสองคน”
  “ไม่มีอะไร”
  “โกหกไม่เนียน”
  “อย่ายุ่งน่า” ทากะลุกไปสายตาตั้งคำถามที่ตอบไม่ได้ของเรียวตะ 
  ส่วนเรียวตะก็คงทำอะไรไม่ได้ ถ้าทากะไม่ยอมเล่า โทรุยิ่งปากแข็งยิ่งกว่าอะไรดี คงเค้นออกมาไม่ได้ง่ายๆ แต่ก็เป็นห่วงทั้งคู่ คงต้องเอาไปปรึกษาโทโมยะ...แต่ไม่รู้จะมีอะไรคืบหน้ารึเปล่านะ เพราะว่าอีกคนก็ไม่ชอบวุ่นวายเรื่องของใครด้วยสิ
      วันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปด้วยกันอยู่ดีเนื่องจากว่าวันนี้มีแขกรับเชิญคนพิเศษมาร้องเพลงด้วยกัน มื้อค่ำวันนี้พวกเขาก็แทบไม่ได้คุยกัน รู้สึกตัวอีกทีก็ใช้เวลาทั้งหมดคุยกับคนอื่น
  ผิดคำสัญญาครั้งแรก ทากะลำบากใจที่จะเจอโทรุในห้องนอนแต่เหมือนเขาจะรู้ตอนกลางคืนถึงไม่ยอมกลับมาที่ห้อง
  มีวิธีอื่นไหมที่เราจะได้คุยกันเหมือนเดิม ก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้
    มีเหตุผลมากมายที่เรายังคงอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้ อนาคตที่พวกเรายังทำไม่สำเร็จ เหตุผลที่ต่างคนต่างยังไม่แต่งงานตามเพื่อนๆ 
  เหตุผลที่ว่าคือนาย....คนเดียว
      ความคิดล่องลอยหายไปบนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงฝีเท้า เสียงพูดคุยของใครต่อใครที่เดินผ่านโต๊ะที่เขานั่ง ทากะกระพริบเปลือกตาปริบๆ มือที่จับดินสอถือค้างไว้อย่างนั้น เขียนอะไรไม่ออกมาสักพักแล้ว 
  เหนื่อย หิว หมดแรง อยากกลับไปนอน แต่ร่างกายไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะเดินกลับไปที่ห้อง 
  ทากะถอนลมหายใจทิ้งขว้าง ไอ้ที่เขาบอกว่ายิ่งถอนหายใจมากเท่าไหร่จะยิ่งตายเร็วเท่านั้น คงจะจริง
  ใกล้ตายแล้วแหละ หายใจไม่ออก เหมือนจะจมน้ำทั้งๆ ที่ร่างกายอยู่บนพื้นดินและมีอากาศ กลายเป็นสถานการณ์ที่คนต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยู่ด้วยกันก็คุยแค่เรื่องงาน แล้วยังจะโยนเรียวตะมานอนที่ห้องแทนตัวเองที่ย้ายไปนอนกับโทโมยะ 
  เวลาที่ได้อยู่ตามลำพังน้อยลงไปอีก ความคิดวนเวียนไปจบอยู่ตรงที่ถ้าเป็นเวลาปกติ ถ้าตอนที่เรายังได้คุยกัน คนที่จะมานั่งเป็นเพื่อนอยู่ที่ร้านกาแฟตอนแต่งเพลง เวลาเที่ยงที่แดดส่องมาโดนโต๊ะจนต้องย้ายไปนั่งในร้าน บทสนทนาที่เราจะได้คุยกันถ้าหากว่าต้องหันไปถามความเห็นจากเขา
      "ดีแล้วแหละ"
  "...จริงเหรอ ฉันว่าท่อนนี้มันแปลกๆ นะ...."
  "...ไหนนายลองร้องมันออกมาดิ แบบที่คิดไว้.."
    " We can be giants, giants
 We can be giants, giants
 ’Cause every one of us has always been enough
 We can be giants, giants "
     "ดีแล้ว เสียงน่ารัก"
  คำพูดของเขาทำให้เขินแทบแย่ ต้องทำเป็นแก้เนื้อเพลงท่อนที่ร้อง เอายางลบแล้วเขียนประโยคอื่นทับ 
     ทากะกระพริบตาปริบๆ มองเก้าอี้ว่างที่อยู่ตรงหน้า
  คนที่บอกว่าเพลงที่เขาร้องเสียงน่ารักนั้นตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ คือก็เหงา...ที่ไม่มีเขาอยู่ด้วย
  เหตุผลที่ทำให้ห่างกันมันคุ้มไหม
  รู้แล้วสินะ...
   นั่งจมอยู่กับความว่างเปล่าที่ตัวเองเลือก ขอบตาร้อนและเปียกชุ่ม ทำนบที่กั้นตัวความอ่อนแอไว้ พังไม่มีชิ้นดี ดึงกระดาษทิชชูบนโต๊ะมาซับน้ำตาที่ไหล พลางมองไปรอบๆ โต๊ะ กลัวว่าจะมีคนเห็นน่ะแหละ
  ขืนถูกปาปาถ่ายไปลงหน้าเว็ป จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
  ซับน้ำตาของตัวเองไว้ก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไร ควรแต่งเพลงให้จบก่อน
  หยิบดินสอมาขีดเขียนความรู้สึกของตัวเองลงกระดาษไว้ จะได้เตือนตัวเองว่ามันเจ็บกับเส้นทางที่เลือก
   ทางที่ไม่มีโทรุ
      โทรุถอนหายใจยาวมาก....
  ถึงแม้จะลุกจากเก้าอี้แล้วก็ไม่สามารถเดินออกจากร้านฝั่งตรงข้ามได้ โทโมยะจับมือไว้ “ทากะไม่ชอบให้เห็นตอนร้องไห้”
  ยอมนั่งลงตามเดินเพราะทากะหยุดร้องไห้แล้ว
  ก็ไม่ชอบให้เขาร้องไห้...แต่เราดันเป็นตัวการที่ทำให้เขาคิดมากขนาดนั้น แม่ง...จะเข้าไปปลอบก็ไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรถ้าหากว่าไม่ได้อยู่ข้างเขาตอนที่เขามีน้ำตา
    to b con
อาจจะแปลกใจที่เรื่องนี้ยังไม่จบ...สารภาพว่าตอนแรกก็แต่งเพิ่มอีกนิดเดียวเอง แล้วมันยาวมาขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เลย อินกับบรรยากาศตอนแต่ง ตอนแต่งมีดราม่านิดๆ ในใจ จนมีกาวใหม่ก็ยังแต่งไม่จบ TT 
ดราม่าเนี่ยยากจังเนอะ เผลออินตามเมื่อไหร่หน่วงเมื่อนั้น
ขอบคุณที่ติดตามน้ะจ้ะ 
😳
ปล.เดวไปเคลียร์ฟิคโนเวมเบอร์ที่ดองแป้บ ดองไว้เยอะมั่กๆๆ
6 notes · View notes
10969rainbow · 5 years
Text
HBD
Tumblr media
สุขสันต์วันเกิดนะคะทากะ ขอให้มีความสุขมากๆ จริงๆ
My fiction 
2019 
ต่ายน้อยและยัยขี้อ้อนกับวันปีใหม่ของทั้งคู่ 🎉
Have I told you lately that I love you 💛 1 / 2
Close to you
Thinkin bout you
2018
Goodbye Summer / 1 / 
AU Hogwarts :> 1 / 2 / 3
Strawberry Boy 🍓  1 / 2 / 3 / 4 / 5
TORUKA 🎀 :🎄 FicNovember
1 note · View note
10969rainbow · 5 years
Text
Thinkin bout you
Tumblr media
คนตัวเล็กเดินคอตกมาตลอดทางตั้���แต่ลงมาจากรถ ใบหน้าห่อเหี่ยวริมฝีปากแห้งผาก แม้กระทั่งน้ำสักแก้วยังไม่ตกลงท้อง
บังเอิญที่เหลือบไปมองตัวตึกฝั่งซ้ายที่มีร้านกาแฟตั้งอยู่ ใจคิดว่าถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ มาสักแก้ว อาจจะช่วยดึงเอาความรู้สึกสดชื่นกลับมาบ้าง
"อเมริกาโน่เย็น" เข้าไปสั่งกาแฟโดยไม่มองแม้กระทั่งเคาท์เตอร์ ยืนก้มหน้ามองพื้น เดินไปหาที่นั่งในร้าน หันหลังให้กับเคาท์เตอร์ สายตาอยู่บนแผ่นไม้ของโต๊ะกลมๆ จ้องมองรอยขีดข่วนที่อยู่บนนั้น ใจนั้นกำลังคิดถึงคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ ช่วงนี้อาการทรุดลงเรื่อยๆ จึงต้องพามาโรงพยาบาลบ่อยขึ้น แต่ก็ทำได้แค่ประคองอาการไปแบบนี้โดยไร้ความหวัง มันไม่มีทางหาย
ความเดียวดายที่ต้องรับมือกับการดูแลบุพการีเพียงลำพังคนเดียว ต้องลาออกจากงานมาดูแลท่านอย่างใกล้ชิด ต้องหางานใหม่ใกล้บ้าน เหนื่อยและท้อ ทุกสิ่งประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย คิดถึงสิ่งที่ต้องเผชิญในอีกไม่นานหลังจากนี้ก็น้ำตาคลอ แม้จะพยายามคิดในแง่ดีว่าเป็นช่วงพักดูแลคุณแม่ก็ตาม
ก็ที่ทำไปมันจะมีประโยชน์อะไร มันก็แค่ยื้อเวลา ยังไงเขาก็ไม่รอด
บางทีโลกแห่งความเป็นจริงก็โหดร้ายเกินไป
เวลาที่คนเราจะจมดิ่งไปกับความทุกข์ก็เหมือนถูกดูดกลืนไปไว้ในหลุมดำ แสงสว่างรอบตัวพลันมองไม่เห็น ตกอยู่ในสภาวะนี้มาสักพัก เหนื่อยจนอยากจะหายไปจากโลกไปนี้
หยดน้ำตาไหลผ่านแก้มไป แม้จะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้ รีบยกมือขึ้นมาเช็ดรอยบนแก้มเดี๋ยวจะมีคนเห็น
แก้วกาแฟถูกใครบางคนนำมาตั้งไว้ตรงหน้า ทากะแหงนใบหน้าขึ้นจากโต๊ะ ผู้ชายตัวสูงใส่แว่นในชุดกาวน์สีขาว ในมือเขามีกาแฟอีกแก้วที่กำลังดูดอยู่ เขาพยักเหยิดไปที่แก้วกาแฟตรงหน้าแล้วก็เดินไป
ด้วยความงงๆ แต่ก็หยิบขึ้นมาดูด มันคือกาแฟของผมเองนั่นแหละ เขาคงไปหยิบมาให้
แสดงว่าเมื่อกี้เขาคงเห็นฉากดราม่าเพียงลำพังของผม ซึ่งมันค่อนข้างจะหน้าอาย
ทากะลุกขึ้นจากโต๊ะ เหมือนจะมีแรงขึ้นจากกาแฟแก้วนี้ คงเพราะตัวผมเองดันรู้มีคนที่เห็นแล้วเขาก็ไม่ได้มองข้ามไป
เหมือนเป็นการปลอบใจจากเขา เขาอุตส่าห์ไปหยิบแก้วมาให้เพราะผมไม่ได้ยินเสียงเรียก รู้สึกขอบคุณแปลกๆ
และถึงแม้ผมจะคิดไปเองก็เถอะ
ทุกคนก็ดูเศร้าเมื่อมาที่โรงพยาบาลแต่เขาดูเศร้ากว่าทุกคนตรงนั้น
สีหน้าอ่อนเพลีย แววตาไร้ชีวิตชีวา ปากแห้งแตกระแหง สภาพหน้าตาอิดโรยเหมือนไม่ได้นอน ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับเยิน...
ทุกคนที่มาโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ไม่ต่างกัน ยิ่งเคสหนักๆ คือสภาพจิตใจแย่มาก ไม่ต่างอะไรจากคนๆ นั้น คงเจอมาหนัก...
ผมเพียงแค่มองเขาที่นั่งก้มหน้า ปากเม้มเข้าหากัน ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา
"หมายเลข 31 ค่ะ" พนักงานสาวเรียก คนในร้านไม่มีใครขยับตัว เหลือก็แค่เขา ที่ยังคงไม่ลุกไปเอา
เห็นหยดน้ำใสไหลผ่านแก้มไป เขาร้องไห้ออกมาและยังคงไม่ได้ยินเสียงเรียก มันรบกวนคนอื่นที่อยู่ในร้าน บางคนที่กำลังอ่านหนังสือถึงกับหันมามอง
ผมก็เลยอาสาลุกขึ้นไปหยิบแก้วนั้นไปส่งให้เขา
เขาเงยหน้าใช้ดวงตาที่เจือไปด้วยหยาดน้ำตามองผม ความเศร้าที่ไหลเวียนอยู่รอบตัว ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเขา แววตาตกใจที่ผมมายืนมอง เผลอมองตอบไปจนเขายกมือขึ้นมาปาดรอยน้ำตาทิ้งนั่นแหละถึงได้ผละออกมา
เจอกันครั้งเดียว ไม่คิดว่าจะมีโอกาสพบกันอีกครั้ง ที่เดิม ร้านกาแฟในโรงพยาบาล เขามองมาที่ผม เราสบตากัน ผมแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ ไม่ได้มองตอบ แค่ปล่อยให้สายตาตัวเองมองผ่าน มันน่าอายที่จะนึกถึงเรื่องนั้น
ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่แอบมองเขาในชุดกาวน์โดยไม่ให้เขารู้สึกตัว เขานั่งเล่นโทรศัพท์ของเขาไปเรื่อย ผมจ้องอยู่นานจนแน่ใจว่าวันนี้เขาจะไม่เงยหน้าขึ้นมา ก็เลยลุกออกจากร้านไป
ตอนเห็นเขาเดินเข้ามา จู่ๆ ก็ก็นึกถึงหยาดน้ำใสที่คลอเต็มหน่วยตาแล้วไหลลงมาเปียกแก้ม ถูกความทรงจำเหล่านั้นเล่นงานผมอยู่หลายวัน...
หลังจากนั้นก็เห็นเขามากับผู้หญิงสูงวัย คงเป็นคนในครอบครัวเขา คอยเข็นรถเข็น คอยดูแลคนป่วยพามาหาหมอ ด้วยความสงสัยจึงแอบไปสืบมาจนรู้อาการของคนไข้ รับรู้เรื่องเขาเข้ามาทีละน้อย
อีกครั้งที่ได้เจอกันหลังจากผ่านไปได้สองอาทิตย์ ผมเข้ามาในร้านกาแฟ เจอเขาอีกแล้ว เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมกำลังอ่านหนังสือในมือ
ผมแค่แอบมองเขา เขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา ช่วงเวลาที่มาที่ร้านกาแฟแล้วไม่เจอกับเขา ก็แอบมองหา รู้สึกตัวอีกทีเวลามาที่ร้านกาแฟก็อยากเจอเขา
เป็นอะไรไปไม่รู้...
หรือจะลองเข้าไปทักดู...
เจอกันอีกแล้ว เขาเดินเข้ามาสั่งกาแฟเหมือนเดิม เขามองมาที่ผมอีกแล้ว ตั้งใจมองมาจนผมไม่กล้าเงยหน้า วันนี้เขาดูน่ารักเป็นพิเศษ ผมยาวเคลียไหล่ ปากอมชมพูไม่แห้งหรือแตกระแหง ดูใส่ใจผมเผ้ามากขึ้น
เกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมทำตัวน่ารักขึ้น
หรือว่าจะไปชอบใคร...
ไม่ได้การละ...
ผมเงยหน้าขึ้น ตั้งใจมองตอบเขา เขาดูตกใจนิดหน่อยแล้วรีบหลบสายตา
แต่ไม่ได้คุยกับใครนานแล้วอ่ะ ไม่ค่อยมั่นใจเลยแหะ แต่ปล่อยไปแบบนี้ไม่ดีแน่ คงต้องเข้าไปคุยก่อนเขาจะหนีไปชอบใครเข้า
โทรุลุกออกไปจากเก้าอี้ ในมือยังถือหนังสือคาไว้ ไม่ได้วางลงกับโต๊ะ ด้วยความรีบร้อนลุกขึ้นยืน เข่าชนโต๊ะ แก้วกาแฟเลยล้มคว่ำออกจากจาน น้ำเปียกไปทั้งโต๊ะ
เขายิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้ามาหาผมที่กำลังเอากระดาษทิชชูซับกาแฟที่หก รอยยิ้มของเขาน่ารักจนเผลอมองค้างไปเลย
แล้วเขาก็ยิ้มอีกรอบเมื่อเห็นผมหยุดมือที่กำลังเช็ด
สรุปว่า...วันนี้คงจะได้คุยกันสักที ^^
End
มินิฟิคโทรุกะ เอยูโรงพยาบาล.. รีเควสเอยูจากคุณ @RyanRTG ขอบคุณที่มาเล่นน้า ^_^
เรื่องในโรงพยาบาลเราไม่สันทัดแต่เราชอบกินกาแฟ...ฟิคเลยออกมาเป็นแบบนี้ :) คงพอได้เน้อะะะะ
เป็นฟิคใสๆ ลงในวันเกิดเมน
สุขสันต์วันเกิดเมนอีกรอบ ขอให้มีแต่ความสุขทุกคืนวัน ^___^
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
Close to you
Tumblr media
Close to you  🎹🎤
 - Toruka  ♥️
 - Rate : PG
ทากะกำลังทดลองเล่นเพลงในอัลบั้มใหม่ในเวอร์ชั่นเปียโน เขาหันมาขอความเห็นว่าที่เขาเล่นนั้นเป็นยังไงบ้าง ทากะยกมือขึ้นป้องปากหาวออกมา ก่อนจะขยับแว่นที่เลื่อนหล่นด้วยการยกหลังมือขึ้นมาดันกรอบแว่นให้ขึ้นสูง  ท่าทางจริงจังอีกครั้งเมื่อมองโน้ตเพลง มือขยับเปิดโน้ตเพลงอีกเพลงขึ้นมารอที่จะเล่นต่อ ทากะจะลองเล่นทุกเพลงแล้วให้เลือกเพลงที่คิดว่าดีที่สุดไปเล่นบนเวทีของพวกเรา
“ชอบเพลงไหนที่สุดโทรุซัง”
ผมก็ตอบไม่ได้เพราะว่าทุกเพลงก็ดีไปหมด ผมก็ชอบทุกเพลงที่เขาร้องนั่นแหละ
“อยากเล่นเพลงไหนก็เล่นเลยละกัน”
“ไม่ถามความเห็นคนอื่นก่อนเหรอ?”
“ไม่ต้องถามหรอก เขาก็แล้วแต่นายน่ะแหละ”
พอได้ยินอย่างนั้นแทนที่เขาจะมั่นใจขึ้น เปล่าเลย สีหน้าเขาดูเป็นกังวลกับสิ่งที่ได้ยิน ยิ่งพอรู้ว่าเพื่อนร่วมวงมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองขนาดนั้นยิ่งกลัว….ว่ามันจะพลาดในสักวัน
คิดมากเกินไปอีกแล้ว
โทรุวางมือลงบนช่วงบ่าทั้งสองข้าง ลองนวดให้ทากะแบบที่โทโมยะชอบทำให้ทากะ แต่พอลองเอานิ้วผมคลึงไปมาบนช่วงไหล่ ทากะกับทำหน้าเหวอแล้วขยับตัวหนี
“ไม่เอามันจั๊กจี้อ่ะ” ทากะยกมือขึ้นมาจับหัวไหล่ของตัวเองทั้งสองข้าง ทำหน้าขนลุกแบบคนจั้กจี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลงน้ำหนักมากมายอะไร
“งั้นเดี๋ยวช่วยยืดกล้ามเนื้อให้”
“ไม่เป็นไร ไม่ได้เมื่อยอะไร” ทากะปฏิเสธในทันทีโดยไม่คิดโดยที่ผมยังคงทำสีหน้าสงสัย เขาสังเกตเห็นก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ชักหิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ทากะลุกขึ้นยืนแล้วสาวเท้าเดินออกไปจากหน้าเปียโน ส่วนผมที่ยังตั้งตัวไม่ติดก็แค่ลุกขึ้นเดินตามไปห่างๆ โดยที่เก็บความสงสัยไว้ในใจ
มื้อกลางวันเป็นเมนูง่ายๆ พวกเราแค่ไปซื้อข้าวกล่องจากมินิมาร์ทมานั่งกินในห้อง สถานที่ซ้อมชั่วคราวคือบ้านของทากะ ก่อนที่จะเริ่มทัวร์ในเดือนถัดไปก็มีวันให้พักผ่อนอยู่บ้าง แต่เมื่อพักกันไปได้ไม่กี่วัน พวกเราก็นัดเจอกัน โดยที่มีเพียงเราสองคนที่มาเจอ  อีกสองหน่อยังคงอยู่กับครอบครัว แน่นอนว่าถ้ามีอะไรเร่งด่วนจริงๆ ก็จะโทรตามสองคนนั้น แต่ก็คงไม่มีเรื่องด่วนเข้ามาหรอก
มีนัดกับทีมสตาฟในอาทิตย์หน้านี้ ระหว่างนี้ก็จะมีแค่เราสองคนเหมือนทุกที
เราคุยกันจนหมดเรื่องที่จะคุย ต่างคนต่างนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย พอหันไปมองทากะอีกที เขาก็เผลอเคลิ้มหลับคาโซฟาไปแล้ว ในมือยังถือโทรศัพท์ตัวเองไว้อยู่เลย แผ่นหลังเอนไปกับโซฟาตัวใหญ่ ในเมื่อคนนั่งตัวเล็กนิดเดียว ขนาดโซฟานั้นจึงดูแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ลังเลว่าจะปลุกเขาเข้าไปนอนในห้องดีไหม แต่ถ้าปลุกเขาก็คงตื่นขึ้นเล่นโทรศัพท์ต่อ ให้นอนแบบนี้ไปก่อนละกัน
ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ของผมไป แล้วต้องสะดุ้งหันไปมองเขาตอนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างร่วงหล่นลงมาบนพื้น โทรศัพท์ของทากะนั่นเอง ด้วยความที่มันเป็นพรมเสียงจึงไม่ดังนัก คนที่ทำโทรศัพท์หลุดมือจึงยังคงไม่ตื่น ไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมจึงลุกขึ้นไปหยิบเจ้าโทรศัพท์เครื่องนั้นขึ้นมา หน้าจอโทรศัพท์ยังคงเป็นโน้ตที่เขาเปิดคาไว้ ข้อความที่พิมพ์อยู่บนนั้นเป็นข้อความที่เขาคิดจะพูดบนเวทีคอนเสิร์ต 
โทรุกำลังจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้ว แต่แชทมันเด้งขึ้นมาให้เห็นก่อน ไม่ได้ถือวิสาสะแอบดูเลยนะ แค่แบบเห็นพอดี
‘ทีหลังก็ให้เขานวดให้สิครับ นี่มันคือโอกาสที่จะได้สัมผัสตัวกันนะ’
โอกาสอะไร? สัมผัสตัว ? นวด?
โทรุย้อนขึ้นไปอ่านข้อความในแชท คราวนี้แม้ต้องถือวิสาสะแอบอ่านก็เถอะ ในแชทยาวมากล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ผมไม่เคยรับรู้ มันก็คงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะแอบอ่านมันทั้งหมด 
ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่ตักเขา เจ้าตัวยังไม่ตื่นง่ายๆ ท่าทางหลับสบายแบบนี้คงจะหลับยาว
โทรุนั่งลงที่โซฟาอีกฝั่ง จ้องมองคนตรงหน้าเหมือนไม่เคยมองมาก่อน คนที่อยู่ด้วยกันมานานจนบางทีก็ลืมสังเกตอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างการที่อยู่ด้วยกันทุกวัน ก็มองมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ไอ้เรื่องที่เขาไม่ค่อยให้ผมสัมผัสตัวหรือไม่ค่อยเล่นหัวแบบเป็นกันเอง แม้เขาจะทำแบบนั้นกับเรียวตะตลอด ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้แต่แค่ไม่ทันคิด…
เหตุผลง่ายๆ แค่นั้นเอง ที่มองไม่ออกตั้งแต่แรก เพราะเราอยู่ด้วยกันมากเกินไป เลยหลงลืมอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบเรื่องนี้ เผลอมองข้ามความรู้สึกคนใกล้ตัว คนที่คอยดูแลอาหารการกินอยู่ของสมาชิกในวง คนที่คอยเป็นห่วงเวลามีปัญหาเรื่องงานหรือเรื่องของหัวใจ…ที่เอาไปปรึกษาเขาหลายต่อหลายครั้งโดยไม่ทันคิดอะไร
เขาเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัว ซ่อนความอ่อนแอจากผมแล้วไปบอกคนอื่น
ถามคนที่กำลังหลับในใจ….ถ้าหากว่าอยากให้กลับมาเป็นคนที่รู้ใจ กลับมาเป็นคนที่สนิทกันที่สุดในทุกๆ เรื่อง…ย้ำ ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องหัวใจของเขา
ถ้าเป็นตอนนี้ ยังทันรึเปล่า?
โทรุกำลัง���่ายวีดีโอทากะที่กำลังเล่นเปียโน เพื่อส่งไปในกลุ่มให้อีกสองคนช่วยกันตัดสินใจ ว่าจะเอาเพลงไหนมาเล่นบนเวทีตามที่ทากะขอ 
ทากะบอกให้ผมถ่ายวีดีโอด้วยการใช้โทรศัพท์ของผมเอง
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้จะไม่คิดอะไร คนที่บอกให้ถ่ายคลิปจงใจให้มีวีดีโอของตัวเขาไว้ในเครื่องผม
ทากะนั้นเก็บความรู้สึกเก่ง ซ่อนความรู้สึกไว้อย่างแนบเนียนด้วยการหันหลังหนีสายตาผมที่จ้องมอง ตัวเขาหันกลับไปที่เปียโนแล้วเริ่มบรรเลงเพลงต่อ
ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อคอยสังเกต…
“เสร็จสักที” ทากะหันมายิ้ม ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือประสานกันไว้ข้างหน้าแล้วยกมันขึ้นสูง บิดขี้เกียจไปมา เสื้อยืดที่ใส่อยู่เลิกขึ้นสูงจนเห็นเอวขาวๆ
“เมื่อยเหรอ มาเดี๋ยวนวดให้” โทรุเดินเข้าไปซ้อนหลังคนที่ยืนอยู่ กดตัวบางๆ ให้นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม เอามือวางไว้บนบ่า คลึงนิ้วไปบนบ่า ปลายนิ้วขยุ้มไปรอบๆ หัวไหล่บาง คนที่ถูกนวดอยู่สะดุ้งเล็กน้อย ถึงจะห่อไหล่เข้าหากัน ทำท่าจะขยับตัวหนีผม ผมก็ไม่ยอมหยุด เอามือกดไหล่เขาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน 
โทรุลากนิ้วนวดวนขึ้นมาที่เดิม นิ้วจรดลงบนกล้ามเนื้อแถวต้นคอ ทากะสะดุ้งเมื่อเขาลากนิ้วลงมาตามแผ่นหลังบาง ยิ่งย้ำสัมผัสลงทากะยิ่งหายใจแรง เสียงหายใจเฮือกใหญ่ๆ เหมือนควบคุมจังหวะไม่อยู่ ท่าทางตื่นๆ และดูกังวลหน่อยๆ 
เป็นอะไรนะ เพราะผมยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย 
โทรุคลี่ยิ้ม ใครกันแน่ที่คิดอกุศล
ร่างบอบบางสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของมือที่สอดเข้ามาใต้เสื้อ โทรุกดนิ้วโป้งลงกลางแผ่นหลัง ส่วนนิ้วทั้งสี่แผ่ไปด้านข้าง ตั้งใจนวดแผ่นหลังให้แบบเนื้อแนบเนื้อ ก็คือแค่อยากจะแกล้ง….
“มะ..ไม่ต้อง..แล้ว” ทากะร้อนรน อ้าปากห้ามไม่เต็มเสียง หันมาบอกด้วยใบหน้าแดงกล่ำ ตาเยิ้มๆ ปากแดงเพราะถูกขบเม้ม มือกำเนื้อผ้าของกางเกงที่ใส่อยู่
โทรุหยุดสัมผัส ดึงมือทั้งคู่ออกมาจากผิวเนื้อ ยกมือขึ้นเกาหลังคอ อีกมือก็ซุกเข้าไปในกางเกงยีนส์ตัวที่ใส่อยู่ ถ้าหากว่ามือมันว่างเดี๋ยวจะเผลอดึงคนตรงหน้าเข้ามาใกล้แล้วก็ทำแบบที่ใจคิด
เอาล่ะสิ ชักจะเล่นมากไปแล้วก็เลยถูกคนตรงหน้าแอทแทคใส่จังๆ ทากะน่ารักเกินไปจนเกินห้ามใจไหว ท่าทางกังวลปนเปไปกับอาการเขินที่ผมสัมผัสตัวนั้นมันดูน่ารัก
ดูสิ…ปากแดงๆ นั่น ดูน่าจูบจัง….อยากลองจูบสักทีแหะ
นั่น  ถูกทากะทำให้ปั่นป่วน
ความคิดมันอันตรายขึ้นทุกที….
ทากะพาเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่รถยนต์ส่วนตัวของผม คนตัวบางขึ้นไปนั่งด้านข้าง ส่วนเขาก็ไปประจำตำแหน่งคนขับ
“เย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมโทรุซัง”
“แล้วโมริอยากกินอะไร”
“คิดไม่ออกก็เลยถามไง”
ขับรถออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตอบอะไร รู้สึกว่ามันยากจังแหะ ผลของการแอบดูข้อความในแชทคนอื่นยังไงล่ะ ทีหลังก็ควรอยู่เฉยๆ นะ นี่ต้องมาแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ไปร้านที่โมริอยากกินก็แล้วกัน” ผมบอกเขาโดยที่ไม่ต้องรอคำตอบ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบกินอะไร ชอบไปที่ไหน ไปถึงร้านแล้วสั่งอาหารแบบไหน ทากะเป็นคนที่มีความสุขตอนได้กินของอร่อยๆ พอเห็นแล้วก็อยากพาไปกินอยู่เรื่อยๆ น่ะแหละ
ก็เวลาที่เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ เขาก็จะยิ้มหวานๆ ให้เห็น ชอบมองเขายิ้ม รอยยิ้มของเขาเป็นความสบายใจของเรา 
อันที่จริงความรู้สึกของผมมันก็ชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้ว นี่ก็จะมามัวลังเลอะไรอยู่ จะรอให้ทากะทำทุกอย่างเหรอ รอให้เขามาบอกว่าคิดอะไรเป็นต้น เสียฟอร์มแย่
คืนนี้จะลองคุยกันดูว่าพวกเรานั้นจะตกลงเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมวงกันดีไหม
แอบกังวลนิดหน่อย…แต่มันคงไปได้สวยแหละ ในเมื่อความรู้สึกของพวกเราสองคนนั้น ไม่ได้ต่างกัน
ผมหาจังหวะก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปนอน…
“โมริ…ขอคุยหน่อยดิ” 
“ว่า?”
“ก็…”
“หืม?”
“ชอบนะ”
คนตรงหน้าค้างไปแล้ว เพียงแค่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด ผมไม่ได้พูดว่าเป็นแฟนกันไหมหรอก แค่บอกไปตามตรงว่าชอบ เขาก็พยักหน้ารับรู้ เขาเขินมากๆ หน้าแดงมากแบบพูดอะไรไม่ออกเพราะเขิน
หลังจากนี้ทุกอย่างคงเปลี่ยนไปแล้ว 
คำว่าชอบที่พูดไป เพื่อที่เราจะได้ใกล้กันมากขึ้น…
ดีจังนะที่มันเป็นแบบนี้
_______
เมื่อวานนั่งฟังเพลง cry out  ที่ทากะเล่นเปียโน ประกอบกับได้ดูทากะจากนิตยสารเล่มใหม่ จิบอกว่าเขินมากๆ ทากะน่ารักมาก แต่ละภาพแบบน่ารักมากกกกกก  แล้วพล็อตเรื่องนี้ก็ไหลออกมา มินิฟิคชั่นของการแอบรัก 
ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ ^_^
2 notes · View notes
10969rainbow · 5 years
Text
Have I told you lately that I love you 💛
Tumblr media
- Have I told you lately that I love you 💛
 Toruka
 🎤  Rod Stewart- Have I Told You Lately
 Rate : PG
ทากะปากแตกประจำ ชอบกัดปากตอนใช้ความคิด ปล่อยไว้ไม่ได้ เลือดซึมแบบนี้ เดี๋ยวถ้าเกิดมันไหลไม่หยุดทำไง….
คิดแล้วโทรุเอาปากแนบลงไปบนริมฝีปากนั้น ลิ้นเกลี่ยรอบแผลเบาๆ ให้เลือดหยุดไหล
“หายแล้ว เพี้ยง”
ขยับตัวออกมามองรอยช้ำนั้นแต่คนโดนทำแผลหน้าแดงกล่ำ แล้วก็เผลอทำเหมือนโอ๋เด็ก…..
โทรุเกาหลังคอแบบเขินๆ เผลอทำตามที่ใจคิดไปจนได้….
…..เผลอ…..ไปหน่อยว่ะ……..
_____ .
“โทรุ”
มีคนเรียก เขาได้ยินเสียงคนเรียก คงเป็นเรียวตะมาเรียกไปเล่นปิงปอง แต่วันนี้ง่วง เมื่อคืนนี้แทบไม่ได้นอนเลย....
ลุกออกจากเตียงมาทานมื้อเช้าแล้วก็กลับมานั่งซ้อมกีตาร์ในห้องซ้อม วันนี้ไม่มีคนอื่น เขาพักกันหนึ่งวัน
พอซ้อมไปสักพักก็ง่วงเลยมานั่งพักที่โซฟา กำลังเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับ มือยังประคองลูกรักไว้ในมือ ในหัวมีแต่ภาพปากนุ่มๆ นั้น คิดถึงสัมผัสนิ่ม ความนุ่มหยุ่นเหมือนขนมเยลลี่ ปากผู้ชายก็นุ่มได้ขนาดนี้
แล้วตอนจูบได้กลิ่นหอมๆ บางอย่าง พอลองมานั่งหลับตานั่งคิดถึงกลิ่นนั้น อืม.. หวานๆ หอมๆ เหมือนวานิลาแต่ใช่รึเปล่าไม่ค่อยแน่ใจ
“โทรุซัง..”
“เรียวตะ นายรู้ไหมว่าทากะทาลิปยี่ห้อไหน”
“…………อยากรู้ไปทำไม……..”
“คือกลิ่นลิปหอมมาก”
“………….”
“แล้วปากก็นุ่มมาก” โทรุลากเสียงยาวตรงคำว่ามากตอนพูด
“……นาย…………โรคจิต!!!”
____  .
โทรุสะดุ้งตื่นขึ้นมาแต่พอลืมตาขึ้น ไม่พบว่าใครอยู่ในห้อง มีเพียงเขากับกีตาร์ลูกรักที่กำลังจะหล่นไปจากมือแล้วในอีกไม่กี่อึดใจ
“ฝันอะไรวะ…”
โทรุออกมาจากห้องซ้อม ท้องไส้มันประท้วง ตื่นมาก็เริ่มหิว โชคดีตื่นมาก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เวลาที่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องครัว เข้าไปก็เห็นเรียวตะกำลังคุยกับคนอื่นๆ ที่โต๊ะอาหาร โทโมยะกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกด้วยการเฟชไทม์ สายตามองหาอีกคนในทันที คนตัวเล็กกำลังยืนอยู่หน้าเตาไฟกับน้องสตาฟสองคน หยิบนั่นหยิบนี่ใส่หม้อใบหนึ่ง กำลังทำอาหารกันอยู่ นี่เอง
มองจากตรงนี้แม้ทากะจะยืนอยู่ไกลแต่สายตาของเขาก็ยังโฟกัสไปที่ริมฝีปากช้ำๆ ที่มีรอยแดงๆ ของการกัดปากตัวเอง นิสัยเขาล่ะ คิดอะไรแล้วชอบกัดปาก…แต่งเพลงจบเพลงหนึ่ง ปากช้ำไปหมด
มองมากไปเดี๋ยวเขาจะรู้สึกตัว ก็เลยต้องพาตัวเองมานั่งที่โต๊ะ นั่งอยู่กับคนอื่นๆ หย่อนตัวนั่งฝั่งที่มีเก้าอี้ว่างสองตัว
“เรียวตะ เมื่อกี้นายได้เข้ามาหาฉันในห้องรึเปล่า” ถามเรียวตะเพื่อความแน่ใจว่ามันคือความฝันแน่ๆ ไม่มีใครเข้ามาในห้องหรอก
“เข้าไปๆ เห็นนายหลับเลยไม่ปลุก”
“ได้พูดอะไรไหมตอนเข้าไป?”
“เปล่า ก็นายหลับนี่ เลยเดินออกมา”
เห้อ โล่งไป…คงแค่ความฝัน
ทากะเดินมาที่หัวโต๊ะ ในมือถือหม้อที่ยกมาจากเตา อาหารมื้อกลางวันฝีมือทากะ ดีจังนะที่เขาทำอาหารเป็น ฝากท้องไว้ที่ทากะตลอด วันนี้กลิ่นอาหารก็หอมอีกแล้ว ไม่เคยเลยที่ครั้งไหนมันจะไม่อร่อย ถ้าเป็นทากะทำก็โล่งใจทุกทีว่ามื้อนั้นจะไปได้สวย
“กินกันเถอะ~” น้ำเสียงสดใสของเจ้าตัว คนตัวเล็กที่กำลังตักอาหารจากหม้อใส่ชามแล้วส่งไปยังหัวและท้ายของโต๊ะ รอยยิ้มน่ารักแจกจ่ายให้คนทุกคนบนโต๊ะ จนสายตานั้นมาหยุดที่เขา คนตรงหน้าหุบยิ้มไปเฉยๆ
…..โรคจิต
เสียงนั้นดังขึ้นมาจากความทรงจำ คราวนี้จึงคิดได้ จะมีใครล่ะที่พูดประโยคแบบนี้
แล้วแทนที่ตัวเองจะเดินมานั่งด้านท้ายของโต๊ะกลับไล่เรียวตะให้ลุกออกไป ตัวบางๆ หย่อนตัวนั่งลงที่ด้านหัวโต๊ะที่เป็นที่นั่งเรียวตะ แทนที่จะยอมเดินมานั่งใกล้เขา  
โทรุนั่งกลุ้มใจ เผลอถอนใจใส่เรียวตะที่นั่งข้างๆ
“??”
เรียวตะหันมามองก็สั่นศีรษะ ทำทีท่าบอกไปว่าไม่มีอะไร
เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ว่ะโทษที
ก็เขาว่าเราโรคจิตที่ไปยุ่งกับปากของเขา
ให้ทำไงได้ก็เขาปากแตก ตัวเขาเองที่ติดนิสัยเลียแผลที่ปาก เผลอเห็นเขาปากแตกก็เลยเผลอไง ถ้าไม่อยากโดนแบบนั้นก็หัดระวังปากตัวเองหน่อยสิ อย่าปล่อยให้แตกอีก
โบ้ยความผิดให้ทากะที่ชอบกัดปากตัวเองก่อน ส่วนความผิดตัวเองนั้น มองข้ามไป…ในใจนี่คิดภาพต่อจากนี้นต่อแล้วอ่ะ…
ที่มันได้ทำมากกว่าแค่เลียแผลให้
😥
ช่วยด้วยครับ….
_____ .
ทากะไม่คุยด้วยเลย บทสนทนาที่เกิดขึ้นจะมีแค่ประโยคที่จำเป็นเท่านั้น แล้วก็จะมีสายตาดุๆ เวลาที่เล่นกีตาร์แล้วเล่นไม่ตรงจังหวะ เขาจะหันมาทำตาขวางใส่แรงๆ แล้วหันกลับไปร้องเพลงของตัวเองต่อ
ชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่นี้มาได้สามวันแล้ว
หาจังหวะที่เขาอยู่คนเดียวไม่ได้เลย อยากจะคุยด้วยแต่เจ้าตัวไม่เปิดโอกาสให้  เวลาเดินเข้าไปใกล้ก็เริ่มก้าวเท้าหนี เขาเดินหนีทุกทีที่เราเริ่มจะพูดอะไร
ใจร้ายเกินไปแล้ว…
โทรุถอนหายใจรอบที่…..
นับไม่ได้ว่าถอนหายใจไปกี่ครั้ง
ต้องทำยังไงนะถึงจะยอมคุยด้วยอ่ะ อยากกลับไปคุยเหมือนเดิม ถ้าเอาแต่หนีกันแบบนี้จะเอาความกล้าที่ไหนไปขอโทษ…
โทรุมองตามคนตัวเล็กที่เดินกลับเข้าห้องนอนตัวเองไป ยืนอยู่หน้าประตูห้องทากะ คนอื่นเขาก็นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น รอจังหวะที่ทากะเดินมาอาบน้ำแล้วเดินเข้าห้อง ยืนพิงกำแพงห้องรอจังหวะเขาเปิดประตูออกมา เพราะถ้าเขาอาบน้ำเสร็จก็ต้องออกมาคุยกับคนอื่นอยู่ดี คนๆ นี้ไม่ได้นอนเร็วสักเท่าไหร่ เห็นทุกวันเวลาที่ออกไปนั่งคุยกับคนอื่น ทุกวันที่ทำได้แค่มองเฉยๆ
เคาะประตู….หรือไม่เคาะ แล้วถ้าเขาเปิดออกมาเห็นเรา ต้องเริ่มพูดอะไรก่อน จะพูดว่าไงให้เขายอมฟัง
ก่อนอื่นต้องขอโทษ
ขอโทษที่ทำอะไรตามใจชอบ
ขอโทษที่ทำตามใจคิด
ขอโทษ…
ถ้าไม่ชอบก็ขอโทษ ทีหลังจะไม่ทำ….
คิดแล้วก็เศร้า ทำไมต้องเศร้า…
เพราะว่าชอบเขามากล่ะมั้ง
เห้อ….
โทรุถอนหายใจรอบที่ล้าน คิดถึงความรู้สึกของตัวเอง ความจริงที่ก่อกวนหัวใจ อยากจะบอกเขาให้รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่กลัวเขารับไม่ได้
ถ้าพูดมันออกไป ก็กลัวจะไม่เหมือนเดิม
กลัวจะไม่ได้อยู่ข้างกันเหมือนเก่า
ทากะเปิดประตูออกมาในที่สุ��� เจ้าตัวผงะที่เห็นเขายืนพิงกำแพงอยู่ เขามองจ้องด้วยท่าทีไม่วางใจอีก จะปิดประตูกลับเข้าไปในห้องแล้ว
“ขอโทษ….”
บอกเขาไปแล้ว
“…….”
“ขอโทษนะ สำนึกผิดแล้ว”
ทากะยกมือขึ้นกอดอก มองจ้องมาแล้วก็ไม่ยอมพูดอะไร หน้าตาบึ้งตึงอีกแล้ว
โทรุเลยตัดสินใจจับข้อมือเล็กๆ ให้เดินตามมา ตอนแรกทากะก็ไม่ยอมหรอกแต่หันไปทำแววตาขอร้องเขา ให้ยอมเดินตามมาดีๆ
พาเขากลับไปที่ห้องซ้อมโดยที่ไม่ยอมให้มือโดนตัว
โทรุเดินไปที่กีต้าร์ของตัวเอง หยิบมันขึ้นมา นั่งลงที่โซฟาแล้วเริ่มเล่นเพลงที่ซ้อมอยู่เมื่อคืน
Have I told you lately that I love you?
Have I told you there’s no one else above you?
Fill my heart with gladness, take away all my sadness
Ease my troubles, that’s what you do
For the morning sun in all it’s glory
Meets the day with hope and comfort too
You fill my life with laughter, somehow you make it better
Ease my troubles, that’s what you do
There’s a love less defined
And its yours and its mine
Like the sun
And at the end of the day
We should give thanks and pray
To the one, to the one
ร้องคลอกับกีต้าร์ไปจนจบเพลง เสียงก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ฟังเสียงตัวเองแล้วรำคาญหู ไม่ชอบเสียงตัวเอง ชอบเสียงเขามากกว่า….
จบเพลงก็นั่งเก้อเพราะเขาก็ยังคงไม่พูดอะไร แค่ยืนมองมาเหมือนที่ทำอยู่นั้นสร้างปัญหา ไม่อยากเป็นตัวปัญหา…. ต้องทำยังไงหนอ
“ถ้าจะขอโทษก็แค่บอก….ไม่ต้องท่าเยอะ”
ก็รอจังหวะขอโทษแล้วทากะไม่ยอมเปิดโอกาสให้นี่ครับ มันเลยคาราคาซังหลายวัน จนทากะไม่ยกโทษให้ง่ายๆ แน่ คนมันก็ต้องคิดหาวิธีมา
คิดว่าถ้าทากะเผลอๆ เล่นเพลงนี้ขึ้นมา เขาอาจจะใจอ่อนบ้างก็ได้….
“…..”
“ไม่ชอบเหรอ…"
….ไม่ชอบกันเหรอทากะ
ทากะถอนหายใจ ไม่ตอบ ยกมือขึ้นกอดอกแล้วเม้มปาก  เม้มไปเม้มมาก็ทำท่าจะกัดปากตัวเองอีกแล้ว
ก็รู้ว่าเขาชอบกัดปากตัวเองตอนใช้ความคิดหนักๆ
โทรุยิ้ม เขายังไม่ได้ปฏิเสธ…
ปล่อยให้เขาคิดไปก่อนละกัน ถ้าโดนปฏิเสธมาทันทีเลยอ่ะน่ากลัว แบบนี้เรียกมีความหวัง
ค่อยๆ คิด…คิดไปนานๆ เรื่องของผมน่ะ
ไม่ต้องหยุดคิดเลยก็ได้
.  _____ .
อยากได้เพลงรักที่พูดว่ารัก เพลงที่แทนความรู้สึกทั้งหมดได้สักเพลง หาเพลงจนเจอเพลงนี้ มันดีจัง….ความหมายดีอ่ะ ชอบ
ฟิคเรื่องนี้ตอนแต่งเมื่อวานก็แต่งเล่นๆ ด้วยความที่หมั่นเขี้ยวคนที่ชอบกัดปากตัวเองอ่ะ เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวทุกที  ดูภาพกี่ทีก็นั่งยิ้ม คนเราหนอ…เผลอกัดปากบ่อยๆ น่ารัก
แล้วคนที่ชอบกัดปากตัวเอง จะมีทางหยุดกัดได้ไหมหนอ อยากรู้จัง แต่ดูถ้าแล้วทากะจะเลิกไม่ได้นะ ปากช้ำบ่อยมากกก  555
ฟิคจบแล้ว……สำหรับคืนนี้ ดึกแล้ว ไปนอนกันได้หนอ ^^ ขอให้ฝันดี ขอให้ฝันหวาน
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
Strawberry Candy boy  🍓🍭
Tumblr media
Strawberry Candy boy  🍓🍭
 Chapter  :  1 / 2 / 3 / 4
  ทากะเฟชไทม์มา โทรุรีบกดรับสาย หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นภาพเจ้าตัวกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ มือจับปากกาเขียนอะไรบางอย่างลงสมุด คงกำลังทำการบ้านสินะคนดี
 “วันหยุดนี้พี่โทรุจะมาหาผมไหมครับ” พอเงยหน้ามามองผม เขาก็ถามขึ้น เสียงอ้อน ๆหวานๆ มันชวนให้��ึ้นรถขับออกไปหาเดี๋ยวนี้
 ความสัมพันธ์พัฒนาจากเดิมไปไกลกว่าที่คิด หลังจากที่รู้จักกันมาได้หนึ่งปีเศษ ความสนิทสนมของเขากับทากะพัฒนาขึ้นจนเขาสามารถไปหาอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ แม่เขาไม่ว่าแถมต้อนรับขับสู้อย่างดี
 “ฝากทากะด้วยนะจ๊ะ”
 เขาบอกผมแค่นั้น....แล้วก็ไม่เคยพูดอะไรกับผมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
 โดยส่วนตัวแล้วการที่เขาไม่เคยมาถามถึงสถานะความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดนี้มันทำให้เผลอทำตัวอยู่ในกรอบที่ถูกที่ควรไปโดยปริยาย ที่จะไม่ขย้ำเจ้าสตอเบอร์รี่น้อยกินก่อนเวลาอันควร แม้คนในกล้องจะชอบใส่เสื้อกล้าม อวดคอกว้าง มองต่ำลงมาก็เห็นไหปลาร้าและผิวขาวๆ
 ก็คงอดทนได้อีกหน่อย....
 “ไม่ว่างเลย อาทิตย์นี้พี่ว่างแค่คืนนี้  ขับรถไม่ไหวแต่อยากไปหา พี่ไปหาได้ใช่ไหมครับ”
 บอกเขาไปแบบนั้น คนตัวเล็กหยุดมือที่กำลังเขียน ดีใจที่เขาบอกอย่างนั้น แววตาสดใสบอกความรู้สึกออกมาทั้งหมด  มุมปากอมยิ้มน้��ยๆ แต่ก็หยุดยิ้มในที่สุด ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ให้เขามา
 “ไม่ต้องมานะครับ ผมเป็นห่วง”
 "นั่งแท็กซี่แป๊บเดียวเอง"
 "ไม่เอา ไม่ต้องมานะ มันดึกแล้ว"
 "แล้วตัวเล็กไม่คิดถึงพี่เหรอ"
 "......"
 ทากะก้มหน้าลงมองที่โต๊ะ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกล้อง
 "...คิดถึงสิ...."
 เสียงสั่นเครือ....ที่ไม่ยอมเงยหน้าคงเพราะจะซ่อนน้ำตา
 เอาแล้วไง...
 ทำเด็กร้องไห้ ใครจะไปนอนหลับลงได้
 "สัญญานะว่าจะไม่มา ผมรอได้"
 ทากะขยับปากกาในมือ แต่ยังคงไม่ยอมมองกล้อง ให้ตายเถอะ มองจากตรงนี้เห็นหน้าไม่ชัดเลย
 "ผมทำการบ้านก่อนนะ พี่โทรุพักเถอะครับ" เสียงไม่สั่นเหมือนเมื่อสักครู่ แล้วทากะก็เอื้อมมือมากดวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่บอกว่าไม่เป็นไร
 แย่ อยู่ไกลๆ กันแบบนี้ ไม่สะดวกเลย โทรุยอมวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ ปล่อยให้น้องเขาทำการบ้านให้เสร็จก่อน เอาจริงตอนนี้ก็แค่สามทุ่มเอง ไม่ดึกเท่าไหร่ เดี๋ยวค่อยโทรไปคุยก่อนนอนอีกสักรอบ ไม่ไปหาก็ได้ ไม่อยากให้เป็นห่วง ยอมรอก็ได้....ไว้มีวันว่าง จะรีบไปหานะคนดี
  . 🍓 .
  เกือบทุกวันที่พอเสร็จจากงานแล้วก็จะรีบโทรหาทากะ ขอให้น้องเปิดกล้องเพื่อคุยกันแบบเห็นหน้า วันนี้ก็เช่นกัน โทรหาทากะขณะที่เดินไปที่รถ เมื่ออีกฝ่ายเปิดกล้อง ก็เห็นเด็กน้อยของเขากำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนที่นอน คงเพิ่งอาบน้ำแหละ ใส่ชุดนอนลายหมีบราวน์น่ารักจังครับ
 “วันนี้เดี๋ยวพี่ไปหานะแต่ขอกลับไปอาบน้ำก่อน”
 "..เอ๊ะ...มาเหรอ” เจ้าตัวเล็กที่นอนก้มหน้าก้มตาอ่านการ์ตูนหยุดอ่าน ถลันตัวลุกขึ้นนั่งมองแต่โทรุที่กำลังขับรถแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะคนนั่ง ก็เลยไม่ได้เห็นทากะที่ลุกออกไปจากหน้าจอ เพื่อเก็บของในห้องที่รกให้เป็นระเบียบก่อนพี่โทรุมาถึง
 "คิดถึงเราจัง"
 ทากะไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะมัวแต่เก็บของ
 "ทำไรอยู่เนี่ย"
 "เก็บห้องครับ แป๊บนึงนะ"
 "อ่อ..." คงจะกลัวเขาไปเห็นสภาพห้องรกๆ ล่ะสิ
 โทรุขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด บอกทากะขอวางสายสักครู่ ต้องขนข้าวของลงจากรถก่อน เมื่อเสร็จธุระแล้วถึงโทรกลับไปหาทากะอีกหน
 "ถึงห้องแล้วเหรอครับ"
 "อื้อ"
 "งั้นไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยโทรมา" ทากะบอก เจ้าตัวก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่เตียงอีกรอบ โทรศัพท์คงวางอยู่กับหมอนอิง
 ไม่ได้วางสาย ห้องมันเงียบไปนะ ถ้าไม่ได้ยินเสียงทากะ
 "พี่ไม่วางนะ ไม่กวนหรอก"
 ทากะได้ฟังแล้วก็อมยิ้มให้เขา
 "เหงาเพราะไม่ได้ยินเสียงผม"
 โทรุหัวเราะเมื่อได้ยิน เถียงไม่ออกเลย เดี๋ยวนี้รู้ทันไปหมดเลยน้า
 โทรุยิ้ม ตอนแรกก็ว่าจะไม่กวนแล้วแหละ แต่คนมันเหงาก็เลยหยิบโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำด้วย เอาไปไว้หน้ากระจกในห้องน้ำ ส่วนตัวเองก็ไปที่ฝักบัว อาบน้ำจนเสร็จ กลับมาที่โทรศัพท์ ทากะใกล้จะเคลิ้มหลับคาหนังสือที่นอนอ่านอยู่
 “ทากะ ไปนอนสิ” ผมบอกเขา เจ้าตัวก็เลยตื่นขึ้น ทากะลุกขึ้นไปปิดไฟในห้อง กลับมานอนตะแคง ตั้งโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเพื่อคุยกับผมต่อ แล้วก็คงเพิ่งเห็นผมที่ตอนนี้ตัวเปียกน้ำแล้วก็ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวสักชิ้น แต่กล้องจับภาพถึงแค่ช่วงเอว ไม่ได้เห็นต่ำไปกว่านั้น ในกล้องผมก็ดูเซ็กซี่ดีนะ...
 คนในโทรศัพท์เอามือเกาแก้ม ทำหน้าทำตาไม่ถูกเมื่อเห็นผมโป๊ออกกล้อง ผมเลยแกล้งเลื่อนโทรศัพท์ต่ำลงมาใต้สะดือ ทากะหน้าเหวออย่างเห็นได้ชัด อีกนิดเดียวก็จะโป๊หมดแล้ว
 “พี่โทรุ!!” ทากะร้องเมื่อผมตั้งใจเลื่อนกล้องให้ต่ำไปกว่าระยะปลอดภัย
 แต่ผมเบี่ยงเอวหนีก่อน ก็เลยเห็นแค่สะโพกด้านข้าง อมยิ้มน้อยๆ ตกใจอะไรกันนะเด็กดี
 "ผมนอนละ" คนแก้มแดงๆ ตั้งใจกดสายโทรศัพท์ทิ้ง ทำไมใจร้ายกับพี่จังน้อง
 โทรุแต่งตัวหยิบของเสร็จก็เดินไปที่รถ เปิดหาเพลงฟัง
  IN THE STARS feat Kiiara 
  ที่จริงอยากให้คนที่แกล้งหนีไปนอนร้องให้ฟังเองมากกว่า ^^
  /🍓/
   “ถึงไหนแล้วครับ”
 ในที่สุดทากะก็โทรกลับมา เขากดรับสาย เสียงน้องออกลำโพงบลูทูธรถ
 “ออกนอกเมืองมาแล้ว....”
 “อย่าขับเร็วนะครับ”
 ....ผมเป็นห่วง
 “ผมเป็นห่วง”
 ถึงจะเป็นประโยคที่เขาพูดให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ
 ก็ยังคงอยากได้ยินจากเขาอยู่ดี
 “ขอบคุณครับที่เป็นห่วงพี่” ยิ้มเมื่อพูดตอบเขาไป ถึงเขาจะไม่เห็น แต่รู้ไหมว่าพี่มีความสุขมากๆ ที่ได้อยู่กับเรา หุบยิ้มไม่ลงเลยเนี่ย
 เราคุยกันไปตลอดทาง ผมถามถึงเรื่องที่โรงเรียน เขาถามถึงเรื่องงาน จนเขาเริ่มไม่พูดอะไร คงง่วงแล้วแหละ
 “ไปทัศนศึกษาวันที่เท่าไหร่นะ?”
 “.....”
 ไม่ตอบกลับมาแล้ว คงหลับคาโทรศัพท์
 ได้ยินเสียงกรนเบาๆ ฝืนคุยเป็นเพื่อนตั้งนาน ดื้อ..ไม่ยอมไปนอน อยากดึงมากอดตอนนี้เลยให้สมกับความน่ารัก
 ร่างเล็กในชุดนอนหมีบราวน์แสนน่ารักนอนตะแคงกอดหมอนข้างหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่ม  ใบหน้าแนบอยู่บนหมอน แม้จะเอามือวางบนศรีษะลูบเส้นผมนิ่มก็ยังไม่ตื่น  โทรุวางหยิบโทรศัพท์ออกมา จัดการถ่ายรูปคนหลับเก็บไว้หลายๆ รูป โทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยรูปของคนตรงหน้า ถ่ายปุ๊บรูปก็ถูกอัพโหลดเก็บไว้อัตโนมัติไม่ต้องกลัวภาพหายแต่อย่างใด แสนหวงทุกภาพที่มี เวลาเหนื่อยๆ ก็เอาออกมาดู รูปของทากะเป็นแหล่งเติมพลังอย่างดี
 โทรุเดินเอากระเป๋าไปไว้ที่โต๊ะ เข้าห้องน้ำ เดินกลับมาที่เตียง สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเดียวกัน หลับตาลงเพราะเหนื่อยมากแล้ว พรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีแรงขับรถพาน้องไปเที่ยว
 คิดว่ามันจบแค่นี้รึเปล่า?
 ที่จริงมันก็ไม่ได้จบแค่นี้หรอก เพียงแต่บางเรื่องถ้าถูกเปิดเผย ภาพลักษณ์พี่โทรุคงจะดูไม่ดี
ไม่มีอะไรหรอก...แค่จูบกันก่อนนอนนิดหน่อยเอง
/🍓/
เช้าของอีกวัน ทากะตื่นก่อน คนตัวเล็กลุกออกไปก่อนปล่อยให้เขานอนต่อไปเรื่อยๆ จนเกือบเก้าโมง ตื่นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปรอบๆ ห้อง
 เกือบจะหลับต่อแล้วถ้าหากว่าไม่ได้ยินเสียงฝักบัวดังมาจากในห้องน้ำ
 ตาสว่างวาบตื่นแล้วฉันพลันความคิดมันก็ทำงานไวเหลือเกิน รู้สึกตัวอีกทีคือยืนอยู่หน้าห้องน้ำ มือขยับลูกบิดประตู ไม่ได้ล็อก สามารถบุกรุกเข้าไปง่ายดาย ห้องน้ำขนาดเล็กแค่ห้าก้าวก็เดินไปถึงฝักบัวอาบน้ำ ภาพคนตัวเล็กที่ยืนหันหลัง กำลังเริงร่ากับการใช้มือถูกฟองสบู่ไปทั่วลำตัว มองจากด้านหลังตัวบางนิดเดียว แผ่นหลังเปียกสบู่ เอวบางๆ ทากะยืนฮัมเพลง ส่ายสะโพกน้อยๆ ไปมาตามจังหวะเพลงที่ฮัม เสียงฝักบัวดังจนกลบเสียงอื่นไปหมด ทากะไม่ทันได้���ินเสียงเปิดประตูด้วยซ้ำ คงคิดว่าผมยังหลับอยู่
 เลือดกำเดาจะไหล...
ภูมิต้านทานน้องน้อยลงทุกวัน พี่จะทนไม่ไหวแล้วรู้บ้างไหมหนอ
 ทำไงดี อยากเข้าไปสัมผัสแต่ว่าถ้าหากได้ลองสัมผัส จิตใจฝั่งดำมืดจะครอบงำแล้วก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทากะก็ยอมให้ทำอะไรตามใจชอบ ไม่ห้าม เพราะไว้ใจ...
 ความไว้ใจนี่เป็นอะไรที่น่ากลัวนะ น้องเขาจะรู้ไหมว่าต้องเจอกับอะไร ...ยากจังน้า อยู่กับคนน่ารักที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องมีความอดทนขนาดไหนถึงจะระงับอารมณ์ ดับกิเลสลงได้ทุกรอบ 
แต่ในที่สุดโทรุเดินหันหลังออกมา มือปิดประตูห้องน้ำลงด้วยความเสียดาย ต้องตัดใจ ไม่ทำอะไรก็ได้ จะอดทนไว้ อีกนิดนึงก็ได้...
 คิดว่าถ้าแม่เขาขึ้นมาเห็นอาจจะไม่รอด 
แล้วก็...โทรุยิ้มมุมปาก ก็ยังมีภาพเก็บไว้ดูในโทรศัพท์อ่ะนะ 
ก็ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มาบันทึกรูปไว้ด้วย ก็นิดนึงอ่ะ ทากะน่ารักมาก ถ้าไม่ได้แตะตัวก็อยากมีภาพเขาไว้ดู 
เห็นใจพี่บ้างเถอะนะน้อง...ต้องคอยระงับกิเลส จะตายแล้วเน้อ
 แล้วผมก็แกล้งทำเป็นหลับต่อให้ทากะมาปลุก น้องอยู่ในชุดโค้ทสีขาวตัวยาว กางเกงสีขาว เสื้อก็ขาว ทำไมแต่งตัวแบบนี้ ใครสอนให้แต่งตัวแบบนี้เนี่ย! มันจะน่ารักเกินไปแล้ว แล้วรู้ไหมมาปลุกผมในชุดนี้ รู้ไหมคนดีว่าอยากดึงลงมากอดแล้วไม่ออกไปไหนเลย
...แองเจิ้ลบอยที่น่ารัก...
  🍓;
  บ่ายแก่แล้วหลังจากที่เราเข้าไปทานร้านราเม็งชื่อดัง จากนั้นเราสองคนเดินไปตามถนน เดินไปเรื่อยจนถึงหน้าสะพานข้ามศาลเจ้า อากาศเย็นแต่น้อยกว่าช่วงฤดูหนาว สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังผลิดดอกบานสะพรั่ง ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว รู้ตัวอีกทีก็ใช้เวลาด้วยกันข้ามปีไปด้วยกัน จากฤดูใบไม้ผลิปีก่อนจนเข้าปีที่สองที่รู้จักกัน โชคดีเหลือเกินที่ได้เจอทากะ ความบังเอิญในชีวิตที่โชคดีที่สุด ผมมีความสุขมากๆ ตั้งแต่ได้เจอน้อง
 “ราเม็งอร่อยมากเลยครับ” ทากะยิ้มกว้างตอนพูดถึงราเม็งที่เพิ่งกินไป เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าร้านนี้น่ะเป็นหนึ่งในบรรดาหลายสิบร้านที่เลือกไว้ หารีวิวอย่างละเอียดแล้วว่าเด็กๆ ชอบกินราเม็งร้านนี้ที่สุดถึงพามาร้านนี้ ถามว่ามีเวลาไปเซิร์จข้อมูลขนาดนั้นเหรอ ไม่มีหรอก ใข้คนแถวนี้ทำให้ คนที่แอบถ่ายคลิปผมกับน้องจูบกันไว้น่ะแหละ ถึงแม้สุดท้ายจะยึดคลิปมาก็เถอะ
 “ก็ตั้งใจพามา”
 “ขอบคุณมากๆ นะครับ”
 “ดีใจที่ได้พามานะครับ” พอเห็นเขายิ้มกว้างผมน่ะ...จะยิ้มกว้างกว่า  ผมสิที่โชคดีที่มีเขา
 เราสองคนเดินไปเรื่อยๆ  ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดส่วนตัว จนเราเดินเข้ามาในศาลเจ้า ต่างคนต่างหยิบกระบวยตักน้ำขึ้นมาล้างมือทั้งสองข้างก่อนจะเข้าไปด้านใน คนค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นวันหยุด เราไปยืนไปยืนต่อแถวคนข้างหน้าจนถึงคิวตัวเอง ก้าวเข้าไปสั่นกระดิ่ง โยนเหรียญโค้งคำนับแล้วยกมือไหว้ ทากะขยับตัวออกไปด้านข้างให้ผมได้ทำบ้าง มือสั่นกระดิ่ง โยนเหรียญ โค้งคำนับ ก่อนจะพนมมือทั้งสองแนบอก ความคิดไหลวนอยู่กับสิ่งที่ขอ เรื่องอนาคต เรื่องคนข้างๆ นี่ด้วย
 เราสองคนเดินกลับออกไปตามทางเดิม มองดูต้นซากุระที่บานสะพรั่งตลอดข้างทาง หวังว่าปีต่อไปก็ยังจะได้มาดูด้วยกัน นี่ผมคงจริงจังมากขึ้นทุกวัน...
 “ทากะ ถ้าพี่บอกแม่เรื่องความสัมพันธ์ของเรา เราจะโอเคไหมครับ”
 เจ้าตัวเล็กหันมามองหน้าผม เราหยุดเดินที่ใต้ต้นซากุระต้นหนึ่ง ลมพัดมาพอดี ดอกซากุระกำลังปลิวหล่นจากต้น เราสองคนต่างแหงนหน้ามอง มันเป็นภาพที่สวยงามจนไม่อาจละสายตาได้เลย ทากะที่อยู่ใต้ต้นซากุระ ประกายตาสดใสของวัยเด็ก เปล่งประกายจนไม่อยากทำให้แปดเปื้อน
 “แม่รู้อยู่แล้วครับ”
 “รู้?”
 “ผมบอกเองว่าชอบพี่”
 เป็นผมเองที่ตกใจ นี่เดี๋ยวต้องพาลูกเขาไปส่งที่บ้าน แล้วผมจะกล้ามองหน้าแม่เขาไหม
 ทากะเลิกคิ้วขึ้น ยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเองที่ขึ้นสีเรื่อก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น น้องเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าหลุดปากพูดอะไรออกมา 
น่ารัก.......ฉิบหาย!
 ทากะตัวสั่นเมื่อลมเย็นๆ พัดมาอีกรอบ ผมย้ายตัวเองมายืนเหนือลม จับมือเล็กๆ นั้นไว้ในเสื้อโค้ทตัวหนาทั้งสองข้าง มือน้องอุ่นขึ้นเพราะมือผมเข้ากอบกุมใต้เสื้อโค้ท เขาดูเขินอยู่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา ผมก็ปล่อยให้เขาเขินไป 
ตอนนี้แค่มองความน่ารักตรงหน้าแล้วอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป
อดทนต่อไป....
เรื่องแค่นี้เอง...
ก็น่ารักจนไม่อยากทำให้มีรอยด่างพร้อย ช่วงวัยที่กำลังสดใส มีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเจอ ถ้าวันนั้นมาถึงและเขายังไม่เปลี่ยนใจไปจากผม 
ผมจะรอ
END
^^ ในที่สุดก็มาถึงตอนนี้แล้ว ข้ามปีกันเลยอ่ะคู่รักสตอเบอร์รี่ ก็ไม่คิดว่าเขาจะอดทนไหวนะ....โทรุอ่ะ 55555 
ฤดูร้อนอีกแล้ว ร้อนจะตายแล้ว ใครจะบินไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ฝากดูซากุระเผื่อด้วยเด้อ
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
Hogwarts AU : เขิน
Tumblr media
 (ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว... จิ้ม)
     ทากะสวมชุดนอนแล้วก็ไล่โทรุกลับบ้านเรเวนคลอไป จะให้ตามเข้ามานอนด้วยในบ้านฮัฟเฟิลพัฟด้วยคงเป็นไปไม่ได้
 โทรุจะงอแงไม่ยอมกลับ อยากจะมานอนด้วย ดื้อดึงจะใช้คาถาพรางตาเพื่อมานอนด้วยกันให้ได้ ทากะก็เลยต้องขู่
 'ถ้าไม่กลับไปนะ พรุ่งนี้ไม่ต้องคุยกัน'  
 เจ้าตัวก็เลยยอมปล่อยมือที่จับตัวเขาไว้แล้วกลับห้องไปแต่โดยดี
 ต่อให้ทำหน้าเศร้าหรือจะทำเป็นคอตกไม่ยอมสบตา หนีกลับไปด้วยท่าทางที่เหมือนจะงอนกัน
 บอกเลยว่าไม่เชื่อสักอย่าง
 ตั้งแต่รู้จักกันมาก็ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันเพิ่มขึ้น อย่างโทรุต่อให้บอกว่าไม่สบาย ก็ต้องคิดเผื่อไว้ก่อนว่าเขาใช้คาถาทำให้ตัวเองไม่สบายรึเปล่า ถึงเจ้าตัวพยายามทำตัวน่ารักให้เห็น แต่ความทรงจำที่ทั้งหมดที่เกี่ยวกับโทรุตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงตอนนี้ ค่อนข้างที่จะ...............................................
  เพราะฉะนั้น....มาตีหน้าเศร้าเหรอ กลับไปนอนไป!
   ทากะแทบจะเดินไม่ไหว ระยะห่างจากเตียงถ้ามากกว่านี้อีกแม้แต่ก้าวเดียวคงได้ลงไปนอนกองลงกับพื้น ก็ได้แต่ฝืนใจพยุงตัวจนมาถึงเตียงนอน ก้าวขาขึ้นไปนอนได้สำเร็จก็แทบจะหลับไปในทันทีทันใด เรียกได้ว่าอ่อนเพลียจนหลับไป
  ตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวัน ยังไม่ทันที่ทากะจะได้ขยับตัวลุกจากเตียงไปไหน รู้สึกถึงความร้อนจากผิวเนื้อที่เบียดลงมาโดนแขน พอดูให้ดีก็พบว่าที่โดนตัวนั้นคือใบหน้าของคนๆ หนึ่งที่ถูกไล่ให้กลับห้องไปเมื่อคืน
เอาหน้ามาเกาะติดแหมะอยู่บนแขนของเขา มือยาววางพาดรอบเอว ใบหน้านั้นแนบลงบนท้องแขน ขาข้างหนึ่งก่ายทับขาของเขา ถ้าไม่ได้นอนหลับสนิทคือคงต้องผลักออกไปนอนห่างๆ เพราะความอึดอัด
    .......ดื้อ
 .......สุดท้ายก็ไม่ยอมกลับ ดื้อมาก
     .......เดี๋ยวนี้ไม่กลัวคำขู่แล้วสินะ
 .......เดี๋ยวเถอะ
    ทากะเอามือดันหน้าโทรุให้ออกไปจากแขนของตัวเอง เจ้าตัวสะดุ้งตื่นมาเพราะหัวตกลงไปบนที่นอน โทรุลืมตาขึ้น แม้จะงัวเงียอยู่ แต่พอได้สบตากัน คนผลักเช่นเขาก็ดันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ความทรงจำมันยังคงชัด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำพรีเฟ็ค โทรุกับเขาที่พัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่าเดิม
 เลือดทั้งหมดพลันสูบฉีดไปเลี้ยงใบหน้า ทากะพลันหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่โฟกัสกับสิ่งใด สถาณการณ์ซุ่มเสี่ยงที่จะให้อีกฝ่ายได้เห็น ตอนนี้ใบหน้ามันฟ้อง เดี๋ยวเขารู้ว่าเขินเรื่องเมื่อคืนอยู่
    แก้มร้อนฉ่า.....หยุดไม่ได้
 ร้อนแบบว่าร้อนจนแก้มชาไปทั้งสองข้าง
    "ฉันเป็นห่วง...ก็เลยไม่ได้กลับห้อง"
“เสกคาถาเพิ่มพลังให้แล้วนะ....”
“โกรธเหรอ....ทากะ” 
“ทากะ....ไม่โกรธกันนะ....” 
“ไม่โกรธกันนะครับคนดี....”
   ทากะ............ไม่ได้โกรธ.......ก็แค่.......เขิน จนหันกลับไปมองหน้าโทรุเขาไม่ได้
   ส่วนโทรุนั้นได้แต่แอบยิ้มไม่ให้ทากะเห็น แก้มแดงน่ารักสุดๆ ไปเลย...ครับ
รอสักพักละกัน...รอให้เขาหายเขิน 
ไม่งั้นเดี๋ยวโดนไล่กลับห้องไปอีกรอบ....อิอิ
.
.
มีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างน้า ^_^ 
คิดถึงคู่นี้นะคะ ไม่ได้แต่งนานแล้วอ่ะ 
สวัสดีปีใหม่นะค้า ตอนนี้เป็นหวัดรับปีใหม่.....ปวดหัวมากเลย 
ผลของการไม่ยอมพัก...ต้องนอนเป็นผัก.....แล้วเนี่ย เห้อ.....
...
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
ต่ายน้อยและยัยขี้อ้อนกับวันปีใหม่ของทั้งคู่ 🎉
Tumblr media
ฤดูหนาว อุณหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ  เหล่าใบไม้พากันร่วงลงไปจากต้นจนหมด ต้นไม้หลายต้นถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลซีด บรรยากาศเงียบเหงา เมืองทั้งเมืองดูเหมือนตกอยู่ในความเงียบ 
ยังดีหน่อยที่ในเช้าวันหยุดอากาศอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยเพราะมีฝนตกในช่วงเช้า โทรุก็มาชวนไปเดินเล่น ไหนๆ ก็จะสิ้นปีแล้ว นอกจากทำความสะอาดบ้านแล้วก็ยังไม่ได้ไปไหนเลย ชักเบื่อก็เลยตอบตกลงไป
โทรุขับรถมารับก่อนจะไปจอดที่สวนสาธารณะ ทันใดที่เปิดประตูลงจากรถ ลมที่พัดมาทีหนาวไปถึงกระดูก
"หนาวจัง" ทากะยกมือขึ้นกอดอก แม้จะแต่งชุดหนามาพอสมควรแต่ก็ยังรู้สึกสั่นๆ เมื่อโดนลมเย็นๆ เข้ามาปะทะใบหน้า
โทรุเดินมาหา ปล็ดผ้าพันคอที่ตัวเองพันอยู่จะมาคลุมตัวเพิ่มให้
"ไม่ต้อง แค่เย็นหน้าเฉยๆ" ทากะรีบปฏิเสธ ไม่ได้หนาวขนาดนั้นหรอก ขี้เป็นห่วงสมกับเป็นโทรุ
งั้นคนตรงหน้าก็เลยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแนบแก้มให้ ใบหน้าติดอมยิ้มนิดๆ กระพริบตาปริบๆ ทำตัวเป็นเครื่องทำความร้อนให้อีก 
อยู่กับคนอ้อนเก่งนี่มันจะเข้าวังวนนี้ตลอดเลย
ทากะหันหน้าหนี รีบชิงเดินข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง โทษโทรุอยู่ในใจ  นอกจากแก้มจะอุ่นขึ้นแล้วยังทำให้ใจเต้นแรงขึ้นด้วย ไม่ได้เจอกันหลายวัน ภูมิต้านทานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
โทรุรีบเดินตามมาข้างๆ ให้ทัน ทากะเดินไปจ่ายค่าตั๋วเข้าชมสวนแล้วยื่นตั๋วใบหนึ่งมาให้ตัวเขา แก้มของคนตรงหน้ายังแดงอยู่เลย โทรุอมยิ้ม
พอพี่เห็นผมยิ้มพี่ก็หันหน้าหนี ไอ้เรามันก็ตรงไปตรงมาไง คิดอะไรก็แสดงออกมาให้รู้ ส่วนพี่ชอบเก็บทุกอย่างไว้ในใจ ต้องให้ผมคอยสังเกตแล้วก็พบว่าเวลาได้เห็นอะไรดีๆ จากการสังเกต จะฟินไปอีกเป็นสิบวัน
เดินเข้ามาในสวนกันแล้ว มีคนออกมาเยอะพอสมควร ข้างในสวนนั้นเป็นพันธุ์ไม้แปลกตาที่ตั้งใจจัดให้สวยงาม ตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ ให้ถ่ายรูป ฤดูกาลนี้แม้ไม่มีดอกไม้ให้ชื่นชมสักเท่าไหร่ แต่ก็มีบรรดาต้นไม้ตระกูลสนที่เปล่งสีเขียวเข้มจัดน่าดู ส่วนค่าเข้าชมก็ราคาถูกมาก ถือว่าเป็นค่าบำรุงต้นไม้พวกนี้ 
ทางเดินเปียกน้ำฝนทำให้เดินกันอย่างยากลำบาก ต้องหลบหลุมที่เปียกน้ำ จากที่ตั้งใจจะเดินเล่นเลยเปลี่ยนใจหาม้าหินอ่อนนั่งมองผู้คนที่เดินเข้าไปในสวนแทน  สีสรรของเสื้อกันหนาวสีสดของบรรดาหนูน้อยที่คุณพ่อคุณแม่พามาวิ่งเล่นทำให้บรรยากาศเทาๆ ของฤดูหนาวดูสดชื่นขึ้นมาทันใด  
เขาปล่อยสายตาเรื่อยเปื่อยไปกับผู้คน แต่สุดท้ายก็หันกลับมามองคนข้างๆ อยู่ดี
ชอบมองเขา เขาจะยิ้มเวลาเห็นเด็กน้อยวิ่งผ่านไป ชอบมองสัตว์เลี้ยงที่ถูกพามาเดินเล่นอย่างวันนี้มีหมาชิบะตัวหนึ่ง เดินๆ ไปก็ขี้เกียจเดิน นอนลงกับพื้นไม่ยอมขยับตัว เจ้าของต้องอุ้มมันกลับบ้าน พี่ทากะหัวเราะชอบใจใหญ่ 
มีรอยยิ้มตกผลึกอยู่ข้างในแววตา เผลอนิดเดียวมันอาจจะอันตธานหายไป ก็ไม่เป็นไร...ยังมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันอีกนาน เพราะผมจะอยู่ตรงนี้แหละ 
ไม่หนีหายไปไหนอีกแล้ว...
________ 🎉 ______________
'วันปีใหม่ฉลองที่ไหนกันดี'
โทรุส่งข้อความมาถามในกลางดึก ผมอ่านแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร  จนโทรุส่งข้อความมาถามอีกรอบ
'อ่านแล้วไม่ตอบ คิดอยู่เหรอว่าจะไปไหนกัน'
ไม่ใช่ล่ะ...ขี้ตู่อ่ะ
'ทำไมไม่อยู่กับครอบครัว'
'วันสุดท้ายเขานอนกันหมด ไม่มีใครตื่น'
'งั้นเราก็ไปนอนสิ เจอกันปีหน้าเลย'
'อะไรกัน เป็นแฟนกันต้องฉลองด้วยกันสิ'
'จะนอนข้ามปี'
'งั้นไปนอนด้วย จะไม่กวนเลย จะนอนเงียบๆ'
‘อย่าดื้อ’
‘ปีใหม่อ่ะทั้งที อยากกอดพี่ข้ามปีไม่ได้เชียว...เส้า’
แค่อ่านที่พิมพ์ก็นึกถึงหน้าเจ้าตัวได้เลยนะ หูตก หางลู่ น้ำเสียงแบบเด็กโดนทิ้ง
‘...เออๆ มาก็มา แต่ไม่ทำโซบะข้ามปีให้นะ...’
‘เย้!!’
[ทำเป็นใจร้ายไปงั้นเองแหละ ยังคิดอยู่ว่าเขาจะมาหาไหม...เราสำคัญพอรึเปล่า]
ก็คือดีใจน่ะแหละ ได้ฉลองปีใหม่ด้วยกันปีแรก
มีความสุขแต่ก็กังวลไปเรื่อย...นี่แหละตัวผม คงแก้ยาก
________ 🎉 ______________
วันสิ้นปีโทรุมาหาตั้งแต่เย็น เราสองคนเปิดทีวีแล้วนั่งดูกันไปเรื่อยๆ เราสองคนกินมื้อเย็นง่ายๆ ที่บอกว่าไม่มีโซบะผมก็ทำเป็นพูดไปงั้น ถึงเวลาก็ทำรอให้เขามากินด้วยกัน แล้วผมก็เตรียมอาหารไว้สำหรับพรุ่งนี้เช้าไว้แล้ว เป็นโอเซจิเรียวริที่ซื้อมาจากร้านดังเลยนะ
เช้าอีกวัน ผมนั้นตื่นก่อน ส่วนโทรุยังคงไม่ตื่น แม้จะเดินเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดแล้ว เดินกลับมาที่ห้อง โทรุก็ยังคงหลับอยู่ 
ก็เมื่อวานน่ะสิโทรุที่เอาเวลาไปดูรายการถ่ายทอดสดข้ามปี  บอกว่าจะดูสาวๆ เกิร์ลกรุ๊ปเต้นก็เลยไม่ยอมหลับยอมนอน ส่วนผมนั้นหนีไปนอนที่เตียงตั้งแต่สี่ทุ่ม กว่าโทรุจะกลับมานอนด้วยกันก็คงรายการจบ
เข้ามานอนกอดจากด้านหลัง ดึงเข้าไปกอดจนแผ่นหลังแนบไปกับแผ่นอกเขา รับรู้ถึงจังหวะโอบของเรียวแขนที่วางอยู่บนรอบเอว 
กอดผมไว้แน่น....กอดแบบที่บอกว่าจะขอนอนกอดข้ามปี 
มันก็...รู้สึกดีแหละ ดีมากกว่าที่คิดไว้... 
แย่จัง...ตรงที่มันรู้สึกดีมากๆ นี่แหละ 
ถ้าสักวันขาดเขาไปจะทำยังไง....
[ตกลงว่าได้กอดข้ามปีหรือดูรายการถ่ายทอดสดจนหมดปีแล้วมานอนด้วยกันนะ?]
ทากะย่อตัวลงนั่งมองจ้องมองใบหน้าคนหลับ ผมยุ่งตกลงมาปรกหน้าเล็กน้อย มีเสียงกรนฟ้องว่าหลับสนิท หรือจะปล่อยให้นอนไปก่อนดี
งั้นปล่อยเด็กขี้เกียจไปสักวัน อยากตื่นตอนไหนก็ตื่นละกัน
ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับไปที่ประตูห้อง คงลงไปหาอะไรทำข้างล่างก่อนแหละ
มีคนตัวใหญ่ๆ มานอนยึดเตียงตั้งแต่ปีแรกของวันเลย
เอาเป็นว่าถ้าตื่นแล้วจะปลุกไปศาลเจ้าล่ะ 
ปีนี้จะได้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามานะ!
“สวัสดีปีใหม่ครับพี่..........ฝากตัวด้วยนะครับ....ปีนี้” 
คนบนเตียงส่งเสียงงึมงำไล่หลังคนที่ปิดประตู คงจะได้ยินหรอก เขาเดินลงบันไดไปแล้ว
_____  🎉 _____
สวัสดีปีใหม่นะจ้ะ ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคแก้บนในทวิต ในตอนนี้เป็นตอนที่ยกขึ้นมาแต่งเพิ่ม เนื่องจากผลโหวตลงมติว่าอยากอ่านฟิคสองเรื่อง แต่ด้วยที่อีกเรื่องเพิ่งแต่งลงในวันคริสต์มาส เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดถึงฟิคเรื่องนี้มากๆ เหมือนกัน 
ขอบคุณสำหรับฟีดแบ็คฟิคในทุกๆ ตอนตลอดปี 2018 นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเมนท์ ขอบคุณทุกเมนต์นะคะ รวมทั้งการกดไลค์ทวิตหรือการรีฟิคทุกตอนไป เราดีใจมากจ���ิงๆ ค่ะ ไงก็ปีนี้เราก็ขอฝากตัวด้วย คาดหวังว่าจะมีพลังแต่งฟิคไปเรื่อยๆ โดยไร้อุปสรรคใดๆ 
ปี 2019 ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า ไม่เจ็บไม่ป่วย เจอปัญหาก็ผ่านไปได้ ใครเจ็บขอให้หาย ใครช้ำขอให้เจอคนที่ดี ใครรวยแล้วก็รวยยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ความหวังยังคงอยู่ในใจเต็มเปี่ยม 
ไงก็...เรามาพยายามไปด้วยกันนะคะ อยากได้อะไรก็ต้องพยัมน้า ทากะบอก....... ^__^
ปล.1 ขอบคุณสตอรี่หมาชิบะขี้เกียจๆ จากทวิตเตอร์ น่าร้าก
ปล. 2 ดีใจจังโทรุมาเคาท์ดาวน์ที่ไทย เป็นปลื้มมากๆ ปีหน้าจะมาอีกไหมนะ พาทากะมาด้วย อิอิ
Tumblr media
0 notes
10969rainbow · 5 years
Text
TORUKA 🎀 :🎄
TORUKA 🎀  
  🎄 メリクリ
Tumblr media
   เช้าวันนี้ทากะตื่นขึ้นมาก็รู้สึกตัวสั่นๆ ทำไมรู้สึกเย็นกว่าทุกวันนะ หรือว่า... 
ทากะเดินออกไปมองที่นอกหน้าต่าง พื้นถนนถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน ทางเดินสองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ เจ้าหิมะแอบตกลงมาเมื่อคืนนี่เอง
 ฤดูหนาวมาเยือนในที่สุด คนที่ขี้หนาว เกลียดอากาศหนาวๆ จึงชอบซุกตัวอยู่แต่ในที่อุ่น ไม่ออกไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ แค่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านแล้วก็กลับ นอกนั้นก็มุดตัวอยู่ในบ้าน รอให้ความหนาวเย็นของฤดูกาลนี้ผ่านไปโดยใช้เวลาช่วงนี้อยู่ในบ้านกับโทรุ โทรุเองก็ทำงานอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน
 ทากะแง้มบานหน้าต่างออกเล็กน้อย ลมหนาวปะทะใบหน้า รู้สึกสดชื่นกับอากาศเย็นแค่ร่างกายตัวเองนั้นแพ้อากาศหนาว พอลมพัดมาอีกวูบรู้สึกหน้าชาๆ จนต้องรีบปิดหน้าต่าง ก็ยังคิดไม่ผิดว่าอากาศหนาวอันตรายเกินไป จะทำให้ป่วยเอาได้ รีบเดินกลับเข้าไปในครัวคิดถึงอะไรที่ทำให้ร่างกายอุ่น นึกถึงคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ ถ้าเพิ่มความอุ่นของร่างกายด้วยชาสักแก้วคงดีไม่น้อย
 ทากะจัดแจงชงชาร้อนสักกา หยิบคุ้กกี้ที่อุ่นจนร้อนจัดใส่จานก่อนจะยกถาดที่วางถ้วยชากับกาน้ำชาเข้ามาในห้องนั่งเล่น เจ้าตัววางมันลงบนโต๊ะตรงหน้าโทรุในเสื้อสีเหลืองตุ่นที่กำลังนั่งอ่านหนังสือบนโซฟา โทรุเงยหน้าขึ้นมองมาก่อนจะยิ้ม เป็นยิ้มที่แสนน่ารักจัง ทากะเทน้ำชาลงถ้วยให้โทรุ เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วรับถ้วยชาไปจิบ “ขอบคุณนะครับ” เขายิ้มผมก็พลอยยิ้มไปด้วย
ช่วงนี้โทรุเขาขยันรีวิวหนังสือและหนังอยู่บ้านไม่ค่อยไปไหน ครึ่งเดือนที่ผ่านมาเลยอยู่ด้วยกันทั้งวี่ทั้งวัน เขาก็อยู่เงียบๆ ทำงานของเขาไป ส่วนผมก็เรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ ของผมนี่แหละ ทุกวันที่ผ่านไปก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ในหนึ่งวันนอกจากทำงานบ้านกับทำอาหารแล้ว นอกนั้นก็มีการเปิดหาหนังดูในทีวีที่จะทำบ���อยสุด บางวันก็เปิดทีวีให้เสียงมันดังไปทั่วห้องแต่นอนเล่นโทรศัพท์ ผมให้ทีวีอยู่เป็นเพื่อนจนชินไม่รำคาญเสียงทีวีแต่อย่างใดแต่ถ้าวันไหนโทรุอยู่ด้วยก็จะไม่เปิด เขาต้องการความเงียบเพื่อที่จะทำงาน ผมเองก็จะเปลี่ยนมานั่งเล่นโน้ตบุ๊คไม่ก็อ่านหนังสือแทน
 หนังสือก็แทบไม่เคยซื้อเพิ่ม แค่เล่มที่โทรุหยิบกลับมาบ้าน ผมเองรู้สึกว่ามันเยอะจนอ่านไม่ไหวแล้ว โทรุเขาถามอยู่ว่าอยากจะรีวิวหนังสือเป็นเงินค่าขนมเล่นๆ ไหม แต่ผมทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้ใช้เงินตัวเอง จะทำมันไปทำไมล่ะ
 นั่งมองเขาตอนทำหน้ายุ่งๆ ดูโทรุอ่านไปบ่นไปเวลาเจอเล่มที่เขียนไม่ถูกใจ เขาจะเล่าเนื้อหาให้ฟังอย่างละเอียด บอกข้อกังขาที่ติดใจในเล่มนั้นให้ฟังทีละฉาก ใส่อารมณ์ตอนเล่า ทำมือไม้ประกอบ บางทีมีหยิบกระดาษมาวาดรูปตัวละครในหนังสือ พอผมแกล้งทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง เขาก็ยอมเสียเวลาอธิบายนานขึ้น ลงทุนเอาแม็คบุ๊คมาเปิดหารายละเอียดที่ผมไม่เข้าใจ พยายามอธิบายอย่างสุดความสามารถ
 เนี่ย...แค่นี้ก็สนุกแล้วจะต้องอ่านเองทำไมนะ ดูเขายุ่งๆ หัวฟูอ่านหนังสือของเขาไปดีกว่า
  "แล้วช่ว���นี้ไม่มีงานเหรอ...ไม่เห็นไปไหนเลย" ทากะถามตอนที่โทรุเอนแผ่นหลังเอนพิงโซฟา ในมือยังคงมีถ้วยชาถือไว้ เป็นช่วงเวลาที่เขากำลังพักสายตาสักครู่ ทบทวนสิ่งที่อ่าน ใช้เวลาในการตกผลึกความคิด จัดการความวุ่นวายในหัว
 "มีคนบางคนเกลียดอากาศหนาวๆ ไม่ยอมออกจากบ้าน ก็เลยต้องอยู่บ้าน"
 “.......” เหตุผลอะไรเนี่ย ฟังแล้วแบบอยากจะเข้าไปทุบสักที ยิ่งคนพูดนั้นยิ้มนิดๆ แบบตั้งใจ ยิ่งอยากจะทุบแรงๆ เลยอ่ะ
 "แต่พรุ่งนี้ผมไม่อยู่นะ อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม" โทรุวางแก้วลงบนโต๊ะ ยิ้มกว้างตอนลืมตามาเห็นผมทำหน้างอ  ปกติผมก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว ทำมาเป็นถามว่าอยู่ได้ไหม
 อันที่จริงเขาก็ชวนผมไปด้วยแล้วแหละ มีภาพยนตร์รอบสื่อเรื่องหนึ่งจากหลายๆ เรื่องที่เชิญมาแล้วต้องไป ช่วงนี้เขาก็ไม่ค่อยไปดูหนังรอบสื่อเท่าไหร่แล้ว แต่เรื่องนี้ผู้กำกับขอร้องมาเป็นพิเศษ ถ้าไม่มีผลกับหนังเรื่องต่อไปเขาคงไม่ไป
 ส่วนผมยังคงลังเลอยู่ว่าจะไปดีไหม บอกตามตรงว่ากลัวที่จะกลับไปเจอคนรู้จัก เกลียดความรู้สึกหนักหน่วงเวลาที่ถูกจ้องมองจากสายตาคนอื่น แววตาเคลือบแคลงสงสัยพวกนั้นมันบั่นทอนความรู้สึก
 "ก็ไม่ต้องไป" ทำเสียงโหดๆ เลย แล้วถ้าเข้ามาใกล้จะแถมกำปั้นสักที
 เขาขยับตัวเข้ามาใกล้จริงๆ จับท่อนแขนผมให้เข้ามาหาแล้วดึงผมเข้ามาใกล้ๆ ลำตัวผมเอนพิงกับแผ่นอกของเขา เอามือมานวดตามหัวไหล่ ตามต้นแขนผม ทำเป็นอมยิ้มแล้วไม่พูดอะไร แนบใบหน้ามาชิดกับศีรษะ จมูกกดลงบนเส้นผม เป่าลมร้อนใส่ให้ผมยุ่ง พยายามอ้อนให้ผมหายจากอาการหน้างอ 
เมื่อผมยังนิ่งเฉยก็สอดมือทั้งสองข้างจากด้านหลัง รวบเอวผมเข้ามากอดแน่นๆ เอาปากและจมูกคลอเคลียอยู่ตรงแก้ม
 "ง้อนะ..ง้อ" เขาแทรกตัวมาใต้วงแขน เอาศีรษะแนบลงตรงแผ่นอกข้างซ้าย คลี่ยิ้มกว้างตอนสบตา เปลี่ยนจากนั่งซ้อนท้ายหลังมาเป็นนอนซุกอยู่บนตักแล้วเหยียดขาออกไปบนโซฟา อ้าปากหาว คงจะง่วงนอนแล้วแหละ อ่านหนังสือมาทั้งวันแล้วนี่
 “ยังกลัวอยู่เหรอ” เขาถามขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มๆ ที่จริงจัง ตาปิดลงแต่ก็ยังคงรอคำตอบจากปากของผม....
 ไม่อยากกลับไป ไม่อยากพบใคร ไม่อยากเจอหน้าใครอีกแล้ว อยากหายตัวไปแล้วไปลับ
 “ผมคงไม่ได้กลับไปอีกแล้ว”
 เขาเอามือของผมไปจับไว้แล้วก็หลับตานอนไปทั้งแบบนี้โดยไม่พูดอะไร
 ที่จริงคือโทรุเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วปล่อยให้ทากะทำตามใจชอบ เรื่องทุกเรื่องก็มีช่วงเวลาของมัน แม้บางทีจะอยากกลับไปยืนในที่นั้นด้วยกัน แต่ถ้าเทียบกันกับการมีเขาไว้ข้างกายเพียงคนเดียวแบบนี้ท่าจะดีกว่า
 เอาจริงนะก็แค่ลองชวนดูท่าทีของเขา แต่ถ้าเขาจะไปจริงๆ คงหาทางเลี่ยงแหละ....ก็หวงนี่
 ช่วงเวลาในห้องที่ได้ใช้ด้วยกัน ช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีเขา ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแค่นี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ สำหรับผม
   _____🎀____
   คนตัวเล็กที่นอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ยอมตื่นเลยวันนี้ อากาศเย็นแล้วไม่อยากลุกไปไหน เช้านี้เป็นผมที่ตื่นขึ้นก่อน ลุกขึ้นมาทำอาหารเช้ารอเขา
 บ้านของผมอยู่เกือบติดแม่น้ำสายที่พาดผ่านเมือง ตัวบ้านอยู่ถัดเข้ามาบล็อคหนึ่ง ทากะชอบเวลาที่ออกจากบ้านไปวิ่งรอบแม่น้ำ เขาชอบที่มันใกล้แม่น้ำเลยไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อย ด้วยความที่ติดใจกับสถานที่นี้เลยย้ายของเข้ามาอยู่ถาวรกับผม ทากะไม่ทันรู้สึกตัวหรอกว่าผมตั้งใจ หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ที่ต้องพยายามสักหน่อย 
ก็เลยยืนนึกถึงช่วงก่อนจะคบกันมาแบบทุกวันนี้ ตอนนั้นก็นึกว่าจะจีบไม่ติดเสียแล้ว....
 ก็มีบางทีต้องกลับไปบ้านทากะบ้างเพื่อทำความสะอาดอย่างเช่นวันนี้ ด้วยอาทิตย์หน้าก็ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว ด้วยความที่ปีที่แล้วพ่อแม่ทากะมาที่นี่เลยขนต้นคริสต์มาสและของตกแต่งไปไว้ที่บ้านทากะทั้งหมด ปีนี้ก็เลยต้องกลับไปเพื่อฉลองคริสต์มาสที่บ้านหลังนั้น ไม่อยากหอบต้นคริสต์มาสไปๆ มาๆ
 เดี๋ยวรอให้ทากะตื่น ค่อยกลับไปตกแต่งต้นคริสต์มาสรอวันที่ 25 กันสองคน....
  ไม่ทันไรคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นมาแล้ว ผมที่นั่งอยู่หน้าแม็คเงยหน้ายิ้มให้เขาที่โผล่มาทักทายในห้องทำงาน พิมพ์งานอีกสักพักถึงปิดแม็คออกจากห้องไป
 ก่อนกลับไปทากะก็ถามอยู่ว่าอยากกินอะไรจะทำให้กินในวันนี้และจะซื้อเสบียงเพิ่มเผื่อวันอื่น คงจะพักอยู่บ้านทากะให้ผ่านปีใหม่ไปก่อน
 ผมนั้นยังไงก็ได้ไม่เรื่องมาก ก่อนจะเจอทากะก็มีงานยุ่งจนไม่เคยอยู่ฉลองคริสต์มาสที่บ้านของตัวเอง ปีไหนว่างไม่มีงานก็ไปฉลองบ้านเพื่อนๆ 
ตั้งแต่มีทากะอยู่อะไรที่เคยปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ อย่างเทศกาลแบบนี้ก็จริงจังกับมันขึ้นมา ตั้งใจเคลียร์งานทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กับเขา
 ทากะเอาผ้าพันคอสีขาวมาพันรอบคอให้ก่อนเดินออกไป ผมซุกมือลงไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำ เดินออกจากบ้าน มองไปยังสองข้างทางตลอดจนห้างร้านตั้งใจจัดตกแต่งในธีมคริสต์มาส ต้นไม้ในเมืองก็มีไฟประดับพันรอบๆ ต้น พอตกกลางคืนทั้งเมืองก็จะสว่างไสว บรรยากาศแสนคึกคัก แม้ผมที่ไม่ค่อยตื่นเต้นไปกับคนอื่นเขาพอได้เห็นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา คงไม่ต้องพูดถึงคนตัวเล็กที่เฝ้ารอให้ถึงคริสต์มาส เขาจะชอบอ้อนให้ไปถ่ายรูปรอบๆ เมือง
 วันนี้ทางเดินลื่นเพราะหิมะเพิ่งจะละลายไปทำให้เราสองคนเดินได้ไม่เร็วนัก ต้องคอยระวังไม่ให้ตัวเองล้มกองไปกับพื้น มองตามทากะที่เผลอเซถลาจะลื่นล้มอยู่หลายรอบ เจ้าตัวหันมาคว้าเสื้อโค้ทของผมตอนเสียหลัก เขาระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจเสียดัง น้ำเสียงไม่ใช่คนที่กลัวจะลื่นล้มลงไปแต่งอย่างใด
 “นึกถึงตอนเด็กๆ เลยโทรุที่วิ่งไล่เอาหิมะปากันกับเพื่อน” ทากะพูดขึ้นมาระหว่างเดินย่ำกองหิมะที่กำลังละลาย หิมะที่ตกมานี่ยังไม่เยอะพอจะเล่นอะไรได้ เลยทำได้แค่เดินย่องๆ หลบกองหิมะที่ละลายแล้ว ตอนแรกก็ตั้งใจเดินเลี่ยงแต่ตอนหลังนี่กระโดดเหยียบกองหิมะเปียกๆ แล้ว ไม่กลัวล้มเลย ซนจริงๆ
 “ไปเที่ยวกันไหมครับทากะ”
 “หือ?”
 “ไปเล่นหิมะกันไหม”
 “ไม่....” น้ำเสียงลังเลขึ้นมาละ ก็คนมันชอบเที่ยว...
 “กลับไปเก็บของแล้วไปกันเถอะ” โทรุหยุดเดินขึ้นมา ยื่นมือไปให้คนข้างหน้าจับไว้ จะพากลับบ้านซะเดี๋ยวนั้น
 “ถึงจะบอกว่าหนาวไม่อยากไปไหนแต่ที่จริงแล้วเกรงใจผมเพราะผมทำงานอยู่ใช่ป่ะ” ผมไม่น่าขยันอ่านหนังสือช่วงนี้เลย อยู่ว่างๆ มันอดไม่ได้จริงๆ ทากะเลยคิดว่าผมยุ่งๆ กับงานเลยสิเนี่ย
 “แล้วก็...” โทรุดึงมือเย็นที่ยื่นกลับมาเกาะกุมไว้ ดึงคนตัวบางมายืนซ้อนด้านหน้า แผ่นหลังบางชิดแผ่นอก สอดมือไปโอบล้อมรอบเอว ตัวบางนิดเดียวเอง
 “กอดไว้ก็ไม่หนาวแล้ว” โอบร่างเล็กจากทางด้านหลัง เพิ่มความอุ่น จะกอดเอาไว้ให้แน่นๆ เลย ไม่ปล่อยให้หนาวนาน
 ทากะจับสองมือที่โอบตัวเองไว้
��“ขอบคุณนะโทรุ” โทรุเป็นคนน่ารักแบบนี้เสมอเลย คอยเป็นห่วงเป็นใยกันมาตลอด ใส่ใจกันแม้จะเรื่องเล็กน้อยสักแค่ไหน เขาจะไม่มองข้ามมันไป
 ดีใจจัง....ดีใจมากๆ เลย 
หุบยิ้มไม่ลงเลย
  คนตัวเล็กหมุนตัวกลับไปหาคนที่กอดอยู่ ยกมือตัวเองขึ้นมาแนบแก้มทั้งสองข้างของโทรุ เอียงคอให้องศาของปากพอดีกับปากได้รูป เหยียดปลายเท้ายืดตัวให้สูงขึ้น จุ๊บเบาๆ ที่ตรงมุมปาก
 “ปีนี้อยู่ที่ไหนก็ดีทั้งนั้นถ้าได้อยู่ด้วยกันกับโทรุอ่ะ...” อยากไปบ้างแหละแต่ไม่ไปก็ได้แล้วแบบนี้
 โทรุคลี่ยิ้มกับประโยคที่ได้ยินจากปากทากะ ยิ้มเขินๆ แม้มีสายตาคนอื่นมองจ้องมองพวกเขาที่ยืนกอดกันอยู่บนฟุตบาทถนน ก็ยังเช้าอยู่คนยังไม่ค่อยมี กอดกันนิดๆ หน่อยๆ เอง
 เขินที่ถูกบอกรักแบบนี้ด้วย แม่ง...ไม่ไหวละ
 โทรุดึงทากะมากอดไว้ เดี๋ยวจะเห็นแก้มแดงๆของตัวเองเข้า
  _____🎀____
   คริสต์มาสของเราทั้งคู่คือการที่พวกเรานั่งกินอาหารค่ำกันสองคนที่โต๊ะทานอาหารในบ้าน ฟังเสียงเพลงคริสต์มาสเปิดคลอเบาๆ  ถ้าเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็จะเห็นต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่ถูกพันด้วยริบบิ้น ลูกบอล ถุงเท้าสีขาว ต้นฮอลลี่ มีไฟกระพริบพันรอบๆ ต้น ดาวสีขาวดวงน้อยประดับอยู่บนต้นคริสต์มาส ฝีมือเราสองคนนั่นแหละ
Tumblr media
  อาหารบนโต๊ะยังมีไก่ย่าง ปลาซาบะ ซูชิชิ้นน้อยๆ เค้กก้อนเล็กๆ กับผลไม้ชามโต
 วันนี้กินเยอะเป็นพิเศษเลยแหะ ยังไงก็คงกินไม่หมดกันหรอก ได้แช่ตู้เย็นเก็บไว้กินต่อมื้ออื่นแน่นอน
 ที่ทำมื้อใหญ่เพราะทากะอยากจะเอาใจ ทำอาหารให้เยอะสมกับวันพิเศษ ผมก็ปล่อยให้เขาทำ ก็แค่คอยยืนช่วยอยู่ข้างๆ เป็นลูกมือช่วยทากะทำอาหารไปละกัน แสนจะเป็นช่วงเวลาที่ดี
 “ไปไหม” ทากะถามระหว่างที่ผมกำลังตักปลาซะบะเข้าปาก ผมขมวดคิ้ว เขาถามว่าอะไรนะ เผลอใจลอยไปชั่วครู่
 “งานปีใหม่ที่บ้านทาเครุ...” ทากะตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียง
 “ทาเครุเขาชวนอ่ะ มีเพื่อนไปกันเยอะนะ เขาอยากอวดเรือนหอที่เพิ่งอยู่ด้วย” ทากะอธิบายเสียงเบาลงทุกทีพอถูกผมมองจ้อง ใบหน้าไร้รอยยิ้มไปโดยไม่ทันรู้สึกตัว 
ผมยกมือตัวเองขึ้นมาลูบปลายคาง จับลงที่แก้ม ที่ตอนนี้คงบึ้งตึง....
ทากะคงคิดอยู่นานที่จะบอกเรื่องนี้กับผม ผมจะไม่ทำให้เขาคิดผิดที่บอกหรอก....
 “ไปสิ” มือจับช้อนที่วางไปเมื่อสักครู่ ตักอาหารเข้าปาก ฝีมือทากะอร่อยมากจริงๆ ก็จะพออารมณ์ดีขึ้นมาบ้างสักนิด 
 คนตัวเล็กเลิกคิ้วเมื่อผมตกลงง่ายๆ ....ปกติผมเป็นยังไงนะ...คงบึ้งไปเป็นวันๆ สิท่า
 “ตอบตกลงไปได้เลยนะครับไม่พลาดอยู่แล้ว”
 ทากะพยักหน้า ใบหน้าเคร่งเครียดดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด คนตัวเล็กก็เลยกินอาหารในจานต่อได้อย่างสบายอกสบายใจ 
ทากะยิ้มออกแล้วชวนผมคุยต่อได้
....เห้อ 
ก็ไม่อยากให้ทากะเครียดกับเรื่องพวกนี้อีกแล้วแหละ ต่อไปเพื่อนๆ เขานัดก็จะพาไป ต่อให้ไม่ค่อยจะชอบเพื่อนเขาก็ตาม
อะไรที่ยอมได้ต่อไปก็จะยอมให้มากขึ้น เขาดีกับเราขนาดนี้ก็อยากจะดีกับเขาให้มากๆ เหมือนกัน
ให้เขาอยู่กับเราแล้วมีความสุข อยากอยู่กับเราไปทุกวัน 
แบบที่ผมก็อยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ กับเขา
   END
^^  สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ววววววววโธ่ววว ที่จริงก็เต็มที่กับฟิคมากๆ อยากให้อ่านอะไรที่มีความสุข แม้จะไม่มีเวลาเกลาภาษาไปมากกว่านี้แล้ว..... 
เดี๋ยวจะปีใหม่แล้ว ไปเที่ยวไหนก็ขอให้เดินทางปลอดภัย เจอกันใหม่ปีหน้าน้าทุกท่าน
ใครไม่ได้เที่ยวก็อยากบอกเหมือนกันว่าไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน ทีมเฝ้าบ้านค่า 
Tumblr media
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
Strawberry Boy 🍓
Tumblr media
   รู้สึกได้ว่าพี่เขากำลังจะดันตัวให้ลงไปชิดกับเตียงขึ้นเรื่อย พี่เขายิ้มหวาน สายตาแวววาว จ้องตากันอยู่นาน ใจไม่ดีเลย...เต้นรัวเหมือนกลอง ทั้งๆ ที่ถูกคุมคามแต่ก็ไม่ได้กลัวนะ ไม่กลัวสักนิดเดียว น่ากลัวกับความคิดนี้จัง...
 แผ่นหลังเอนราบลงไปกับที่นอน พี่โทรุโน้มตัวอยู่เหนือร่าง ลมหายใจหอบคล้ายๆ กัน แนบร่างลงมาทับ ทากะรู้สึกถึงบางอย่างที่มันกดทับตรงต้นขา ใบหน้าเนียนขึ้นสี รู้แล้วว่าพี่เขาก็เป็นเหมือนกัน ส่วนนั้นมันบดเบียดลงมาบนน่อง
 "เห้อ.......ไปกินข้าวกันเถอะเรา" แล้วก็ถอนหายใจรุนแรง หลายต่อหลายครั้ง เพราะว่าต้องหักห้ามใจเอาไว้...ไม่เป็นไร เขาจัดการตัวเองได้....คนแบบเขาที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่ยังอายุไล่เลี่ยกับทากะ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะจนอารมณ์อ่อนไหวที่เคยมีถูกลืมเลือนไป
 ตั้งแต่เจอทากะก็เปลี่ยนไป มีแต่เรื่องดีๆ ให้ทำ บางวันแค่ได้รอแชทกับเจ้าตัวจิ๋วของเขา แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
 พี่โทรุลุกไปแล้วแต่ทากะก็ยังหน้าแดงกับสัมผัสนั้น พี่โทรุเป็นแบบนี้บ่อยๆ เลยใช่ไหมน่ะ...
ทากะเอาหน้ามุดลงไปใต้ผ้าห่ม ไม่อยากจะโผล่ออกมาเลยตอนนี้
    🍓
 เจ้าตัวจิ๋วพอออกมาจากห้องได้ก็รักษาระยะห่าง ไม่ยอมเดินตัวติดกันเหมือนทุกที ทากะก้มหน้าก้มตากินไม่มองหน้าเขาเลย ก็เอาแต่เหลือบตามองเป็นระยะ
 กลัวพี่แล้วเหรอ...เสียใจ ยังไม่ทันทำอะไรเลย
 ในที่สุดโทรุก็พาน้องไปกินโฮโต เป็นเส้นร้อนๆ กับน้ำซุปกลมกล่อม เท่าที่เห็นทากะตัวบางไปหน่อย ไม่ค่อยมีเนื้อ ต้องขุนกินเยอะๆ สักหน่อยจะได้แข็งแรงมีน้ำนวล จะได้มีเรี่ยวแรงไปทำอะไรนอกจากเล่นเกมส์ไงครับ
Tumblr media
   “ไฮ้!!” เรียวตะโผล่มาจากไหน น้องกำลังซดน้ำซุปทำเอาแทบจะสำลัก
 “เห้ยมึง กูจองโรงแรมติดทะเลสาปไว้แล้ว”
 “เออ”
 “เปลี่ยนโรงแรมเป็นว่าเล่นเลยนะมึง” แล้วก็ชายตามองทากะ
 อย่าพูดอะไรให้เด็กมันกลัวนะ!
 โทรุถลึงตามองเรียวตะ
 “ไปละ คืนนี้แยกย้าย กูจะสวีทกับแฟน...” เรียวตะบอกแล้วเดินออกไปหาพวกมาซาโตะที่อยู่หน้าร้าน
 ทากะชะงัก หยุดตักอาหารใส่ปากไปชั่ววิหนึ่ง
 “เออ” ยังไม่วายพูดจาเชิงอย่างนั้นก่อนไป บางทีแม่งก็ลืมนะว่ามากับเด็กมัธยม
 🍓
 พวกเขากลับห้องกันไป เขานั่งเล่นไอแพด ส่วนทากะพออาบน้ำเสร็จก็มุดขึ้นเตียงเล่นเกมส์จนหลับคาโทรศัพท์ เขาเอาผ้าห่มคลุมตัวให้ แล้วเอนตัวนอนด้านข้าง ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเอามือเล็กๆ มาสอดประสานนิ้วไว้ ขณะหลับตาลงให้รู้สึกว่าคนข้างๆ ไม่ไปไหน สัมผัสได้ถึงผิวเนื้อนุ่ม ให้รู้ว่ายังอยู่ด้วยกัน
 คิดว่าคืนนี้คงหลับฝันดี
   🍓
 เช้านี้พวกเขาได้กินอาหารเช้าด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะต้องปลุกน้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ต้องเดินทางไปเที่ยวกันต่อ พอต้องขับรถก็ไม่อยากเหลวไหล เดี๋ยวจะไม่ได้ไปไหนกัน วันนี้ขับรถไกลมาจนถึงทะเลสาปคาวากูจิโกะ พวกเขาไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนค่อยไปที่อื่นกันต่อ
 “ว้าว...คุณฟูจิ!” ทากะที่ถูกปลุกเพราะนั่งสัปหงกตัวโยกไปมาตลอดทาง พอลงจากรถเห็นภูเขาไฟฟูจิเต็มตาก็ร้องอุทานกับความใหญ่โตของมัน วันนี้ไม่มีเมฆบังด้วย เห็นยอดเขาชัดเลย
 โทรุเห็นน้องดูตื่นเต้นก็ยิ้มบางๆ เอามือไปขยี้เส้นผมด้วยความเอ็นดู ทากะพอถูกจับผมก็ชะงัก หันมามองมือเขาที่อยู่บนหัว แก้มใสมีรอยแดง
 ก็เมื่อเช้าตื่นมาเจอเขานอนกุมมืออยู่...ตอนปลุกก็ลืมไปว่ามือนั้นจับกันไว้ ไม่ได้ปล่อยเลยทั้งคืน
 “ป่ะ ไปเช็คอิน” โทรุหยิบกระเป๋าของทากะมาถือไว้แล้วเดินตามพวกมาซาโตะเข้าไป โดยมีเด็กน้อยเดินตามอยู่ด้านหลัง
 พอพาเจ้าตัวเล็กเข้าห้องได้แล้วก็ตั้งใจจะไปเที่ยวต่อนั่นแหละ ติดที่ว่าไม่รู้จะไปไหน ขี้เกียจชะมัด...นอนโง่ๆ อยู่ที่ห้องอีกวันได้ไหมนะ ไม่ต้องไปไหนแล้วนั่งๆ นอนๆ ดูเด็กเล่นเกมส์เนี่ยแหละคือนิพพาน
Tumblr media
 “ว้าว ห้องสวยจังครับ ทากะเดินวนไปวนมาดูรอบๆ ห้อง ที่เขาเฉยๆ เพราะชินกับการนอนโรงแรมหรูๆ แบบนี้ เขาคงจะลืมไปว่าเด็กน้อยแทบไม่ได้ไปไหน อยู่กับแม่ตลอด
 “โห ในห้องก็เห็นคุณฟูจิด้วย” แล้วก็ถลาไปที่ระเบียงห้อง ยืนเกาะรั้วกั้นดูวิว เขาเดินตามออกไปนั่งบนเก้าอี้ เปิดโทรศัพท์แล้วส่งข้อความไปหาเพื่อนๆ
 ‘กูจะพาน้องไปดูวิวฟูจิที่ศาลเจ้า’
 ‘เอาที่สบายใจ ส่วนพี่ไม่ไปนะ ขอตัวพาแฟนไปหาไรหม่ำ’ เรียวตะตอบมาคนแรก
 ‘กูไม่อยากเป็นกขค’ มาซาโตะคนที่สอง
 ‘ฝากซื้อเครื่องรางด้วยว่ะ’ แล้วก็คนสุดท้ายโทโมยะ...
  🍓
 ทริปเล็กๆ ของคนสูงวัยหนึ่งคนกับเด็กน้อยมัธยม ดีนะที่เข้าฟิตเนสบ่อย  บันไดสี่ร้อยกว่าขั้นเพื่อไปให้ถึงวิวที่ตั้งใจพามาดู เสาโทริอิที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิกับยอดเจดีย์สีแดงกับภูเขาไฟฟูจ��� เขาเคยมาแล้วเลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่...
Tumblr media
มันก็เหนื่อยเหมือนกันแทนที่จะขับรถขึ้นมาเลยแต่เขาพาน้องนั่งรถไฟมา แล้วก็เดินมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัด ทากะดูสนุกกับการกระโดดขึ้นบันไดทีละขั้น หันมาหัวเราะกับเขาเรื่อยเปื่อย คุยเรื่องที่โรงเรียน เล่าวนไปเรื่องทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เวรตอนเย็นที่ต้องรดน้ำแปลงผัก หรือจะเป็นไปให้อาหารกระต่ายในกรง 
แค่ทากะมีความสุขมันก็คุ้มค่าเหนื่อย
 หลายครั้งที่หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปทากะ ก็ให้เจ้าตัวเป็นแบบยืนคู่กับวิว หาเรื่องถ่ายรูปน้องเก็บไว้
 พอได้ดูภาพในโทรศัพท์ย้อนหลังทีไรก็ชื่นใจ โดยเฉพาะเวลาทำงานเหนื่อยๆ นะ มาเปิดรูปเขาดู มันจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
 ก็ทากะน่ารักจริงๆ นะ....เด็กน้อยของเขาน่ารักที่สุด
  🍓
 “วันนี้สนุกมากๆ เลยครับพี่โทรุ”
 “ไว้พามาใหม่”
 “จริงนะ!”
 “จริงสิครับ”
 “อยากมาอีกไวๆ”
 “งั้นวันหยุดคราวหน้าไหม”
 “จริงเหรอ! แต่...มันเปลืองเงินพี่อ่ะ ไม่เอาดีกว่า” แล้วคนพูดก็ตักอาหารในจากใส่ปาก เป็นหมูทอดทงคัตสึบนข้าวสวยร้อนๆ  กินด้วยความเอร็ดอร่อยจนคนรอบตัวยิ้มไปด้วย
 “ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินหรอก พี่โทรุเขารวย” มาซาโตะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นหลังจากได้ยินบทสนทนาที่แสนน่ารัก มีการห่วงเรื่องเงินของโทรุ
 “แต่ว่าพี่โทรุก็หามันมาด้วยความยากลำบากนะครับ”
 “ว้าย ดูพูดสิ..น่ารักจัง” แฟนเรียวตะที่นั่งอยู่ข้างๆ ทากะหัวเราะร่วน ในจานของเธอมีปลาซาบะย่างเกลือ น่ากินเหมือนกัน
 “เธอจะช่วยฉันประหยัดเงินใช่ไหมล่ะ” เรียวตะหันไปอ้อนแฟนตาใส
 “ไม่ค่ะ ไม่งั้นของขวัญที่ฉันเตรียมไว้จะไม่ได้”
 “ไม่น้า..จะเอา!”
 คนอื่นก็หัวเราะไปตามๆ กัน พี่โทโมยะยกซูชิจานตรงหน้ามาให้กิน ทุกคนใจดีจริงๆ อยู่กับพวกพี่เขาโครตจะมีความสุขเลย
 โชคดีจังที่ได้มาเที่ยวด้วยกัน ^^
   🍓
 เมื่อคืนกินมากไปหน่อยเลยนอนหลับเร็วเป็นพิเศษ พอตื่นขึ้นมาบนเตียงก็ไม่พบพี่โทรุ
 พี่โทรุยังไม่กลับมา เห็นว่าเมื่อคืนไปเล่นไพ่ที่ห้องพี่เรียวตะ แก๊งพี่เขาคงจะนั่งดื่มกันจนคอพับไปแล้วแหละนะ คิดว่า
 เป็นเช้าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น บรรยากาศแสนโรแมนติกเพราะไฟสีส้มอ่อนถูกเปิดสลัวๆ ริมระเบียง
 ทากะเดินออกมาด้านนอก มองไปที่ภูเขาไฟฟูจิในความมืด สง่างามไม่ว่าเวลาไหน ออกไปนั่งแช่มองเจ้าภูเขาได้สักพักก็ง่วงนอน แต่พอจะกลับไปนอนที่เตียง เดินผ่านเจ้าอ่างออนเซ็นที่ยังไม่ได้แช่ จะว่าไปก็อยากแช่น้ำอยู่เหมือนกัน แต่เพราะอยู่ห้องเดียวกับพี่โทรุก็เลยตัดความคิดนี้ทิ้งไป
 เห้อ...ต้องคอยระวังตัวตอนอยู่กับพี่เขาแล้วเหรอ
 ถอนใจได้แป๊บเดียว ทากะก็เทผงออนเซ็นลงไปในอ่าง เปิดน้ำร้อนใส่ให้เต็มอ่าง แล้วจึงถอดเสื้อผ้าออก หย่อนมือลงไป น้ำร้อนกำลังดี ได้กลิ่นสตอเบอร์รี่มาจากในอ่างน้ำ...
 ทากะหย่อนตัวลงไปในอ่างน้ำเหยียดขายืดยาวพิงขอบอ่าง ทอดสายตามองออกไปด้านนอก จากตรงนี้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิชัด มันสวยทุกเวลาจริงๆ น้า ขนาดแสงไฟยามค่ำคืน มองไม่ชัดเท่าไหร่ ชอบจัง...ขอบคุณพี่โทรุนะครับที่พามาเที่ยว
 ก็นั่งแช่ตัวพร้อมกับกดเล่นเกมส์ไปด้วย สักพักก็เริ่มง่วงขึ้นมาอีกก็เลยหยุดเล่น เดี๋ยวโทรศัพท์จมน้ำ โดนดุแน่
 ว่าจะขึ้นแล้วแต่ขอดูคุณฟูจิอีกนิดนึง...
 สุดท้ายก็หลับคาอ่างน้ำ...
  🍓
  ทากะสะดุ้ง รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่อก กำลังอยู่ในภวังค์ ตกอยู่ในความง่วง ลืมตาจะไม่ขึ้น...
 แต่พอลืมตามาเจอกับพี่โทรุที่กำลังใช้ปลายลิ้นไล้วนรอบหัวนม ใบหน้าก็ร้อนราวกับระเบิด
 พี่โทรุมาตอนไหน? ยังไง? ลงมาแช่อยู่ในอ่างด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่?
 “อื้อ..” ถูกงับที่ปลายยอดจนมันบวมเต่งออกมาทั้งสองข้าง ปากดูดส่วนที่ชูชัน เกลี่ยลิ้นให้สยิวเล่น มือ��อกแรงบีบสะโพกนิ่มที่อยู่ใต้น้ำ ปัดป่ายนิ้วมายังปากทางอ่อนนุ่ม
 “อ๊ะ..” ทากะครางเสียงหวานเมื่อถูกพี่โทรุจูบไซร้ต้นคอ จิตใจอ่อนระทวยตามร่างกายไปแล้ว ไร้แรงต่อต้าน ให้พี่เขาลูบไล้ไปทั่วร่าง ฟูมพักเจ้าสิ่งนั้นให้เติบโต ออกแรงเค้นจนแทบหมดแรง 
ทากะตัวเบาหวิว พี่โทรุพาขึ้นสวรรค์อีกแล้ว...
 แล้วก็ถูกอุ้มมานั่งบนตัก พี่โทรุ แผ่นหลังเอนพิงหน้าอกพี่เขา แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวเพราะอะไรบางอย่างมันดันสะโพกอยู่
 “จะสว่างแล้ว...” ทากะชี้ให้ดูแสงพระอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมาทางขอบฟ้า
 “ไปนอนต่อกันไหม”
 “อื้อ”
 “แต่ขอพี่นั่งอีกสักพัก ทากะขึ้นไปก่อนนะครับ”
 “....”
  พี่โทรุวางคางไว้ตรงไหล่ มือลูบๆ ขาอ่อนผมเล่น พี่เขาไม่ทำอะไรหรอก ก็รู้อยู่ว่าพี่เขาเป็นยังไง ใจดี เทค์แคร์ คอยเป็นห่วงเสมอๆ อะไรที่ฝืนใจไม่เคยทำ ไม่ใช่คนที่ชอบสั่งหรือบังคับด้วย
 แต่ถ้าผมเต็มใจ...
 ทากะขยับตัวเบียดตรงส่วนนั้นให้สะโพกดันพี่โทรุขึ้นอีกนิด หันคอกลับมามองด้วยสายตาเชื่อม ปากพี่โทรุสวยจัง อยากลองจูบดูเองบ้าง  เอามือวางลงกับต้นขาพี่เขา แนบปากลงบนกลีบปากสวยที่เผยอรับ จูบแนบแน่นแล้วถอนออก มองตากัน มองเข้าไปข้างในหัวใจที่สื่อความหมายที่ไม่ต่างกัน
ปากคลอเคลียกันไปมาอย่างอ้อยอิ่ง จูบซึมซับความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา พี่โทรุยิ้มนิดๆ ชอบผงกลิ่นสตอเบอร์รี่นี่จัง มันหอมชื่นใจ...
ด้านนอกเริ่มสว่างแล้ว...
โทรุยกสะโพกเด็กน้อยขึ้นมานั่งบนขอบอ่าง เรียวขาอ้าออก ปล่อยให้พี่โทรุใช้ปากครอบครองส่วนน้อยๆ กลางลำตัว เสียงสั่นพร่าเมื่อถึงปลายทางของอารมณ์  ใจมันหวิวๆ เมื่อถูกนิ้วเบียดเข้ามาในรอยบุ๋มด้านหลัง ลึกเข้ามาข้างใน หาจุดนั้น เมื่อเจอก็กระตุ้นเล็กน้อย แทรกนิ้วเข้ามาเพิ่มอีกนิด 
เขาใจเต้น...เมื่อคิดว่ากำลังจะทำอะไร มันจะดีแน่เหรอ ทากะตัวนิดเดียว แล้วของเขาก็ไม่ใช่เล็กๆ 
น้องยังเด็กนะ แม้จะยอมให้เขาทำมากกว่านี้แล้วก็เถอะ
“ขอบคุณนะครับคนดี” โทรุดึงขาเรียวลง ปกปิดส่วนนั้นไม่ให้เห็นอีก ดึงร่างบางให้ลงมานั่งตักในอ่างจูบแก้มใสแล้วดึงเข้ามากอดแน่น
ไม่ควรเล้ยให้ตาย...ปล่อยให้กิเลสครอบงำมาจนถึงขั้นนี้
หวงแสนหวง...รักแสนรัก
คนดีของเขา...สตอเบอร์รี่บอย  🍓
Tumblr media
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
AU Hogwarts :>โทรุกับถ้วยอัคนี 1/2
ตอนแรก   goo.gl/QPp2mQ
youtube
   โทรุกำลังเดินหลงทางอยู่ในความมืดของเขาวงกต การแข่งขันรอบสุดท้ายมันทั้งอันตราย เย็นยะเยือกและน่ากลัวกว่าที่คิด ใช่แล้ว ปีนี้เขาเป็นตัวแทนของฮอกวอตส์เพื่อเข้าแข่งขันชิงถ้วยประลองเวทไตรภาคี ที่เอาชื่อตัวเองมาใส่ลงถ้วยด้วยเหตุผลเดียวได้ยินใครบางคนพูดเล่นๆว่า 
“ถ้านายเป็นตัวแทนฮอกวอตส์ต้องชนะแน่อ่ะ”
  ทากะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองลอยเท้งเต้งอยู่ในทะเลสาบของฮอกวอตส์ มีอ้อมแขนข้างหนึ่งกำลังประคองรอบเอวเขาไว้ อีกมือแหวกว่ายกลับไปยังท่าน้ำ มันเกิดอะไรขึ้น
 แสบตาเพราะน้ำเข้า เปียกไปทั้งตัว มองโทรุที่กำลังลากตัวเขาไปยังบรรดาผู้คนที่กำลังเป่าปากตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดี
"ตัวแทนของฮอกวอตส์มาเป็นอันดับหนึ่งพร้อมคนที่เขารักครับ" นั่นมันเสียงพากย์ของเรียวตะนี่...
  เมื่อวานนี้ ใช่ ที่ใครสักคนเดินมาหาที่ห้องสมุดแล้วพูดอะไรไม่รู้ไม่ได้ฟัง เขาแค่พยักหน้าไปอย่างนั้นเองเพราะในหัวเขากำลังคำนวนระยะทางการเดินทางของโลกไปดวงจันทร์ การบ้านวิชาดาราศาสตร์ฟิสิกส์
  นี่!!มัน!!เกิด!!บ้า!!อะไร!!ขึ้น!!
  โทรุก็บอกอยู่นะว่าที่เข้าประลองเวทเพราะเขา เพียงแต่ว่าทำไมในการประลองมันมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้!! สายตาทุกคนหันมาจับจ้องที่เขา หันไปกระซิบกระซาบกันเหมือนทำอะไรผิด บางคนยิ้ม บางคนหัวเราะ คนที่ไม่รู้เรื่องก็รู้กันหมดแล้วสินะ!!
 โทรุยกตัวทากะลอยขึ้นพ้นจากน้ำขึ้นไปนั่งได้แล้ว ก่อนจะใช้มือส่งตัวเองขึ้นจากน้ำมานั่งข้างๆ ทากะ โทรุหันไปมอง ไม่ได้สนใจประกาศของทางโรงเรียน กำลังจ้องหูแดงๆ ของของทากะ
 ใบหน้าเรียวก้มลงคางแทบจะติดกับหน้าอก ที่ทำงี้เพราะว่าจะซ่อนหน้าแดงๆ น่ะแหละ
น่ารักโครต...คนขี้อายนี่
แฟนผมเอง ^^
   ก่อนวันประลองเวท....
 ระหว่างที่เขาทั้งสองกำลังเดินเล่นอยู่รอบๆ ปราสาท โทรุกำลังมองรุ่นน้องบ้านตัวเองที่ซ้อมควิดดิชอยู่ในสนามไกลๆ
 "ตกลงว่าจะเข้าร่วมจริงๆ เหรอ?" ทากะถามขึ้นมา
 "อื้อ"
 "แบบนี้โรงเรียนอื่นก็แพ้ดิ....อ๊ะ...แต่ก็ไม่แน่ ได้ข่าวปีนี้โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ มีคนที่เก่งมากๆ ด้วย นายอาจจะแพ้ก็ได้นะโทรุ"
 ...นั่น ทำไมแช่งกันแบบนี้ล่ะครับคุณทากะ
 "แล้วถ้าฉันชนะล่ะจะได้อะไรจากนายป่ะ"
 ทากะหันมายิ้ม สายตาแบบดูถูกกันเห็นๆ ....มันก็เลยมีไฟขึ้นมากันบ้าง
 "ก็ชนะให้ได้ก่อนนะ" ทากะยิ้มหวาน เดินฮัมเพลงกระโดดขึ้นลงไปตามทางเดินกลับปราสาท
 อยากจะจับมาจิ้มที่ตัวสักหลายๆ ทีด้วยความหมั่นเขี้ยวในความน่ารักของเจ้าตัว ที่จริงก็พูดไปงั้นเองแหละ จะเอาอะไรอีกล่ะ ตอนนี้ที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็มีความสุขจะแย่แล้ว.....เอ...หรือจะหาวิธีที่ทำให้เขาเขินมากๆ ดีน้า เห้อ...ใจ มันกู่ไม่กลับแล้ว
ต้องชนะ!!!!
    โทรุไปส่งทากะที่หน้าบ้านฮัฟเฟิลพัฟ อันที่จริงเขาจะหายตัวพามาเลยก็ได้ แต่ทากะไม่ยอม มีขู่ว่าถ้าเกิดหายตัวมาหาถึงเตียงนอนอีกจะไม่คุยด้วยจนกว่าจะเรียนจบฮอกวอตส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่โทรุยังคงเสียดายอยู่ตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่ ก็นะ มีช่วงหนึ่งหายตัวไปแอบดูเขาหลับบ่อยๆ จนเขาจับได้
 ก็ตอนนั้นเขาโกรธอยากจะไปขอโทษ แต่มั��หาจังหวะดีๆ ไม่ได้ ปัดโธ่...เอ้ย ถึงแม้จะมีความสามารถพิเศษมากกว่าคนอื่นแล้วไง ถ้าหากว่าทากะไม่ชอบมันก็เปล่าประโยชน์ ใช้งานอะไรไม่ได้ คิดถึงก็ไม่หาไม่ได้ อยากจะไปนอนกอดก็ไปไม่ได้
 ดีเลย...ถ้าชนะจะขอไปหาถึงห้องนอนฮัฟเฟิลพัฟ ร่ายมนตร์ให้คนอื่นหลับ ไม่ก็เสกคาถาลวงตาให้เห็นแค่ทากะ ก็คนมันอยากนอนกอดทากะนี่หว่า....อยากจะดึงตัวนิ่มๆ มาไว้ในแขน บางทีก็อยากจะอ้อนให้เขากอดเรานานๆ เวลาถูกเขากอด ร่างกายมันรู้สึกผ่อนคลาย จิตใจลืมทุกอย่างที่วุ่นวาย มีแค่เราสองคนนอนหลับไปด้วยกัน ชอบที่มันเป็นแบบนั้น มีแค่เรา....
 การประลองเวทไตรภาคีเริ่มต้นขึ้นแล้ว ตัวแทนจากโรงเรียนทั้งสามคนเข้าไปพบกับคณะกรรมการในห้องเพื่อตรวจสอบไม้กายสิทธิ์ โทรุเดินตามเข้าไป แต่ก่อนไปก็หันมาจับมือนิ่มๆ สักที “เดี๋ยวมานะ” เขายิ้มให้ทากะอีกรอบด้วยความยินดี
ตอนที่ศาตราจารย์ประกาศรายชื่อตัวแทนโรงเรียนฮอกวอตส์ โทรุหันไปมองคนตัวเล็กที่ปากบอกว่ารู้อยู่แล้วว่าเป็นเขาที่ได้เลือก แต่คนพูดก็ดูจะดีใจมากกว่าคนอื่นๆ จากที่นั่งอยู่ก็ยืนขึ้น กระโดดตัวลอย จับแขนของเขาเขย่าไปมา สีหน้าท่าทางตื่นเต้น ดูปลาบปลื้มใจจนน้ำตาคลอ
 โทรุเดินยิ้มค้างเข้าไปในห้อง ไม่ได้สนใจตัวแทนคนอื่นๆที่จ้องมา ภาพทากะที่ใช้ปลายนิ้วชี้ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าถูกรีรันไปมาในสมอง
 อยากได้โทรศัพท์คืน...โรงเรียนเวทมนตร์มันห่วยก็ตรงนี้แหละ นอกจากดึงความทรงจำใส่อ่างเพนชิฟแล้วมีวิธีอื่นไหมที่จะดึงความน่ารักๆ ของทากะไปโพสลงโซเชี่ยล
  “ฉันมาซาโตะจากเดิร์มสแตงก์”
 “ฉันนิวท์จากโบซ์บางตง”
 “ฉันโทรุจากฮอกวอตส์”
  ตัวแทนทั้งสามคนยืนยิ้มให้กัน จับมือทำความรู้จักกัน ผลัดกันประเมินความสามารถอีกฝ่ายจากสายตา โทรุยิ้มหวานให้สองคนนี้...แน่ล่ะ ใจคิดถึงคนข้างนอก จะเอาไงก็เอาเถอะ ไงเขาก็ต้องชนะ
 ถ้าชนะก็จะขออะไรก็ได้ ^^
  ชัยชนะแรกได้มาง่ายดายกว่าที่คิด ก็แค่ใช้คาถาสะกดจิตมังกรให้หลับเอง แม้จะต้องใช้พลังเวทย์สูงหน่อย มังกรเป็นสัตว์ตัวใหญ่ ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่เขาก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายจนคนอื่นตกตะลึง ช่วยไม่ได้เขาฝึกมาอย่างหนัก เป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำได้
 ปริศนาจากไข่มังกรที่เวลาเปิดแล้วส่งเสียงดังนี่ ให้ตายเถอะ ยากเอาเรื่องเหมือนกัน โทรุนอนกอดไข่มังกร ในเวลาแบบนี้ต้องเปิดกูเกิ้ลไม่ก็ตั้งถามในเว็บ จะว่าไปก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว อนาคตจะกลับไปอยู่ในโลกมักเกิ้ลหรือจะอยู่ที่นี่ต่อนั้น ทั้งที่ตัดสินใจไว้แล้ว มันยากขึ้นเพราะที่นี่มีทากะ...
 บ่ายนี้จะมีการแข่งขันรอบที่สองแล้วแต่ยังคงคิดอะไรไม่ออก นั่งคิดนอนคิด ไปห้องสมุดเปิดตำราหาข้อมูลต่างๆ แต่ก็ไร้ประโยชน์ เวลาแบบนี้ต้องไปขี่ไม้กวาดเล่น...คิดแล้วก็หายตัวไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบไม้กวาดออกมา...หายตัวไปที่ห้องทากะ (แอบดู)ว่าเขาอยู่ที่ห้องไหม แต่เขาอยู่พอดีเลย
  ....เห้ยย
แผ่นหลังเปลือย สะโพกกลม ปลีน่องขาวๆ เห็นเพียงแว่บเดียวเท่านั้นแหละ รีบหายตัวกลับมาที่ห้องก่อนทากะจะรู้ตัว บางทีก็แอบมาดูแต่ไม่ให้ทากะเห็น เสกคาถาพรางตาไว้ ใครจะไปคิดว่าเข้ามาแล้วจะเจอกับ..โทรุหน้าแดง ทากะเพิ่งตื่นและกำลังเปลี่ยนชุด เห็นชุดนอนกองอยู่บนพื้น คงออกไปทำการบ้านของเขา
 โทรุยอมรับว่าพอเห็นทากะจากข้างหลังก็ใจสั่นอย่างมาก สติหลุด ตอนหายตัวกลับมาที่ห้องเลยพลาด ดันเผลอหายตัวไปยังห้องน้ำของพรีเฟ็ค
 แล้วก็ได้เห็นอะไรดีๆ เข้า.....จังๆ มีคนกำลังจูบกันในอ่างน้ำพรีเฟ็ค....เปลือยเปล่า...มือโอบกันไปมา...แอบมาใช้ห้องน้ำพรีเฟ็คทำอะไรที่ไม่เหมาะสม เขาควรจะออกไปจัดการหนึ่งคนที่เป็นคนบุกรุกดีไหม แต่คนหนึ่งที่เป็นพรีเฟ็คอยู่แล้วไม่ควรพาคนนอกโรงเรียนเข้ามาทำอะไรแบบนี้ในห้องน้ำสิ พี่มาห์กับมาซาโตะตัวแทนจากเดิร์มสแตรงก์
 มาซาโตะเอนตัวพิงผนังอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ จูบที่ดูดดื่มของสองคนนั้น โทรุคิดว่าถ้าออกไปตอนนี้พี่มาห์คงรู้ว่าเขาหายตัวได้ ก็เลยจะปล่อยไป
 เขากำลังจะหายตัวกลับห้อง แต่สองคนนั้นดันหยุดจูบกันแล้ว
 มาซาโตะขอบคุณพี่มาห์ที่พามาคลายเครียดในนี้...แล้วก็พูดถึงการแข่งขันในช่วงบ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้น วิธีการที่เตรียมรับมือโทรุถึงได้รู้ว่าโรงเรียนนั้นมีอาจารย์ใหญ่คอยช่วย
 ถ้ามีอุปกรณ์ดำน้ำก็คงดี ไปขออนุญาตศาตราจารย์เพื่อขอใช้อุปกรณ์ดีไหมนะ...
 โทรุครุ่นคิด บ่ายนี้แล้วสินะ เอาล่ะ ไปขี่ไม้กวาดรอบนึงแล้วค่อยไปหาทากะแล้วกัน!!
พ่อหนุ่มเรเวนคลอเดินออกไปตามทางเดิน มุ่งหน้าตรงไปที่สนามควิดดิช แต่พวกเด็กกริฟฟินดอร์ดันอยู่ในสนาม น่าจะจองสนามไว้
  ไม่ได้ใช้ไม้กวาดเลย ห่อเหี่ยวชะมัด...เดินคอตกกลับห้อง ไม้กวาดก็ย่อส่วนเก��บไว้ในกระเป๋า ตอนนี้มีแค่คนเดียวที่จะช่วยเติมใจเขาให้กลับมาพองโตเหมือนเดิมก็คือทากะ แต่เขาอยู่ไหนอ่ะ ใช้คาถาแอ็กซิโอดึงมากอดสักทีจะผิดไหมน้า
 ทากะอยู่ไหน หาไม่เจอ เดินหาจนทั่วแล้ว จะบ้าตาย มีคาถาแบบที่สามารถใช้สตอล์คเกอร์ ได้ไหม อยากเห็นเมื่อไหร่ก็ใช้แอบดู
 โทรุไปถามเรียวตะที่กำลังเล่นเกมส์หมากรุกตรงโต๊ะใกล้น้ำพุ
 “ทากะถูกศาตราจารย์ทาเครุตามไปน่ะ”
 โทรุเดินไปจนถึงห้องศาตราจารย์ทาเครุ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาตร์มืด
 เข้าไปในห้อง ทากะนั่งฟุบตัวหลับอยู่ที่เก้าอี้ ศาตราจารย์กำลังสอดมือเข้าไปใต้ข้อพับเข่า มือประคองด้านหลังเพื่ออุ้ม โทรุเสกคาถาใส่ทันทีโดยไม่ทันยั้งคิด ศาตราจารย์ชะงักตัวหยุดไป...แต่ตามองมาที่เขาด้วยความตื่นตกใจ
 “เข้าใจผิดแล้ว ฉันจะพาเขาไปหาอาจารย์ใหญ่ เขาอยู่ในการแข่งขันรอบบ่าย”
 “ขอโทษด้วยครับ”โทรุน้อมตัวโค้งแผ่นหลัง ก้มศีรษะลงต่ำ
 “งั้นผมขอเป็นคนอุ้มเขาเอง” ก็นะ คนของเขา ไม่ชอบให้ใครมาแตะ แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ โทรุประคองตัวเล็กๆมาไว้ในอ้อมแขน ทากะหลับปุ๋ย เดินตามศาตราจารย์ไปยังสถานที่แข่งขัน มองใบหน้าเนียน เปลือกตาปิดสนิท ปากเผยอน้อยๆโทรุโน้มคอลงไปหา ปากกดแนบลงบนกลีบปากนุ่ม จุมพิตเจ้าหญิงนิทรา กวาดสายตามองเปลือกตาที่ขยุกขยิกคงกำลังฝันอยู่ รอเดี๋ยวอีกสักพักเจ้าชายจะไปช่วย (แต่ยังไม่มีวิธี....) ก็อยากให้เจ้าหญิงภูมิใจในตัวเอง ต้องชนะให้ได้ ฮึบๆๆ เดี๋ยวไปห้องสมุดหาเวทมนตร์ดีๆสักบทสำหรับดำน้ำ...
 “เธอไม่มีเวลาแล้วนะ” ศาตราจารย์ทาเครุท้วงขึ้นเมื่อเดินมาเจอเขาหน้าตู้หนังสือ โทรุปิดหนังสือในมือวางลงบนชั้นแบบหมิ่นเหม่ หนังสือพอถูกละละเลยก็ลอยขึ้นกลับเข้าชั้นตัวเองไปอยู่บนตู้ อยู่ในที่ของมันอย่าง แสนจะระเบียบเรียบร้อย
 “ผมกำลังพยายามอยู่” น้ำเสียงเกือบจะห้วน ไม่มีอารมณ์จะพูดคุย
 “เธอเป็นเด็กฉลาด เธอรู้ต้องทำยังไง”
 “ผมรู้ ? คุณไปเอาความมั่นใจมาจากไห���”
 “คิดจะทำให้ได้ทุกอย่างด้วยตัวเองก็สมกับเป็นเธออยู่ แต่บางเวลาเธอก็ต้องการเพื่อน”
  ใช่...ทุกความสำเร็จของเขาล้วนมาจากความพยายามของตัวเอง ตั้งแต่มีการแข่งขันเขาก็แยกตัวออกมาอยู่คนเดียว ห่างจากกลุ่มเพื่อนสนิท ไม่ชอบรบกวนคนอื่นหรือทำให้ใครวุ่นวาย อยากจะทำด้วยตัวเอง เกรงใจด้วยส่วนหนึ่ง
  โทรุกลับไปตามทางเดินของฮอกวอตส์ ตามหากลุ่มเพื่อน พวกเรียวตะกับคนอื่นๆ นั่งอยู่ตรงโต๊ะบ้านเรเวนคลอ กำลังเล่นหมากรุกพ่อมด โทรุเดินเข้าไปหา กำลังถึงตาเรียวตะเดินเกมส์ โทรุแอบสะบัดไม้กายสิทธิ์ขยับตัวเดิน
  “โว้ยยยยไอ้บ้านี่” เรียวตะลุกขึ้นยืน หันมาเห็นเขาแล้ว รู้ว่าเป็นฝีมือเขา
 “คิดนานเกิน” โทรุหัวเราะ เรียวตะเข้ามาหา เอามือโอบรอบคอแรงๆ
 “เป็นไงมั่ง หน้าเครียดเชียว”
 “เออ แม่งเครียด จะแข่งแล้วยังหาเวทมนต์บทที่จะดำน้ำให้ได้สักชั่วโมงอยู่เลย”
 “กูเคยเห็นพวกที่อยู่ติดทะเลเขาใช้คาถานี้”
 “คาถาฟองอากาศ”
 มันจะง่ายไปไหม...
 ศาตราจารย์รู้อยู่แล้วเหรอว่าต้องมาถามเรียวตะ หรือว่าคนที่อยู่ติดทะเลคืออาจารย์ ถึงจะคาใจแต่มันก็ทำให้ไปช่วยทากะขึ้นมาได้สำเร็จ
   โทรุพาทากะที่ตัวเปียกๆเดินกลับ คงต้องรีบอาบน้ำ ปล่อยให้ตัวเปียกเดี๋ยวจะป่วย เอาผ้าขนหนูห่อตัวบาง เดินโอบไหล่ทากะพากลับไปยังปราสาท
 ในขณะที่ทากะกำลังถอดเสื้อคลุมเปียกๆ ออกจากตัว กางเกง กางเกงชั้นใน เสื้อยืดชุ่มน้ำ ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่า กำลังเปิดฝักบัวให้หยดน้ำไหลผ่าน แต่แล้วโทรุก็ปรากฎตัวขึ้นในห้องน้ำ จับแขนเขาแล้วพาหายตัวไปยังอีกที่...
 อ่างน้ำที่ฟูฟ่องไปด้วยฟองสบู่ปรากฎขึ้นมาในทันที พวกเขากำลังยืนอยู่ในอ่างนี้ด้วยสภาพเปลือยเปล่า ทากะผวาโผเข้าเกาะคนที่พามา แต่พอตั้งสติแล้วมองไปรอบๆ สถานที่แห่งนี้ได้ ห้องน้ำพรีเฟ็ค!!
  “โทรุ!!”
  โทรุที่ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น...ดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดแน่นๆ แขนโอบแผ่นหลังเปียกแน่น ทากะยกมือง้างขึ้นจะทุบคนตรงหน้าสักที บอกแล้วนะว่าห้ามหายตัวมา!!
 “อย่าโกรธฉันเลยนะทากะ.....นายผ่อนคลายสักนิด ที่นี่มันเงียบดี ก็แค่อยากอยู่ด่วยกันสองต่อสองบ้าง...”
 คนกอดลูบแผ่นหลังเบาๆ แล้วดึงให้นั่งลงแช่น้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ แต่ไม่มีใครสนใจเล่นมัน ในเมื่อบรรยากาศตอนนี้ทำให้ใจหวิวๆ สติหลุดลอย
 “คิดถึงนาย” โทรุกระซิบคำหวานที่ข้างหู
 สายตาทากะอยู่ที่ลาดไหล่กว้าง ที่จริงก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนานแล้วแหละ มีแต่สอบติดกันเลย ไม่มีเวลาพัก
 โทรุยกตัวบางขึ้นมานั่งบนขาอ่อน มือซ้ายเชยคาง นิ้วโป้งปาดลงไปบนริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะโน้มคอลงไปประกบปิด ทั้งคิดถึง ทั้งโหยหา ทั้งกระหาย... อยากจะครอบครอง อยากให้อยู่ข้างกาย ได้แต่แทะเล็มนิดหน่อยให้พอชุ่มชื่นหัวใจ เขาแทรกลิ้นเข้าไปในปากอุ่น กวาดชิมความอ่อนหวานให้ชื่นใจ
  อีกนิด...ขออีกนิด
  ทากะขืนลิ้นไว้ ยังโกรธอยู่ แต่พอถูกออเซาะเข้ามามากๆ ยิ่งเขาทำเสียงอ้อนในลำคอ มีกระซิบเรียกชื่อ มีทำเล็กตาน้อยขอความเห็นใจ ก็เลยยอมปล่อยให้เขาจูบ ก็คิดถึงเหมือนกันนั่นแหละ
 ทากะวางมือไว้ที่ไหล่ใจอ่อนจนได้ ยอมโอบมือรอบลำคอโทรุแล้วจูบตอบในที่สุด เขาก็ขี้อ้อนแบบนี้ตลอดแหละ
 เขิน กระวนกระวาย...ถูกโทรุเบียดให้แผ่นหลังติดกับกำแพงอ่างน้ำ มือเขาลูบบนขาอ่อนไปมาพาให้ใจเตลิด พวกเขาตัวติดกันเกินไป
 ทากะใจเต้นแรงคงเป็นเพราะไอน้ำร้อนจนทำให้เวียนหัว พอถูกจูบเข้าหน่อยก็ใจอ่อนยวบ ยอมให้เขาจูบต่ำลงมาเรื่อยๆ......ลำคอ...ไหปลาร้า....แผ่นอก......
 โทรุทำเอาหน้าร้อนฉ่าถึงขีดสุด มือที่ลูบบนขาอ่อนลากขึ้นสูงไปสัมผัสส่วนลึกล้ำ มืออีกข้างบีบเนื้อสะโพก เฟ้นมือลงบนเนื้อนุ่มๆ เสียงฟองอากาศค่อยๆแตกไปทีละฟอง พวกเขายังไม่ไปถึงไหนกัน...ฟองใกล้จะแตกจนหมด ทำให้เห็นอะไรๆ ในอ่างชัดขึ้น
 "...โท..รุ.." เสียงแผ่วลงแทนที่ด้วยเสียงครางหวิว
 "ดีไหม...หื้ม....." คนที่กำลังใช้ปากสัมผัสยอดอก ปากคีบดึงก้อนเนื้อเล็กๆ ดูดเม้มจนเนื้อนูนออกมา ทากะแข้งขาสั่นความร้อนรุ่มแล่นผล่านไปตามร่างกาย ใจหวิวๆ ขึ้นทุกที
 โทรุหยุดห่อลิ้นเล่นกับเนื้อนิ่ม ช้อนสายตาขึ้นมองเขา คลี่ยิ้มเมื่อเห็นปลายยอดชูชันเป็นที่พอใจ แล้วย้ายไปทำอีกข้างที่กำลังจะจมอยู่ใต้ฟอง โทรุยกสะโพกนุ่มขึ้น แทรกตัวเข้าไปใจกลาง แยกเรียวขามาพาดบนต้นขา ทากะยิ่งหน้าแดง.... 
ตอนนี้ยอดอกมันพ้นน้ำ ปากเลยเข้าครอบครองดูดกลืนก้อนเนื้อจนเต่งตึง จากสีอ่อนๆ เปลี่ยนเป็นแดงจัดแล้วก็ชูชันอย่างน่ารัก ทากะอยากจะเอาหน้ามุดฟองสบู่ เขินจนถึงต้องกลับหันหน้าไปทางอื่นแล้วหลับตาลง แก้มใสๆ ผุดผาดน่ารัก มือที่คล้องคออยู่ตกลงมาด้านข้าง เอามือพาดขอบอ่างไว้พยุงตัวไม่ให้ไหลลงไปนอนแผ่ เจ้าฟองสบู่มันลื่นเกินไป หลังที่พาดขอบอ่างถไลลื่น
 เสียงครางแผ่วจากลำคอดังขึ้นทุกครั้งที่ถูกสัมผัสใจกลางลำตัว มือขยับขึ้นลงเร็วขึ้นจนหายใจไม่ทัน ทากะหอบเล็กน้อยเมื่อถึงปลายทาง ส่วนคนที่แนบปากลงมาประกบอีกรอบกำลังอ้อนวอนในสิ่งที่เขาต้องการ
   "..ได้ไหม...ครับ....ทากะ...?"
   ....กระซิบเบาๆ กลัวเขาจะตกใจกลัว
 ....อยากกินจะแย่แล้วอ่ะ
   “มันลื่นอ่ะ ไปที่อื่นเถอะ”
  “ที่ไหนอ่ะ..ลื่นๆ สิดี” โทรุหยอกเย้าอยู่ตรงใบหู เอาปากงับติ่งหูนิ่มๆ เล่น จงใจเบียดส่วนนั้นเข้ากับหน้าท้อง เห็นไหมเนี่ยมันทนไม่ไหวแล้วนะ อดทนมานานมาก ตั้งแต่ปีสองที่รู้จักกันจนปีหก ไม่คิดว่าตัวเองจะอดทนเก่งได้ขนาดนี้เหมือนกัน โทรุขบติ่งหูอีกข้าง ลากลิ้นไปบนหูแหย่เข้าไปในซอก รับรู้ส่วนอ่อนไหวนั้นมีปฏิกิริยาตอบโต้ ไม่เคยบังคับฝืนใจ ให้เขาเปิดใจทีละน้อย พอถึงเวลามันจะลงตัวทุกอย่าง ทั้งความรู้สึกที่มากขึ้น ความต้องการที่เขาซ่อนไว้ อยากจะรับรู้มันทั้งหมด ไม่รีบ...ของแบบนี้ ยิ่งบ่มไว้นานเท่าไหร่ รสชาติยิ่งดีเท่านั้น
   “ฝืนใจรึเปล่า?”
 ทากะส่ายหน้า โทรุยิ้ม พอใจในคำตอบ กดริมฝีปากแนบเรือนผมนุ่ม
แค่นี้แหละทีต้องการ แค่ทากะยอมเปิดใจให้ทั้งหมดทุกส่วน ยอมให้เข้าไปสัมผัสมุมที่ไม่เคยเห็น อยากจะรู้จักกันให้มากขึ้นกว่านี้อีกขั้นหนึ่ง ขอบคุณนะครับ 
มือที่ได้รับอนุญาตแล้วย้ายตำแหน่งลงต่ำ คลึงนิ้วไปรอบๆ รอยบุ๋ม ใช้ฟองลื่นๆ แทรกนิ้วเข้าไปข้างใน มันคับแน่นค่อนข้างฝืด ไม่พร้อมสำหรับการสอดแทรก เขารู้ต้องค่อยๆ แต่.... เสียงครางน่ารักทุกครั้งที่ขยับนิ้ว ก็อยากจะใจเย็นกว่านี้ ความอดทนได้หมดลงแล้ว... แนบร่างลงบนตัวบาง ขยับเข้าไปในความอ่อนนุ่ม ต้องขยับเข้าออกหลายครั้งเลยกว่าจะเข้าไปได้หมด เสียงหวานๆ ของทากะเริ่มจะขาดห้วงเมื่อเขาขยับสะโพกให้เร็วขึ้นทีละนิด ใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ ส่วนนั้นถูกบีบรัดรุนแรง ปลดปล่อยตัวเขาให้ถึงฝั่งฝัน ความรู้สึกถูกเติมเต็มจากการใกล้ชิด หลอมรวมเขาทั้งคู่ 
จูบดื่มด่ำในอ่างน้ำ น่ำอุ่นๆ ทำให้ผ่อนคลาย ร่างนุ่มตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขน หมดเรี่ยวหมดแรง ยังไม่อยากหยุดแค่นี้ ยังคงนั่งแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำร้อน ฟองละลายหายไปหมดแล้ว ทากะคิดจะขยับตัว แต่ถูกโทรุกดแช่สะโพกค้างไว้
“นะ...” รอให้มันฟื้นตัวสักครู่ มันไม่พอหรอกนะ...
“เมื่อย..” 
“นวดให้” โทรุบีบนวดตามแนวเอวคอด แต่ทากะหัวเราะเพราะรู้สึกจั๊กจี้ ผลักมือโทรุออกไป ก็เลยเปลี่ยนมานวดแขน แนวหัวไหล่ ขยับนิ้วไปยังต้นคอ แล้วก็ใช้นิ้วคลึงศีรษะ นวดวนไปมาให้รู้สึกผ่อนคลาย 
ทากะเอนใบหน้าซบแผ่นอกโทรุ แอบง่วงนอนเล็กน้อย....
โทรุขยับสะโพกอีกครั้ง  ลำตัวโยกเอนไปมา มันหวิวๆ ไปหมด ยอดอกถูกขบกัดเล่น ทั้งงับและดึง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทุกส่วน  มือจับยึดไหล่โทรุไว้ อีกนิดคงไร้เรี่ยวแรง ได้นอนแผ่อยู่แถวนี้ กลับห้องไม่ไหว...
พวกเขามาทำอะไรที่ห้องน้ำพรีเฟ็ค....แล้วจะกล้ากลับมาอีกเหรอ ทำเรื่องน่าอายไว้แล้วอ่ะ
.
.
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
Strawberry Boy 🍓
Tumblr media
Strawberry Boy - TAKA 🍓
  มันเริ่มจากสตอเบอร์รี่ลูกเดียว  
   ยามค่ำคืนคืบคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้า ฟ้าข้างนอกเต็มไปด้วยหมู่ดาว บนภูเขาที่สามารถแหงนหน้าขึ้นมองดาวได้ชัดกว่าทุกที แต่ทว่าคนในห้องไม่ได้สนใจมันสักนิดเดียว
มีอะไรล่ะที่น่าสนใจกว่า
 อะไรที่ตัวเล็กๆ ตัวน้อย น่ารักน่าเอ็นดูเท่าทากะ….ไม่มีหรอกตอนนี้
   โทรุปลดกระดุมเสื้อ…เม็ดแรก….เม็ดที่สอง…เม็ดที่สาม จุกเล็กๆ โผล่ออกมาท้าทายสายตา ตบะในใจเริ่มจะสั่น ตอนแรกก็จะถ่ายรูปเก็บไว้ดูเล่น ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วว่าคงไม่จบที่ถ่ายรูป
 หรือเขาควรจะหยุดแค่นี้?
 เด็กน้อยยังไม่ทันได้เรียนรู้โลก ก็มาเจอภัยสังคมแบบเขา เขาควรจะหยุดใช่ไหม?
 โทรุปลดกระดุมออกไปหมดแล้ว เสื้อเปิดโชว์หน้าอกเรียบเนียน จุกนมเม็ดน้อยๆ น่ารัก หน้าท้องขาวๆ กวาดสายตาไปทั่วผิวขาว แต่เขาจะใจร้ายทำเด็กน้อยคนนี้ลงเชียวเหรอ?
 ถึงจะเหี้ยแต่ก็รู้นะว่าควรเหี้ยกับใคร ไม่ใช่กับเด็กน่ารักคนนี้แน่ ถ้าเขาตื่นมาร้องไห้…..แค่คิดก็ทำไม่ลงแล้ว ถ่ายรูปเก็บไว้ในกล้องโทรศัพท์นิดหน่อย ก่อนจะติดกระดุมเสื้อให้ครบทุกเม็ด ห่มผ้าคลุมตัวจิ๋วให้ ออกมายืนมองให้ห่างเตียง ถอนหายใจแรง……เกือบไปแล้ว
  🍓
 โทรุตื่นตั้งแต่แปดโมง รอให้เด็กตื่น แน่นอนว่าคงไม่ปลุก มาพักผ่อนไม่ได้มาจัดทัวร์ โทรุเปิดทีวีดูไปพลางๆ แล้วก็ปิด กลัวเสียงทีวีจะดังรบกวนคนที่นอนอยู่ เลยออกมานั่งเล่นเกมส์ในไอแพดรออยู่ตรงระเบียงห้อง ตรงนี้มองออกไปเห็นวิวของภูเขา วันนี้ฝนไม่ตก เขานั่งเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ จนมีข้อความดังมาจากโทรศัพท์ โทรุเคลียร์เกมส์ได้แล้วถึงค่อยเปิดอ่าน เป็นข้อความจากมาซาโตะที่บอกว่ากินข้าวกันแล้วพร้อมจะไปเที่ยวแถวนี้ต่อแต่โทรุปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล
  เวลาที่มีค่าสำหรับเขาตอนนี้ก็คงเป็น….โทรุมองกลับไปที่เตียงคนที่นอนอยู่บนเตียง
 อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง….อีกสักนิด
  🍓
 เที่ยงกว่าแล้ว…
 เจ้าตัวจิ๋วกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงหลายตลบ หยิบโทรศัพท์มากดเกมส์เล่น ไม่ยอมลุกขึ้นมาสักที ยิ่งพอเห็นเขานั่งอยู่ที่ระเบียงไม่เดินมาบ่น ก็ยิ่งนอนไปเรื่อยๆ
   โทรุยิ้มบางๆ พอคิดอะไรออกมาได้ ลุกออกไปจากเก้าอี้ตรงไปที่เตียง ก็ตื่นแล้วนี่นะ ไม่ได้หลับอยู่ เจ้าตัวเล็กหันมามองเมื่อเขานั่งลงข้างเตียง แต่ยังคงกดเกมส์ในมือไม่หยุด โทรุก็ไม่ได้ทำอะไรนอ���จากเอนตัวลงนอนข้างๆ หยิบโทรศัพท์มาเล่นด้วยเหมือนกัน ใช่….แต่เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงจากคลิป…..ได้ยินก็ต้องหันมาสนใจบ้างล่ะ
 ทากะหันมามองหน้าตื่นๆ รู้แล้วสินะว่าดูอะไรอยู่
 “คลิปพี่เรียวตะเหรอครับ”
 “ดูไหม?”
 “ไม่อ่ะครับ”
 “ชัดมากๆ เรียวตะมันถ่ายเองกับมือ”
 “ผม…ไม่ได้…อยากดู”
 โทรุเร่งเสียดังขึ้น ทากะยกมือปิดหู แต่เสียงคลิปดังจนมือทั้งสองคงไม่ช่วยกันเสียง พอเห็นใบหน้าขึ้นสีเรื่อๆ ปากเม้มติด ตาปิดหนีการรับรู้ โทรุก็เลยยอมปิดคลิปนั้น คือแกล้งแหย่นิดหน่อยอ่ะได้ แต่ไม่มากไปกว่านี้
 “ไม่เคยดูเหรอ….หืม”
  ทากะส่ายหน้า ยอมเปิดตามาคุยแล้ว ท่าทางจะเสียขวัญแหะ โทรุก็เลยดึงตัวน้อยๆ เข้ามาแนบอก รู้สึกตัวอีกทีตอนถูกดึงเข้าไปกอดจนตัวจมไปกับอกพี่เขา พี่โทรุตัวใหญ่ ถูกกอดทีคือมิดตัว ไม่มีที่ว่างให้ขยับไปไหน พี่โทรุลูบแขนเบาๆ ทั้งสองข้าง ชอบที่พี่เขาใจดี แม้จะชอบแกล้งไปหน่อย แต่พอเขาดีทีไร ใจมันฟุ้งๆ ตัวเบาแปลกๆ ทากะใจเต้นที่ถูกพี่เขากอด แต่ก็ชอบนะ แต่ว่าพอเขาเริ่มจะหอมแก้มทีไร มันก็จะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น
 มือพี่เขาสอดเข้ามาในเสื้อ เข้ามายุ่มย่ามกับตรงหัวนม ความรู้สึกคือเหมือนถูกจักจี้ไปตามแขนขา พี่เขาบีบหัวนมจนตัวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นิ้วที่กำลังจับตรงนมขยับไม่ยอมหยุด ถูกเคล้นเหมือนจะบีบให้น้ำนมไหลออก ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่มีน้ำนม…
 “…อ๊ะ…” จู่ๆ ทากะร้อนไปจนถึงตรงส่วนนั้น ที่มันเคยเกิดขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย มันร้อนไปหมด…
 โทรุกดจมูกลงมาตามกกหู ลากลิ้นผ่านลำคอมายังไหปลาร้า กลิ่นสบู่อ่อนๆ หอมเนื้อเด็กที่กำลังจะโต คนบนตักแข้งขาสั่น ตรงนั้นคงมีอาการ มือข้างนึงหยุดเล่น ลากลงต่ำไปใต้กางเกงนอนอย่างรู้หน้าที่
 ทากะสะดุ้งสุดตัว หวีดเสียงอุทานด้วยความตกใจเมื่อโดนสัมผัส
 “พี่!!..โทรุ!!” ร่างน้อยๆ ย้ายสะโพกหนีให้พ้นมือ ก็เลยต้องกำไว้รอบๆ ประคองเจ้าจิ๋วไว้ในอุ้งมือ ถ่ายเทความร้อนจากตัวเองไปให้อีกฝ่าย คลึงมันเบาๆ ลูบปลอบให้หายตกใจ สะโพกนิ่มทิ้งตัวนั่งลงกลับที่เดิมอย่างคนหมด แรงขยับมือขึ้นลงทีละนิด เร่งความเร็วจนเสียงหวานหวีดในคอ ปากเขาแนบลงไปบนเสื้อนอนชินจัง กัดยอดอกผ่านเสื้อให้นูนขึ้นมาตามรอยเปียก ขบเม้มโดยแรงให้ตุ่มเนื้อนูนออกมาจากผ้า แล้วดูดกลืนประหนึ่งหิวโหยมาแสนนาน
 “อ๊าา” เสียงหวานๆ ตัวอ่อนระทวยลงมาแนบตัก เขาก็ชักจะร้อนขึ้นมาซะแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้คนน่ารักต้องมาแปดเปื้อน ข่มใจไว้ก่อน จะรออีกสักพัก…จนกว่าจะถึงเวลานั้น
 โทรุเอามือออกมาจากกางเกงนอน ยกฝ่ามือขึ้นมาเลียร่องรอยที่ทากะปล่อยทิ้งไว้ ปลายลิ้นแนบไปตามนิ้ว ทีละนิ้ว คนตัวเล็กที่มองอยู่ได้แต่เม้มปาก นอกจากหัวใจจะกระเด็นกระดอนไปทางนั้นทีทางนี้ที ร่างกายมันก็จะร้อน….ขึ้นอีกแล้ว ขยับเรียวขาหนีบเข้าหาตัวไปโดยอัตโนมัติ ทุกอย่างอยู่ในสายตาคม….
 แน่นอนสิ….เขาตั้งใจ
 🍓
 โทรุให้ทากะอาบน้ำก่อนค่อยกินข้าวกลางวัน นี่ไงวิธีการไล่เด็กไปอาบน้ำที่เร็วที่สุด…
 ทากะแต่งตัวเสร็จแล้วถึงพาออกจากห้องตามทามทางเดินของโรงแรม พาลงลิฟท์ไปชั้นล่าง เดินมายังห้องอาหารที่มองออกไปเห็นทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้าภูเขา เป็นห้องแบบญี่ปุ่น แต่เป็นบุฟเฟต์ ต้องเดินไปตักมานั่งกินที่โต๊ะ เขาเดินตามทากะไป มองดูคนน่ารักเดินไปตักข้าวใส่ถ้วย ตักซุปมิโซะ ไข่ ผักต้ม ผัดผัก เด็กกำลังโต กินเก่งจังเลยน้า เขาก็ตักอาหารบ้างนิดหน่อย ไม่ค่อยหิว แค่อยากเฝ้าดูคนตรงหน้ากินก็พอแล้ว
  ตั้งอกตั้งใจป้อนข้าวใส่ปากทีละคำสองคำ เอาตะเกียบคีบผักไม่มีท่าทีอิดออดกินผักไม่ได้เหมือนเด็กคนอื่น เวลาซดน้ำซุปมีเสียงนี่มัน….น่ารักจัง
 นั่งดูทากะจัดการอาหารเช้าในมื้อกลางวัน เก็บรายละเอียดการเคลื่อนไหวตรงหน้า รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากเมื่อได้ทานนมร้อนๆ จนอิ่ม ขนมปังปิ้งที่ถูกฉีกใส่ปากทีละชิ้นเล็กๆ นั่นอีก ดูน่าเอร็ดอร่อย พอเขาลองกินขนมปังปิ้งแบบเดียวกับทากะ มันกลับไม่อร่อยแบบที่เจ้าตัวน้อยกิน
 ดีจังน้า เด็กกำลังโต กินอะไรก็อร่อยไปหมด
 โทรุอมยิ้ม ริมฝีปากคลี่ออกกว้าง มือจับหูแก้วสีขาว จิบกาแฟร้อนๆ ปากจรดกับปากแก้วกาแฟ เป็นภาพที่ทำให้ทากะเผลอมองตาค้าง ออร่าที่แผ่ออกมาจากร่าง โครตจะละสายตาไปไม่ได้เลย..
 “พวกพี่เรียวตะ���ังไม่ตื่นเหรอครับ”
 “นั่นสิ สงสัยจะยัง” โทรุอมยิ้ม จิบกาแฟให้หมดแก้วก่อนค่อยคิดว่าจะไปไหน ไม่มีรถก็ไปยากหน่อย อย่างมาก็แค่เดินเล่นไปรอบๆ ทะเลสาบ พาทากะไปหาของกินอร่อยๆ ตามร้าน
 “เราอยากไปเที่ยวไหนไหมล่ะ”
 “ผม..ไม่รู้สิ อืม พี่อยากไปไหนรึเปล่าล่ะ”
 “แล้วแต่เราเลย”
 “ยากจัง…”
 “อยากไปไหนล่ะครับ”
 “ผมไม่รู้ว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง”
 “ลองเปิดหาดูสิ”
 “อ้อ” อุทานแบบเพิ่งนึกได้ว่ามีอุปกรณ์ค้นหาอยู่ในมือแท้ๆ แต่นึกไม่ออกเพราะเอาไว้เล่นเกมส์ตลอดเวลา
 “โอ๊ะ อยากดูงานเทศกาลดอกไม้ไฟ เขาจะมีการปล่อยพลุ”
 “รอมืดเลย…แล้วอยากไปไหนก่อนไหม?”
 “ไม่อ่ะครับ ผมกำลังเคลียร์เกมส์ด่านนี้..เล่นมาเป็นอาทิตย์แล้วไม่ผ่านสักที”
 “ได้สิ งั้นเราจะไปนั่งเล่นที่ห้อง…หรือจะไปนั่งข้างนอกดี” โทรุชี้ออกไปทางหน้าทะเลสาปที่มีทางเดินโรงแรมเชื่อมไป มีพวกเก้าอี้ยาวๆ มีโต๊ะไว้ให้นั่งเล่นพักผ่อน
 “ไกลไปอ่ะ กลับห้องได้ไหมครับ เดี๋ยวสัญญาณ wifi ไปไม่ถึง”
 “งั้นกินอิ่มแล้วกลับห้องกันเนอะ” โทรุยิ้มมองคนที่พยักหน้าเห็นด้วย
 ไม่คิด…อะไรเลย ไม่ระวังตัวสักนิด
 จะกลับห้องไปจริงๆ เหรอ แน่ใจเหรอว่าจะอดทนได้ ต้องฝืนใจตัวเองมากนะโทรุ
  🍓
 โทรุถอดถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ มองดูทากะเดินกลับไปขึ้นเตียง เขาถอยออกไปนั่งที่ระเบียง มองคนที่นอนคว่ำเล่นเกมส์เตะขาขึ้นลงแล้วฮัมเพลงไปด้วย เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู
 เด็กน้อยเริ่มจะหาว คอพับลงไปกับหมอนแล้วหลับไปในที่สุด เด็กกำลังโต พอได้นอนคว่ำตัวลงกับเตียงเล่นเกมส์เตะขาขึ้นลงได้พักเดียวก็ง่วง
 โทรุเดินกลับเข้ามาในห้อง หยุดยืนข้างเตียง ทากะสวมกางเกงผ้ายืด ผ้านิ่มๆ ตอนนอนมันเลยถลกขึ้นสูงจนเห็นน่องขาวที่โผล่พ้นกางเกง  เขาวางมือลงบนน่องขาก่อนจะลากสัมผัสขึ้นสูงถึงจุดที่สายตาโฟกัสเมื่อสักครู่ ผิวเนียนลื่นมือ สะอาดและบริสุทธิ์ผุดผ่อง…เขาไม่อยากทำลายความบริสุทธิ์ตรงหน้า
 วางมือลงบนสะโพกนิ่ม ขัดใจเนื้อผ้าที่ขวางกั้น แต่ก็ยอมหยุดมือแล้ว
 “งื้อออ พี่โทรุ”
 เด็กน้อยนอนละเมอให้คนที่กำลังจะหันหลังหันกลับไปมองอีกครั้ง
 นอนดิ้นจนตัวพลิกกลับ คราวนี้เสื้อย่นขึ้นอีก เปิดพุงน้อยๆ เห็นสะดือเลย
 อย่า….ถอยออกมาเดี๋ยวนี้
  อีกนิดเดียวก็จะเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้า แค่เขาขยับตัวไปทำอย่างใจคิด
 ศีลธรรม….มันต้องมี
 โทรุยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้นานขนาดไหน
 ไม่กล้าขยับตัว กลัวจะหยุดตัวเองไว้ไม่ได้
    คนบนเตียงกระพริบตาปริบๆ กำลังจะตื่น พอลืมตาแล้วมือก็ควานหาโทรศัพท์ที่ทำตก หยิบขึ้นมากดเกมส์ในมือ ไม่ทันสังเกตเห็นเขาหรอก เดินออกมานั่งที่ระเบียงก่อน เปิดไอแพด ทำเป็นพิมพ์อะไรอยู่
  “พี่โทรุ หิวแล้วอ่ะ” เจ้าตัวเล็กงึมงำเดินออกมานั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆ
 “กินจุนะเรา”
 “อยากกินหนมอ่ะ” เอาหน้าวางลงบนโต๊ะท่าทางไร้เรียวแรง คอพับคออ่อน สายตาอ้อนจะกินขนม….น่ารัก
 “งั้นลงไปห้องอาหารกัน”
 “…สั่งขึ้นมากินได้ไหมอ่ะครับ…เล่นเกมส์ค้างไว้อ่ะ…”
 “อืม ได้สิ” ตามใจโดยดี คนตัวเล็กเอนตัวนั่งตรง ยิ้มกว้างๆ แล้วกดเกมส์ต่อไป
 ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย….
  กินขนมที่มาส่งถึงห้องหมดแล้ว เดินกลับไปตีขานอนคว่ำเล่นเกมส์ดังเดิม ภาพวนลูป..ขาเรียวขาว เสื้อย่นเปิดแผ่นหลังน้อย คนนอนไม่สนใจระวังอะไร ก็นะ มีแต่เขาที่คิดไปเองล้วนๆ เด็กน้อย…รู้ไหมว่าทำเอาคนแก่สติแตก จิตใจบาปหยาบช้า
    มีแชทเด้งขึ้นมาบนหน้าจอไอแพด….
 “มึงอยู่ไหน”
 “ห้อง”
 “อะไรกัน ทำน้องเขาจนไปไหนไม่รอดเหรอ”
 “กูไม่ใช่มึงนะ”
 “หึ..หึ จะอดทนได้สักกี่วัน”
  เออ กูอดทนอยู่ ช่วยอย่ามาขัดคอได้ไหม
  “คืนพรุ่งนี้ยังไม่กลับนะ จะพาทากะไปดูพลุ”
 “เออ แล้วแต่ ” เรียวตะตอบกลับมา พร้อมกับส่งภาพที่ไปเที่ยวมาให้ดู…..
   🍓
มืดแล้ว โทรุได้นอนไปรอบนึง ใช้พลังงานกดข่มความบาปมากไปหน่อยเลยง่วง แค่เดินไปเอนตัวนอนข้างๆ ทากะแล้วหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกที ภายในห้องมีแสงจากโคมไฟดวงน้อยที่ข้างเตียง หลับไปนานไปแค่ไหนหรือว่าจะยังอยู่ในฝัน โทรุเพิ่งเห็นทากะที่เอาหน้ามาซุกอก แขนทากะโอบรอบเอวเขา กำลังกรนเบาๆ ขาน้องยังเอามาก่ายขาเขาไว้ด้วย
 มีเสียงงึมงำพอเขาเอามือมาเกลี่ยผมที่ปรกแก้มออกไปทัดหู โทรุโน้มคอลงไปหาแก้มใส หอมแก้มไปที กลิ่นเด็กน้อยนี่มันชื่นใจ ร่างกายของเขามันซื่อตรงเกินไปสินะ มันต้องการคนๆนี้มาก….ไม่ไหวแล้วรู้เปล่า
 โทรุกดจมูกต่ำลงมาที่ซอกคอเล็ก ขยับตัวขึ้นคล่อม แช่ลมหายใจไว้ตรงคอนิ่มๆ สูดกลิ่นหอมของน้องเข้าเต็มปอด เหมือนได้ชาร์จพลัง ความเหนื่อยล้าที่สะสมไว้ในตัวถูกปลดปล่อยออกไป โทรุรู้แล้วว่าต่อจากนี้ไปเขาคงต้องมีคนตัวเล็กอยู่ข้างกาย มันไม่ใช่แค่จิตใจที่คะนึงหา ร่างกายเขาเองก็ต้องการเด็กคนนี้
 “ทากะ…ไปดูดอกไมไฟกัน มืดแล้ว” โทรุปลุกด้วยเสียงโทนต่ำ คนที่นอนอยู่ยังคงครางด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ฟังดูแล้วอยากจะนอนต่อ คงเล่นเกมส์จนเหนื่อย โทรุเลื่อนตัวลงต่ำลง ดึงเสื้อขาวๆ ขึ้นสูงจนเห็นยอดอกสวย สีชมพูอ่อนกำลังน่ารัก นิ้วมือเกี่ยวขากางเกงเลื่อนลงต่ำจนเห็นชั้นในสีขาว อืม…เด็กๆ ชอบใส่สีขาวจริงๆ ออกแรงดึงลงอีกนิดให้ลงมากองที่ต้นขา หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมากดถ่ายรูปไว้ แตะต้องยังไม่ได้ งั้นขอถ่ายรูปเก็บไว้หน่อยละกัน…จะลงแดงแล้วพี่อ่ะ
เห้อ…อยากดึงกางเกงลงอีกนิด….ให้ชั้นในสีขาวออกไปจากเฟรมภาพ
ทำไปแล้ว….
 ถ่ายรูป…ซ้ำๆ เด็กน้อยที่เปลือย ไม่มีทางให้ใครเห็น
 โทรุวางโทรศัพท์ลง ก้มตัวลงต่ำ ใบหน้าเคลื่อนลงไปยังใจกลางหว่างขา มือประคองน้องจิ๋วไว้ ใช้ปากครอบครองจนน้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ โทรุเคล้นคลึง ปลอบประโลม รุกเร้า มันนิ่มไปหมด น่ารักไปหมด
“อ๊ะ..อื้อ”
ดูดกลืนความอ่อนหวาน ความสดใส ปากรูดชักให้อารมณ์สูงขึ้น จบลงด้วยการปลดปล่อยออกมา ทากะเคลิ้ม…ส่งเสียงคราง แต่คงนึกว่าตัวเองฝันอยู่ ลมหายใจถี่ๆ นั้นผ่อนคลายลง ยังคงไม่ตื่น จะปลุกเจ้าชายน้อยตื่นขึ้นมาเจอกับเขาหรือจะปล่อยให้นิทราอยู่ในความฝันดีนะ
 ดึงกางเกงขึ้นปกปิดดังเดิม แต่เสื้อที่เปิดขึ้นเหนืออกจนเห็นจุกนมน้อยโผล่มานั้นทำเอาโทรุสติแตกอีกรอบ…ร่างกายไปไวกว่าที่คิด รู้ตัวอีกทีปากครอบลงดูดหัวนมน้อยๆ ทั้งสองข้างแล้ว พาลให้คนนอนอยู่ต้องตื่นขึ้นมาในที่สุด
 “พี่โทรุ….” หน้าตาเหลอหลาทำอะไรไม่ถูก เขาไม่หยุดลิ้น ร่างบางเลยยิ่งดิ้นพล่าน มือสเปะสปะมาจับผมเขา ใบหน้าเหยเกเพราะมีอารมณ์ร่วม
 “..อ้ะ…ดูดนมผม..ไม อื้อออ” 
 โทรุไม่ได้ตอบ สลับมาดูดหัวนมอีกข้าง ลิ้นกระหวัดไปรอบๆ ใช้ลิ้นดูดเหมือนกับเป็นลูกอม ปากไม่ว่าง
  “…ฮึก…”
  เอ้า….โทรุเลยต้องหยุด ก็ทากะดันร้องไห้ซะงั้น คงตกใจที่โดนรุก.... ก็เลยต้องลุกขึ้นนั่งดึงตัวจิ๋วมากอดไว้ ลูบแผ่นหลังให้น้ำตาหยุด
 “พี่ชอบเรานะ”
  “ชอบ…ผม?” หยุดน้ำตาไม่ได้…แต่ก็ตกใจเพิ่ม
 “ชอบมากๆ จนอยากปล้ำ”
  ทากะ…พูดไม่ออก หน้าแดงไม่พอ หัวใจเต้นถี่ ไม่คิดสินะว่าเขาจะพูดตรงขนาดนี้
  “อยากกินเราเข้าไปทั้งตัวแล้ว…”
 “ไม่อยากจะอดทนแล้ว”
  “ให้พี่กินได้ป่ะ”
  “กินนม?”
  โทรุหลุดเสียงหัวเราะ
 “กินทั้งตัวเลย…”
 “เซ็กซ์…เหรอ”
 “ครับ”
  “แต่ผมเพิ่งจะม.ต้น แม่คงไม่ให้พี่กินผมหรอก”
 โทรุยิ้มกว้าง
  “ก็อย่าบอกแม่สิครับ…”
 “….ง่ะ….ไม่ดีนะ”
 ถูกจูบมากี่รอบแล้ว คิดไม่ได้เหรอ เด็กหนอ คงไม่ทันเฉลียวใจเลยว่าพี่คิดอะไร
  “กลัวพี่รึเปล่า?”
 ทากะส่ายหน้า
 “ไว้ใจไหม”
 ทากะพยักหน้า
 “รักพี่ไหม?”
 “……..”
 คนถูกถามอ้าปากเผยอขึ้นก่อนจะหุบลง ปากอิ่มค่อยๆ เม้มติดกัน ท่าทางจะเขินที่ต้องพูดออกมา หน้าแดงหูแดงไปหมด แดงจนอยากจะหอมแก้มอีกสักที
  เสียงดังออกมาจากข้างนอก ข้างล่างของภูเขาคงเริ่มที่จะจุดพลุกันแล้ว ถ้ามองจากบนเขาก็ยังเห็นพลุไฟอยู่นะ ถ้าออกไปดูที่ระเบียง สุดท้ายวันนี้ก็ไม่ได้ออกไปไหน…
 ไว้พรุ่งนี้แล้วกันเนอะ
 เขาก้มลงจูบปากสวย ทากะเผยอปากอ้าน้อยๆ ให้โทรุโดยไม่ทันรู้สึกตัว ลิ้นพี่ชายสอดเข้ามาข้างในปาก เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเขา พาลเอาสติใกล้หลุด มือพี่ชายสอดเข้ามาในกางเกงอีกแล้ว จับตรงนั้นจนมันเริ่มสู้มือ…
 …ปล่อยให้เป็นแบบนี้ผิดไหมอ่ะ?
 รู้นะว่ามันคือเซ็กซ์…แต่ว่า…เพราะเป็นพี่ชาย…..ก็เลย…..
 ทากะจับมือพี่ชายไว้…
 “ไม่”
 “กลัว?”
 “…คือ……อยากเข้าห้องน้ำอ่ะ”
  “ปล่อยออกมาเลยสิ….”
   “ไม่”
        🍓
    ตอนแรกจะมีต่อ แต่ศีลธรรมยังค้ำคออยู่ เลยมาไกลได้แค่นี้อ้ะ 
 น้องยังเด็กอ่ะ ไม่ไหว ใจร้ายไม่ลง….
(อ่านจบตอนนี้ก็ต้องไปจิ้มอ่านต่อตอนนี้เลยนะคะ https://10969rainbow.tumblr.com/post/178678065955/strawberry-boy )
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
Strawberry Boy - PARADISE
Tumblr media
    “เล่นกับเด็กจะไปสนุกอะไร”
   เรียวตะไม่ได้กล่าว แค่ยัดเยียดประโยคหมาๆ นี่ให้ก่อนกลับบ้าน
                    PARADISE   🍂 
   ฝนตกอีกแล้ว ตกหนักมากจนทริปที่วางแผนไว้จะล่มกระทันหัน มีคนยกเลิกทริปไม่ยอมไปด้วย เหตุผลเพราะขี้เกียจขับรถขึ้นภูเขา ก็นะ ก็น่าจะรู้ว่าต้องเจอแบบนี้ มันวันหยุดหน้าฝน จะให้ขับง่ายๆ ก็ไม่มีทางเจอสภาพอากาศแบบนั้นอยู่แล้วเว้ย
โทรุเอารถไปเช็คสภาพก่อนหนึ่งวันพร้อมโทโมยะ แผนการเดินทางก็ตามเดิม แปดโมงล้อหมุน จุดมุ่งหมายคือจังหวัดยามานาชิ...
   แวะรับเด็กน่ะ ^^
   ไร่สตอเบอร์รี่ที่เดิมเพิ่มเติมคือกลับมาแล้วอีกหลายครั้ง โทรุได้รู้ไปเองว่าพอหมดช่วงปลูกสตอเบอร์รี่ก็จะปลูกพีช ปลูกองุ่น วนเวียนไปตามฤดูกาล เขากลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ รู้จักกับคุณแม่ของทากะไปโดยปริยาย พาทัวร์มาลงที่นี่จนคิวแน่นเต็มเกือบทุกเดือน เกิดมาเป็นลูกชายเจ้าของทัวร์ทั้งที่อ่ะนะ มัวแต่งอมืองอเท้าอยู่ก็ไม่ได้ลูกเจ้าของไร่สิ.....??
แต่ก่อนเขาก็เคยช่วยพ่อทำทัวร์ด้วยการเป็นมัคคุเทศก์ฝึกหัด ไปโดนใจแมวมองค่ายหนึ่งเข้าระหว่างทำงาน ก็เลยจับพลัดจับผลูไปเป็นนายแบบ นักแสดง  ไม่ได้มีชื่อเสียงมากแต่มีแฟนคลับอยู่พอตัว เวลาไปไหนทีก็ต้องเข้าป่าหายหัวไปเลย ไม่งั้นโดนตามจนไม่เป็นอันทำอะไร
เอาจริงเขาค่อนข้างจะชอบการปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว จะไปเที่ยวแค่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่าตั้งแต่ไปทำงานในวงการรึเปล่าที่ทำให้นิสัยเขาเปลี่ยนไปจากเดิม จากคนที่ชอบการเข้าสังคมกลายมาเป็นคนเก็บตัว ก็ใช่ที่ตอนช่วงวัยรุ่นก็อยากทำอะไรที่มันท้าทาย พอได้ทำแล้วกลับกลายเป็นไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ไปไหนก็ยาก ต้องหนีออกนอกประเทศไปเลยถ้าหากว่าอยากพัก ชีวิตเขาตอนนี้ค่อนข้างเหนื่อยพอสมควร… รู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้ชีวิต เพราะในหนึ่งวันเอาแต่ทำงานหาเงิน รักษาชื่อเสียงไม่ให้ด่างพร้อย
บางเวลาแค่อยากจะพัก
กับใครบางคน…ที่แสนน่ารัก
                           PARADISE   🍂 
รถแล่นเข้ามาในเขตไร่ สมาชิกในรถคันนี้มีเขากับเรียวตะและเด็กของมัน รถอีกคันเข้ามาจอดด้านข้าง คันนั้นมีมาซาโตะ โทโมยะกับเด็กของมัน มาเที่ยวทั้งทีนอกจากมาผ่อนคลาย���ล้วก็ยังอยากจะจู๋จี๋กับแฟนด้วย 
โทรุเดินเข้าไปในส่วนหน้าร้าน เดินหาเจอคุณแม่ก็หยุดคุยด้วยสักหน่อย คุณแม่ใจดี พอเอ่ยปากชวนทากะไปเที่ยว��้วยก็อนุญาตให้ไปด้วย ครอบครัวนี้นี่เคยคิดจะระแวดระวังสงสัยในคนที่เข้ามาหาบ้างไหมนะ...
   “ทากะอยู่ข้างในจ้ะ” คุณแม่มองไปทางด้านหลังร้าน โทรุเดินตามเข้ามาข้างใน มองหาทากะแต่ไม่เจอ เขาเดินผ่านส่วนที่เป็นห้องดูทีวี เข้าไปด้านหลังเป็นส่วนครัว เจ้าตัวจิ๋วกำลังนั่งตักซีเรียลเข้าปาก มือกดโทรศัพท์คงจะเล่นเกมส์อยู่เป็นแน่ เพิ่งจะกินข้าวเช้า นี่มันกี่โมงแล้ว....
 เพราะมัวแต่เล่นเกมส์จนไม่สนใจเขาที่เดินเข้ามา 
 “พี่โทรุยังไม่มาอีกเหรอครับ” ปากเคี้ยวตุ้ยๆ มุมปากเลอะนม มือที่ตักซีเรียลก็ตักใส่ปากเรื่อยๆ  มือที่เล่นเกมส์ก็เล่น ดูท่าทางจะใช้สมาธิมากเลยน้า...คิดว่าเขาเป็นคุณแม่ด้วย...แต่พอดีพี่ไม่อยากเป็นแม่อ่ะ
กระเป๋าเป้สีแดงวางไว้บนเก้าอี้ด้านข้าง เตรียมของพร้อมแล้วสินะ
โทรุเดินอ้อมไปด้านหลัง สอดเรียวแขนทั้งพาดรอบเอวบาง รวบตัวเล็กๆ ด้วยมือทั้งสองข้างยกลอยขึ้นจากเก้าอี้
 “เหวอออออออ” ทากะร้องด้วยความตกใจ แต่พอหันมามองแล้วพอรู้ว่าใครก็ระบายยิ้มเต็มแก้มใส ดวงตาสดใสตอนเห็นเขาดูดีใจเกินกว่าเหตุ เวลาได้เห็นก็ชอบทุกที ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องติดใจตากลมๆ วาวๆ เวลาจ้องมาที่เขาด้วย
“พี่โทรุผมตกใจนะ” เจ้าตัวจิ๋วเขย่าแขนให้ปล่อยตัวเองลง ปล่อยก็ได้...แต่
โทรุก้มหน้าลงไปเลียรอยนมที่มุมปากช้าๆ ทากะรู้สึกจั๊กจี้นิดๆ ประหนึ่งมีแมวมาเลีย... โทรุแถมจุ๊บเบาๆ ตรงรอยเปียก แล้วก็หอมแก้มนิ่มอีกสักที
“ทำไร!!” ทากะร้องเสียงหลง ใบหน้าแดงแจ๋ แดงแบบหูเหอแดง แดงไปจนถึงลำค�� เห็นทีไรก็ชอบแหย่ให้เด็กมันเขิน น่ารักชะมัด
ตัวจิ๋วเอามือจับมุมปากที่ถูกจูบเบาๆ 
พี่โทรุจะปล่อยให้นั่งกินซีเรียลเหมือนเดิมแล้วแต่...ไอหัวใจที่ยังคงเต้นตุ้บๆ นี่ใครจะรับผิดชอบ!
ฮึ่ม...ทำไมชอบมาหอม มาทำอะไรแบบนี้ เขาไม่ใช่ผู้หญิงนะ... ยิ่งพี่โทรุมานั่งข้างๆ ฉีกยิ้มกว้างๆ รอให้กินซีเรียลให้หมดก่อนถึงจะออกเดินทางนี่....
ทากะตักซีเรียลเข้าปากแบบไม่รู้รสชาติแล้ว!
  ในที่สุดกระเป๋าเป้กับเจ้าของเป้ก็มานั่งอยู่ข้างเขาบนรถ ลองทายกันดูดิว่าแก้มยังแดงอยู่รึเปล่า?
                          PARADISE   🍃
ขับรถไปไม่ไกลก็ถึงจุดพักรถ เจ้าตัวจิ๋วหลับอยู่ด้านข้าง เรียวตะกับเด็กลงจากรถไปแล้ว...จะปล่อยให้เด็กมันหลับอยู่บนรถคนเดียวได้ยังไง
ไม่คิดจะปลุกเหรอ?
นี่ก็ปลุกนะแต่เด็กมันขี้เซา ปลุกยังไงก็ไม่ตื่นนะสิ ไม่รู้ฝันอะไรด้วยนะ ทำเสียงงึมงำๆ
 โทรุเงี่ยหูไปฟังใกล้ๆ ก็ยังจับใจความไม่ได้ ขนตายาวเหมือนกันนะ มีขี้แมลงวันที่แก้มซ้ายเยอะกว่าขวา ปากแห้งไปนิดเดี๋ยวหาครีมบำรุงปากให้สักหน่อย นี่ฝันอยู่นะจะขมวดคิ้วอะไรขนาดนั้น กดปลายนิ้วโป้งลงไปบนหัวคิ้วคลึงๆ ให้มันคลายตัว 
เป็นแค่เด็กอย่าหัดคิดมากแม้กระทั่งในฝัน
โทรุลากนิ้วมาเกลี่ยขี้แมลงวันที่ต่อกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ลากเส้นวาดตามที่รู้สึก ปากแห้งเกินไปจริงๆ เกลี่ยๆ ลงไปบนรอยหยักของปากสีแดงๆ กำลังนึกถึงลูกสตอเบอร์รี่ในไร่
 อืม....อยากชิมสักหน่อย
 โทรุแนบปากลงไปบนปากอิ่ม ลิ้นกวาดไปตามผิวเนื้อจนฉ่ำ ได้กลิ่นนม พอสอดลิ้นเข้าไปในปาก รสชาตินมยังหลงเหลืออยู่จริงๆ ด้วย โทรุกวาดลิ้นไปทั่วปาก ประกบลิ้นลงไปบนเรียวลิ้นดูดกลืนความหวานของรสนมออกมาจากปากของทากะ
“อื้อ...” ทากะขยับลิ้นหนี ปากโทรุที่พัวพันอยู่ รำคาญนิดๆ มือเจ้ากรรมมันไปเองตอนนี้มันอยู่ในเสื้อยืดสีขาวที่มีรูปโลโก้ของไร่ นมเล็กแต่ก็นุ่มๆ ดีแหะ ใช้นิ้วสะกิดปลายยอดก่อนจะใช้สามนิ้วกอบกุมรอบนม บีบจับนิดเดียวก็บวมเต่ง ลองทำอีกข้างก็ตึงขึ้นมาสู้มือ เสียงทากะครางเครือ เขายังคงอ้อล้อกับจูบนี้ไม่ปล่อย จนตาใสๆ กระพริบมอง ตื่นแล้วสิ... ทากะพอรู้ว่ากำลังโดนทำอะไรอยู่ หน้าขาวๆ ก็เปลี่ยนสีทันตาเห็น
“อื้ก..” โทรุกวาดลิ้นคลึงเป็นรอบสุดท้าย เล็บจิกยอดอกจนทากะร้อง หน้านิ่ว เจ้าตัวจิ๋วยกมือขึ้นผลักเขา โทรุเลยยอมถอนจูบออกไป มีน้ำลายเปียกย้อยมาตามคาง เป็นจูบที่ดูดดื่มเต็มไปด้วยรสนม
หวาน...ชื่นใจชะมัด
โทรุยิ้มกว้างให้คนที่มองเขาอย่างตื่นๆ  คนที่พยายามยกมือนึงขึ้นปิดปากตัวเอง อีกมือพยายามปิดบังหน้าอกที่อยู่ใต้เสื้อยืด...หึหึ
...เด็กน้อย ทำไมน่ารักขนาดนี้ ให้ตายเถอะ...คืนนี้จะอดใจไหวไหม
                            PARADISE    🍂
   โทรุขับรถวนขึ้นตามทางขึ้นเขา เส้นทางค่อนข้างลื่นสักพักก็ถึงที่จอด หลังจากนี้คือต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปต่อ พวกเขาแวะเข้าห้องน้ำกันอีกรอบ คราวนี้เจ้าตัวจิ๋วดันหิวขึ้นมา ก็เลยตัดสินใจกินข้าวตรงนี้ก่อน
สาวๆ ของเพื่อนสนุกกับการคุยกับเด็กน้อย ถามอะไรก็ตอบซื่อๆ 
  ...บทสนทนาระหว่างทากะกับสาวๆ ของเพื่อน...
 ...
“เรียนจบแล้วจะทำงานอะไรจ๊ะ”
“ทำงานที่ไร่ครับ”
“ไม่อยากลองทำงานในเมืองเหรอ”
“ไม่มีใครช่วยแม่น่ะสิครับ”
“ไม่มีงานที่อยากทำเหรอ” เด็กของเรียวตะถามขึ้น ทากะเอียงคอคิด...
“งานที่อยากจะทำไง” เด็กของมาซาโตะพูดต่อ
“ก็แบบอาชีพในฝันไง” เด็กของโทโมยะตบท้ายเมื่อทากะยังคิดไม่ออก
“อืม...ไม่รู้สิครับ ไม่รู้อ่ะ แล้วพวกพี่สาวทำงานอะไรกันครับ”
“ก็ทำไปเรื่อยจ๊ะ ถ่ายแบบบ้าง เป็นพิธีกรบ้าง”
“พิธีกร?”
“รายการทีวี”
“อย่างนี้ผมก็ต้องเคยเห็นพวกพี่สิครับ” ถึงทากะจะพูดอย่างนั้น แต่คนที่ไม่ได้เปิดทีวีเลย วันหนึ่งหมดไปกับเกมส์กับการดูแลไร่ ถ้าเคยเห็นสาวๆ พวกนี้...แต่ไม่รู้จักพวกเขา มันคงเป็นไปไม่ได้
สาวๆ หัวเราะ รีบเล่าให้ฟังว่าต้องตื่นมากี่โมงถึงจะเจอพวกเธอที่หน้าจอทีวีช่องไหน
.....
.......
  “เด็กมึงแม่ง...อินโนเซนต์ไปนะ” เรียวตะเดินมาพูดกับเขา เมื่อเจอกับเขาที่ยืนรอทากะตรงหน้าตู้กดน้ำ
“อืม ไม่ค่อยทันคนด้วย”
“พอมึงพูด กูก็เลยรู้สึกว่าน้องเขาต้องระวังมึงที่สุด” ทำเป็นยิ้มแบบรู้ทัน
“กูดูแลอย่างดี”
“สัด กูเห็นนะในรถ”
“....”
“กูถ่ายคลิปไว้ละ เดี๋ยวจะเอาไปให้แม่เขาดู”
โทรุที่กำลังยืนกดโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมามองเรียวตะ มองโทรศัพท์ในมือเรียวตะ คนที่ยิ้มกรุ่มกริ่มกำลังกวัดแกว่งโทรศัพท์ในมือไปมา
  “กูก็มีคลิปที่มึงเอาแฟนเก่า”
 เรียวตะผงะ สีหน้าช็อกไปแล้ว หันไปมองรอบๆ ว่ามีใครได้ยินที่โทรุพูดไหม โชคดีที่สาวๆ กับคนอื่นเดินไปรอที่ทางขึ้นกระเช้าแล้วเลยไม่มีใครได้ยิน
  “สัด! มึงแอบเล่นโทรศัพท์กู!!!”
                                 PARADISE    🍂
  พวกเขาขับรถกลับมายังที่พักที่จองไว้ ทริปสั้นๆ ขับรถขึ้นเขามาเพื่อขึ้นกระเช้าไปอีกหนึ่งต่อ ก่อนจะเดินฝ่าฝันทางคดเคี้ยวเพื่อขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตก มันเป็นภาพสวยงามและน่าประทับใจอย่างมาก
ช่วงเวลาที่สวยงามถูกบันทึกไว้ในกล้องโทรศัพท์ แอบถ่ายเด็กน้อยมาหลายภาพเลย...
 “พี่โทรุครับ......ที่พูดหน้าห้องน้ำจริงเหรอ...” ทากะตัดสินใจถามขึ้นทันทีที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ก็หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้องของใครของมันแล้ว
 โทรุที่กำลังหยิบผ้าขนหนูเตรียมจะไปอาบน้ำถึงกับหยุดเดิน จังหวะที่หันหลังกลับมาก็คิดแล้วว่าจะโกหกหรือพูดความจริงดี....
โกหกเหมือนเคยๆ หรือจะลองพูดไปเลย สันดานเขากับเพื่อนๆ ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา ความหล่อก็แค่หลอกให้มาติดกับ ก่อนที่ต่างฝ่ายจะรู้จักตัวจริงของกัน ตักตวงความสุขให้มากพอ พอความสุขหมดความสัมพันธ์ก็จบลง
มันจะวนซ้ำๆ ซากๆ อีกไม่รู้กี่ครั้งเหมือนกันเรื่องแบบนี้ รักๆ เลิกๆ บางทีก็แค่อารมณ์พาไปล้วนๆ ไม่ได้รู้สึกรักอะไรสักนิดเลย แค่นมใหญ่ๆ สวยๆ ก็ใจอ่อนแล้ว
แต่คนนี้ไม่มีนม อุ้บ ไม่นับละกัน
 “ทากะอยากดูไหมล่ะครับ”
 ทากะหน้าเหวอ...ก่อนที่แก้มใสๆ จะแดงเปล่ง  สั่นศีรษะไปมา ยกมือไม้ขึ้นโบกทำท่าทางปฏิเสธ 
โทรุอดจะยิ้มออกมาไม่ได้....เด็กหนอ กลัวอะไรบ้างไหม..หลอกมาทำอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้หรอก
  “อาบน้ำล่ะ จะอาบด้วยกันก็เข้ามา”
  คนที่หน้าแดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงไปอีก พี่โทรุเล่นถอดเสื้อโยนไปที่เตียง เหลือแค่กางเกงวอร์มสีดำที่ใส่อยู่ หันมายิ้มให้อีกทีก่อน มันทำให้เห็นรอยหกแพ็คที่อยู่บนหน้าท้อง พี่เขาพาดผ้าขนหนูไว้ที่หัวไหล่ก่อนหายตัวเข้าไปในห้อ��น้ำ
   ทำไงดี...ใจ...เต้นระส่ำเลยอ่ะ กี่รอบแล้วนะ...ที่หัวใจเต้นแรงแบบควบคุมไม่ได้
หรือว่าจะ…เขา………จะ……ชอบพี่โทรุ……
ฮือออออ ทำไงดี แม่ว่าแน่ๆ เลยมาตกหลุมรักผู้ชายด้วยกัน
                            PARADISE    🍂
โทรุหยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า เขาพกมาด้วยแหละ แต่ช่วงหลังไม่ค่อยมีอารมณ์อยากถ่ายรูปเท่าไหร่ เหนื่อย... 
มองไปยังเจ้าตัวจิ๋วที่หลับอยู่ใต้ผ้าห่ม ใส่ขุดนอนลายชินจังด้วย จะน่ารักไปไหนกันน้า
โทรุเปิดไฟในห้องให้สว่างจ้า คนขี้เซาไม่มีทางตื่นอ่ะ
ก็รัวชัทเตอร์ไปหลายครั้ง ยังไงก็ยังรู้สึกไม่พออยู่ดี 
ทากะทำไมสวยจัง มองจากมุมนี้ยิ่งสวย ขนตายาวน่าสัมผัส จมูกเรียว แก้มใสๆ ที่ถูกหอมไปหลายครั้ง  ปากอิ่มที่เขาทาลิปมันให้ดูมันวาวน่าจูบ อืม ผิวขาวๆ ภายใต้ชุดนอนจะมีหน้าตายังไง..อยากเห็น 
 ทากะก็ติดกระดุมทุกเม็ดเลยน้า.... ปลดออกสักเม็ดสองเม็ดคงไม่เป็นไรมั้ง ถ่ายรูปเก็บไว้ดูเล่นสักหน่อย... เก็บไว้ดูคนเดียว...ไม่แบ่งใคร 
รับรองครับว่าไม่มีภาพหลุดแน่ครับ
♪(กดเพื่อฟังเพลง  SLEEPING BEAUTY )
                        You are summer to my winter heart 
by gemma troy
.....PARADISE.....   🍂
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาน้า....
วันก่อนไปเที่ยวเขาค้อมาจ้ะ ไอเดียบรรเจิด เอาญี่ปุ่นมาผสมเมืองไทย กลายเป็นฟิคเรื่องนี้ 
ตอนเซิดดูสถานที่ในเมืองยามานาชิ มีภูเขาหลายลูกน่าสนใจเลย
ไร่สตอเบอร์รี่นี่ก็ปลูกผลไม้อื่นหมุนเวียนไปตามช่วงฤดูด้วยจ้า
ใครสนใจอ่านเพิ่ม กด
ขอบคุณที่รักเรื่องนี้นะคะ รักคนทวง555
ปล. รออ่านฟิคนะคะ คุณๆ ทั้งหลาย55
ปล.ขอบคุณคนบรูฟที่น่ารัก ปล. เห็นเฟลๆ เรื่องการเขียน เป็นกำลังใจให้นะคะ
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
Goodbye Summer
Tumblr media
    มวลแดดจ้าอาบไล้ไปทั่วพื้นทรายที่ทอดยาวไปสุดเนินเขา รถคันเล็กๆ ที่จอดอยู่ไม่ไกลกับชายหาด คนข้างในรถผลักประตูรถเปิดออกมาพบกับสายลมอันรุนแรงที่ทำให้เส้นผมปลิวกระจัดกระจาย กิ๊บที่ติดมาไม่สามารถจัดทรงทรงผมให้คงที่ บางตัวหล่นไปบนพื้นไม่ทันได้สังเกต
ทากะจับแว่นตาดำที่สวมใส่ ถอดมันออกมาคาดไว้ตรงหว่างอก ชื่นชมวิวที่อยู่ตรงหน้า กระโปรงผ้าชีฟองสีส้มลู่ไปตามแรงของลม ต้องใช้ทั้งสองมือจับยึดผ้าเอาไว้ ลมพัดแรงทำให้เสียการทรงตัว ได้แต่ยืนพิงรถไว้ 
คิดผิดรึเปล่าที่ลงมาจากรถ ลมแรงขนาดนี้จะไปเดินเล่นไหวไหม หรือจะกลับเข้าไปนั่งรออยู่ในรถดีกว่า ไงอีกเดี๋ยวเร็นก็กลับมาแล้ว
รถจอดอยู่ในเขตพื้นที่หาดส่วนตัวของคนๆ หนึ่ง เร็นบอกว่าแวะมาคุยแค่ครู่เดียว ไม่นาน ก็หวังว่าจะไม่นานจริงๆ อย่างที่บอก วันหยุดสบายๆ ของเราส��งคนไม่อยากถูกคนอื่นขโมยเวลาไป แล้ววันนี้ตั้งใจแต่งตัวสวยๆ มาให้เร็นดู
ทากะก้มมองชุดกระโปรงผ้าชีฟองเกาะอก เดรสสีส้มยาวจนถึงพื้น  ดีใจที่เร็นบอกว่าสวย หนึ่งเดือนที่ชุดแขวนอยู่ในตู้ รอให้พาไปเที่ยว วันนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว เร็นมารับแต่เช้า ขับรถพามาทะเลที่เคยมาด้วยกันบ่อยๆ 
แต่แล้วเร็นกลับขับเข้ามาที่นี่ บ้านที่อยู่สุดชายหาด ขับผ่านทางเข้าที่ล้อมรั้วไปด้วยต้นไม้ รถขับวนอ้อมมาด้านหลังภูเขาก่อนที่จะเข้าเขตที่พักซึ่งมีหลายหลัง หน้าตาบ้านนั้นเหมือนๆ กันเลยคิดว่าเป็นรีสอร์ทเล็กๆ สักที่ แต่พอขับไปจนถึงช่วงปลายหาด มีบ้านพักหลังใหญ่ตั้งอยู่ตรงนั้น เป็นบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่ถูกทาสีขาวสะอาดตัดกับสีของภูเขาและทะเล มีผู้ชายยืนอยู่สักกลุ่มหนึ่งบนชานระเบียงบ้าน แต่มีคนหนึ่งๆ ที่นั่งอยู่ที่หน้าแกรนด์เปียโน กำลังบรรเลงบทเพลงสักเพลง...
  เร็นขับเข้าไปจอดใกล้ตัวบ้าน บอกเธอให้รอบนรถแล้วเปิดประตูลงจากรถไป แค่แวบเดียวที่ได้ยินเสียงเปียโน ทำให้ทากะยอมเลื่อนกระจกลงมาเล็กน้อยเพราะอยากฟังจนจบเพลง 
/ queen - Love of my life
พอจบเพลงนั้นก็เลยเปิดประตูลงมายืนรับลมทะเล....รอฟังเขาเล่นเพลงต่อไป
    “คุณครับ คุณท่านเชิญเข้าไปในบ้านครับ” ผู้ชายตัวสูง ท่าทีสุภาพ เสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวและกางเกงดำ จากวิธีการพูดและเรียกถึงคนที่มาเชิญเข้าไป หรือว่าจะเป็น��จ้าของบ้านที่รวยมากๆ 
ทากะเดินตามไป ผ่านสวนไม้ประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พุ่มไม้เล็กๆ ล้อมรอบทางเดินยาวตรงไปที่บันไดขึ้นไปบนตัวบ้าน  ซ้ายมือเป็นสวนต้นไม้สูงที่มีน้ำพุอยู่ใจกลางสวน มีรูปปั้นกามเทพตัวน้อยกำลังยืนถือคิวปิดเล็งคันศรไปที่ใครสักคน ไล่สายตามองไปเรื่อยจนเห็นเร็นยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านกับผู้ชายคนที่เล่นเปียโน ด้านหลังคนกลุ่มที่มองเห็นไกลๆ กลายเป็นเหมือนคนที่มาตามเขามาที่บ้าน คงทำงานให้เจ้าของบ้าน คุณท่านคงเป็นคนนี้เป็นแน่
มือหยุดบรรเลงเปียโนแล้ว ลุกขึ้นยืนแล้วหันมาจ้องมองที่เธอ ทากะเลยยกมือดึงชุดขึ้นมาปิดบังเนินอกอีกสักหน่อย จัดชุดให้สุภาพขึ้น ส่วนแว่นที่คาดเก็บออกมากำไว้ในมือ แล้วก้าวขึ้นไปบนระเบียง เธอหยุดยืนเยื้องกันกับเร็น
ผู้ชายคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทากะและเร็น  เขาตัวสูงมากจนต้องเงยหน้ามอง  คุณท่านที่เธอคิดไว้นั้นจะเป็นชายวัยกลางคน ไม่ใช่คนที่ดูอ่อนเยาวน์ขนาดนี้ เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มริมแดง แม้จะแต่งตัวในชุดลำลองธรรมดา แต่ความรู้สึกยามที่สบตา สายตาที่เหมือนกับมองสำรวจเธออย่างตั้งใจ ทากะพยายามแล้วที่จะไม่ประหม่า แต่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งแก้ม
เสียมารยาทนะแบบนี้ คนที่เพิ่งเจอครั้งแรกใครเขามองกันแบบนี้ ทากะหันไปหาเร็น ตั้งใจจะบอกถึงความรู้สึกของเธอ แต่กลับต้องตกใจในสีหน้าของเจ้าตัว ท่าทีกระสับกระส่าย มือที่กุมอยู่ด้านหน้าถูกันไปมา สายตาครุ่นคิดอะไรอยู่ข้างใน ไม่ได้หันมามองทางเธอเลย
“ฉันให้เวลาทั้งวัน”
“ครับ..” เร็นรับคำเสียงเบา หันมาทางนี้จนได้ เร็นมองที่ชุดแล้วถอดเสื้อยีนส์ที่ใส่อยู่มาคลุมไหล่ให้
“รออยู่นี่นะ ไปธุระ เดี๋ยวมารับ พาไปด้วยไม่ได้จริงๆ”
“ธุระ?”
“ตามหาลูกหนี้คุณโทรุ”
คนนี้ชื่อคุณโทรุ...หมายความว่ายังไง ลูกหนี้อะไร? เร็นทำงานธนาคารนะ แต่...นี่มันเกิดอะไรขึ้น งานที่ทำเกี่ยวของอะไรกับคุณโทรุ
“เดี๋ยวมารับนะครับ รออยู่นี่นะ” เร็นรวบตัวเข้าไปกอดแน่นกว่าทุกครั้งก่อนจะเดินลงไปจากระเบียงบ้านเพื่อกลับไปที่รถ แน่นอนว่าทากะไม่ยอมที่จะถูกทิ้งไว้ แต่พอเดินตามกลับถูกผู้ชายที่ยืนด้านหลังคุณโทรุเข้ามาขวางไม่ให้ไป
  นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!
   ทากะถูกเชิญมานั่งที่โต๊ะเก้าอี้สีขาวที่อยู่ถัดออกไปจากแกรนด์เปียโน ชุดน้ำชาถูกยกมาให้เธอดื่มโดยเหล่าชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีดำ...เธอไม่คิดจะดื่มหรอกนะ ใส่อะไรไว้บ้างรึเปล่าไม่รู้....
คุณโทรุบอกว่าจะอธิบายเรื่องราวให้ฟังตามลำดับเหตุการณ์ ให้เธอใจเย็นลงแล้วมานั่งคุยกัน  คุณโทรุเดินหายเข้าไปในบ้าน อีกสักพักจึงกลับออกมาพร้อมกับแฟ้มในมือ คุณโทรุลากเก้าอี้ออก นั่งลงด้านข้าง ดึงเอกสารออกมาจากแฟ้ม
“เอกสารเกี่ยวกับการค้ำประกันเงินกู้ของเร็น”
ทากะรับมาดูคร่าวๆ เธอไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไหรนัก แต่รู้ว่าคนรักของเธอคงจะต้องลำบากแน่นอน เธอวางเอกสารไว้บนโต๊ะตามเดิม ตามองออกไปยังทางที่คนรักของเธอขับรถออกไป ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะเร็น....
เธอเหม่อลอยไปชั่วครู่ ไม่คิดว่าหันกลับมาจะเจอคนที่กำลังนั่งมองอยู่ในระยะห่างไม่กี่ช่วงแขน หรือเป็นเพราะว่าเขาหน้าตาดีทำให้เธอรู้สึกประหม่าได้ทุกคราวที่ถูกมอง ทากะเอาแขนเสื้อของเร็นมาผูกไว้ด้านหน้า ปิดบังหน้าอก เธอเม้มปากที่ทาสีส้มพีช...รู้สึกว่าเขาจะตั้งใจมองตรงส่วนนี้มากไปแล้ว
เราทั้งคู่ต่างนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่มีใครเริ่มประโยคสนทนาขึ้นมา เขาหันไปสั่งงานคนของเขาในบางคราว บางทีเขาก็มองเหม่อออกไปยังทะเล  เธอเผลอมองตามไปด้วย เสียงทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง การได้นั่งดูวิวบนระเบียงบ้านนี้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ใหักับเธอ 
ก็ทุกทีเธอจะต้องไปเดินเล่นรับลม แต่คราวนี้เธอแค่นั่งเฉยๆ วางแว่นไว้ที่โต๊ะ แล้วก็เฝ้ามองทะเลเคลื่อนไหว คลื่นซัดกลับเข้ามาที่ชายหาดระลอกแล้วระลอกเล่า
จะให้มัวแต่เพลิดเพลินกับวิวตรงหน้าเหรอ ในเมื่อคนรักของเธอกำลังลำบาก
ทากะถอนหายใจโดยไม่ทันรู้ตัว มีเพียงคนที่นั่งถัดไปที่คอยสังเกต...
  “หิวหรือยังครับ ผมสั่งให้พ่อบ้านทำอาหารกลางวันไว้แล้ว เราจะกินกันตรงนี้หรือเข้าไปกินข้างใน” คุณโทรุถามขึ้นมา เอาจริงก็เริ่มจะหิวแล้วด้วย
“กินตรงนี้ได้ไหมคะ..” เธอไม่อยากเข้าไปในบ้านเขาเลย อยากรอเร็นอยู่ตรงนี้มากกว่า....
พ่อบ้านในชุดผ้ากันเปื้อนสีขาวกับเหล่าแก๊งเชิ้ตดำเดินออกมาจัดอาหารลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมของมันยั่วยวนมาก เนื้อปลาไหลย่างที่ราดมาบนข้าวมันยั่วน้ำลายอย่างมาก
“เชิญเลยครับ”  คนตรงหน้ายิ้มหวาน ตะเกียบคีบเนื้อปลาไหลย่างในจานใส่ปาก เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ทากะยังไม่กล้าแม้แต่ละแตะน้ำชาสักจิบ ระแวงไปหมด...
แต่ยอมกินในที่สุด เมื่อท้องทนต่อความหิวไม่ไหว แต่คุณโทรุกินหมดก่อน เขาหันไปสั่งคนที่ยืนอยู่ให้เอาแตงโมออกมาเสริฟ จนคุณโทรุนั่งกินแตงโมที่ถูกจัดมาในจานแก้ว ทากะยังต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะกินข้าวหน้าปลาไหลตรงหน้าให้หมด
เธอจิบน้ำชาตาม..อยากจะกลั้นใจไว้ไม่กินแตงโมตามเขา...แต่สีแดงสดของมันยั่วใจเหลือเกิน...ก็เลยเผลอกินไปหลายคำเหมือนกัน
  อาหารมื้อกลางวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีเธอก็นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนี้ กำลังดูคุณโทรุอ่านหนังสืออยู่ เธอไม่สามารถติดต่อเร็นได้ ก็นะ...ไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดลงมาจากรถ ทุกอย่างอยู่ในกระเป๋า มีเพียงแว่นกับเสื้อคลุมของเร็นเท่านั้นที่ติดตัวอยู่ เจ้าของเสื้อคงไม่ปล่อยเธอทิ้งไว้ที่นี่ใช่ไหม
“คุณท่านครับ พวกผมลานะครับ” บรรดาคนที่ทำงานในบ้านหลังนี้ต่างมายืนกันอยู่พร้อมเพียงตรงหน้าโต๊ะ ก้มตัวโค้งให้กับคนที่นั่งอยู่แล้วเดินออกไปจากระเบียง
สามโมงเองนะ ทำไมเลิกงานกันเร็วนัก
  “มันก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้วแหละ ให้พวกเขากลับไปพักดีกว่า” คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตอบขึ้นมา...เงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วย เพิ่งจะเห็นรอยยิ้มของเขาเป็นครั้งแรก
 “ห้องน้ำอยู่ไหนคะ” ทากะชิงลุกขึ้นยืนแล้วจ้ำเท้าเข้าไปยังห้องน้ำด้านในบ้านเมื่อคุณโทรุบอกตำแหน่งห้องน้ำมาแล้ว...
พอได้ซ่อนตัวอยู่หลังบานประตูห้องน้ำ ก็ต้องเอามือขึ้นมากุมหน้าอกตัวเอง มันเผลอใจเต้นกับรอยยิ้มนั้น ทำไงดี...สัญญาณอันตรายแบบนี้
เร็น...เมื่อไหร่จะมารับคะ
   ทากะออกมาจากห้องน้ำในที่สุด เดินผ่านตัวห้องนั่งเล่นของบ้านมายังระเบียง เสียงเปียโนที่คุณโทรุเขากำลังเล่น มันช่างไพเราะ... ทำไมฟังแล้วต้องเคลิ้มขนาดนี้ 
นี่ฉันหลงใหลเสียงเปียโนตัวนี้... หรือเพราะคุณเขาเลือกเพลงเก่ง 
ท่วงท่าที่เขาใช้บรรเลง....จังหวะการโยกตัวตามการกดแป้นมันเป็นธรรมชาติ จนละสายตาไม่ได้เลย
/ ONE OK ROCK - One Way Ticket
  รู้ตัวอีกทีทากะก็มายืนดูเขาเล่นใกล้ๆ ...
“อยากฟังเพลงอะไรไหมคะ?” คุณโทรุหันมาถาม
“อืม” ทากะคิด..
“Hotel California....”
 คุณโทรุเริ่มบรรเลงเพราะขึ้นมาใหม่ เพลงของ Eagles - Hotel California  เพลงนี้เธอชอบมากๆ จริงๆ
โดยไม่ทันรู้สึกตัว พอเขาเงยหน้ามายิ้มให้ เธอก็เผลอยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ เกิดบทสนทนาที่ออกรสออกชาติ เธอคุยโต้ตอบกับเขาไม่หยุดเรื่องเพลง อาจเพราะเธอเคยเป็นนักร้องมาก่อน พออยู่กับคนที่ชอบดนตรีเหมือนกัน เธอก็เลยรู้สึกเหมือนกลับมาเจอเพื่อนเก่าสายดนตรี
เพลงต่อไปพอเขาเริ่มกดแป้น...เธอเลยเผลอร้องตาม...
   'Cause you only need the light when it's burning low
Only miss the sun when it starts to snow
Only know you love her when you let her go
Only know you've been high when you're feeling low
Only hate the road when you're missing home
Only know you love her when you let her go
And you let her go
   /Let Her Go - Passenger
   คุณโทรุปรบมือเมื่อเธอร้องจนจบเพลง...
เราทั้งคู่ยิ้มให้กัน มองออกไปที่ทะเล ท้องฟ้ากำลังเป็นสีส้ม พระอาทิตย์กำลังจะจมหายไปในทะเล เราทั้งสองชื่นชมภาพตรงหน้าด้วยกัน มันแปลกประหลาดทั้งที่เราเพิ่งจะได้เจอกันครั้งแรก แต่ทำไมความรู้สึกที่มันหวิวๆ ไปทั้งใจ อุ่นๆ ร้อนๆ ความรู้สึกที่ไหลวนอยู่ภายในอกเธอ มันรุนแรงแบบที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร
เรากลับเข้าไปในบ้าน ตรงไปที่ห้องครัว พ่อบ้านเขาจัดมื้อเย็นให้เราทั้งคู่ก่อนกลับ คราวนี้เราสองคนนั่งรับประทานกันที่โต๊ะอาหาร ทากะลืมแว่นกับเสื้อของเร็นไว้บนโต๊ะที่ระเบียง ตอนนี้คือชุดเกาะอกมันเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ แต่ก็ช่างละ... ทากะชอบให้ชุดมันเกยอกแบบหมิ่นเหม่อย่างนี้ เธอรู้สึกถึงสายตาของคุณโทรุยามมองมาที่เนินอก เธอใจหวิวๆ เวลาถูกเขามอง.....เธอก็ชอบนะ แต่งตัวมาขนาดนี้ เจ้าของเธอยังไม่ได้ตั้งใจดูเธอแบบนี้เลย
  คุณโทรุพามานั่งเล่นที่หน้าทีวี ที่โซฟาตัวใหญ่ เราสองคนนั่งข้างกัน เขาเปิดไวน์มาให้ลองจิบ พอแอลกอฮอลล์เข้าปาก ทากะก็หัวเราะมากกว่าปกติ
ปล่อยตัวเองให้เขาเข้าใกล้มากขึ้นทุกที....
ตาคุณโทรุสวยจัง ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งสวย....
ทากะตัวลอยขึ้นไปนั่งบนตักคุณโทรุตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันรู้ตัว มือเขาประคองร่างทากะไว้ในอ้อมอก คุณเขาแนบริมฝีปากลงมาบนแก้ม ลากผ่านริมฝีปากไปตามใบหูและซอกคอ กดจูบประปรายตามไหปลาร้าแล้ววนกลับมาประกบปาก มอบจุมพิตอันแสนหวานให้ ทากะหมดแรงอยู่ในอ้อมแขนของเขา ปล่อยให้เขาจูบตามใจชอบ 
แพ้แล้ว...ห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้ว 
คุณโทรุพรมจูบไปบนเนินอก ปากกัดเนื้อผ้าชีฟองที่ปิดอยู่ลากลงต่ำโชว์บราสวย มือเขาปลดขอบบราด้านหลังออก เอานิ้วเกี่ยวชิ้นที่ปกปิดไปให้พ้น 
ทากะหลับตา...หนีดวงตาคู่นั้นที่จดจ้องกับทรวงอกเล็กๆ นี่ มันไม่ได้ใหญ่น่าดึงดูดอะไรขนาดนั้นหรอก มันก็เล็กเหมือนคนอื่นๆ แต่สายตาคุณโทรุทำเอาเธอแทบละลาย หัวใจจะกระดอนออกมาจากอก
คุณโทรุดึงชุดลงมากองที่เอว มือสัมผัสทรวงอกทีละข้าง กอบกุมเนื้อนิ่มจนเกิดเสียงคราง ปากคุณโทรุงับดึงยอดข้างหนึ่ง มือหนึ่งขยี้ยอดอกข้างที่ว่าง ลิ้นไล้เลียบนยอดถัน ทากะสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความพึงพอใจแผ่นซ่านไปทั้งตัว เผยอปาก ห้ามเสียงตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“คุณโทรุ....อื้อ...”
คุณโทรุทำซ้ำๆ จนเกินแรงจะต้านทานไหว ทากะคงจะห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้แล้ว...ปล่อยให้คุณโทรุสอดมือเข้ามาในกระโปรง สัมผัสที่ลากผ่านขาอ่อนมาถึงกลางหว่างขา เขายกสะโพกเธอขึ้น เกี่ยวเอาชั้นในเธอให้หลุดออกมาจากตัว
ทากะขี้ขลาดเกินกว่าจะลืมตามอง ปล่อยให้เขารุกล้ำไปเรื่อยๆ จนเขาได้สัมผัสไปถึงไหนต่อไหน
เขาเอาตัวเธอนั่งคร่อมขาเขาทั้งสองข้าง ภายใต้กระโปรงยาวรุ่มร่าม ทากะกำลังถูกรุกล้ำเข้ามาทีละน้อยด้วยร่างกายของเขา สะโพกถูกเคล้นบีบ อารมณ์พุ่งขึ้นพร้อมกับร่างที่ถูกเหวี่ยงขึ้นลงตามแรงโน้มถ่วง เขาแนบจูบมาสูบเอาเรี่ยวแรงจากเธอไป เธอหอบหายใจไม่ทันเมื่อเขาเกือบพาเธอขึ้นสวรรค์...แต่แล้วเขากลับหยุดกระทันหัน 
“..อื้อ...หยุดทำไมคะ...” เธอตัดพ้อ สวรรค์ล่มกระทันหัน ทำไมทำกับเธอแบบนี้ 
“ใจเย็นนะคะ...”
แต่แล้วตัวเธอถูกดันตัวเอนราบไปกับโซฟา เขาทาบทับลงมา...ปากคลอเคลียป้วนเปี้ยนอยู่ที่ทรวงอก ทากะสูดปากเมื่อถูกดูดเลียไปทั่ว นิ้วบีบขยี้ยอดอกซ้ำๆ ทั้งสองข้าง สะโพกเขาเริ่มขยับเข้ามาหาเธอ ลึกขึ้น นานขึ้น รุนแรงขึ้นจนจังหวะสุดท้าย...
ความเสียวซ่านแผ่กัดกินไปทั่วร่างของเธอพร้อมกับที่เขาหยุดการเคลื่อนไหว เขาแนบหน้าลงมาซบบนอกอย่างคนหมดแรง เธอรู้สึกแปลกๆ ความร้อนซ่านแผ่ไปทั่วท้องน้อย...
“ทากะ....ชอบไหมคะ?” 
“อื้อ...” หมดเรี่ยวหมดแรงจนตาจะปิด อยากจะนอนหลับมันเสียตรงนี้เลย
“ไปนอนในห้องนะคะ” คุณโทรุบอก ดึงเสื้อขึ้นมาปิดบังร่างกายตามเดิม อุ้มทากะไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเข้าไปในห้องนอน ร่างบอบบางหลับลงทันทีที่หัวถึงหมอน อยากจะปล่อยให้หลับสบายๆ แหละแต่ก็อยากวอแวอีกสักรอบ
โทรุดึงกางเกงตัวเองลง ไม่อยากให้เวลาเสียเปล่า เปิดกระโปรงที่ปิดช่วงขาขึ้น ไม่มีอะไรปิดบังสายตา แนบกายลงไปหา.....แต่ทว่า  ทากะงัวเงียยกมือขึ้นมาดันแผ่นอก
“..อย่า...ง่วง...”  
กดจูบลงไปใจกลางส่วนอ่อนไหวของเธอ  ออเซาะทากะให้ยินยอมปล่อยให้เขารุกล้ำต่อ   พาเธอขึ้นสวรรค์ชั้นที่เธอไม่เคยไป...
“นิดเดียวนะคะ..”
     ทากะตื่นขึ้นมาในห้องนอน มีเพียงโคมไฟสีส้มส่องสว่าง เธอยันตัวลุกขึ้นนั่งได้ในที่สุด เสียงเหมือนมีคนจุดพลุจากข้างนอก  เมื่อลุกออกไปจากห้องจึงได้เห็น...คุณโทรุอยู่ที่ระเบียงบ้าน กำลังอุ้มยัยตัวน้อยดูพลุฤดูร้อนที่ถูกจุดอยู่ริมหาด...พลุลอยขึ้นมาจากพื้นแตกกระจายเป็นวงสวยงามบนท้องฟ้า เปล่งประกายอย่างแรงสุดครั้งเดียวก่อนจะจางหายไป
  “ดูลูกนั้นสิคะ สวยมากๆ เลย”
 “ฉวยมากๆ ค่ะคุณพ่อ” ยัยตัวน้อยในชุดกระโปรงลูกไม้สีขาวกอดคอคุณพ่อไว้ สองพ่อลูกแหงนหน้าดูดอกไม้ไฟที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า
 ทากะยิ้มบางๆ เข้าไปกอดเอวของคุณพ่อคนเก่งจากด้านหลัง...
   คนที่ใช่....บางทีก็มาในเวลาที่ไม่ควร...
แต่ถ้ารู้สึกได้แล้วว่าใช่ ก็จะไม่ปล่อยมือจากเขา
ไม่มีทางปล่อยเขาไป
 End
>/////< 
ฟิคเบาๆ หวานๆ  อ่านแก้เหงานะคะ อย่าซีเรียส....
คนลงก็เขิงง เพิ่งจะเคยแต่งฉากชายหญิงครั้งแรกด้วย แอบกังวลความเรทนิดนึง มันไม่ใช่ฉากชายๆ เลยแบบเห้อ....
ทากะน่ารักกกกกกกกกกกก���กก
คุณโทรุหล่อมากค่ะ! 
ปล.ตรงรูปด้านบนน้องรูปปั้นนกให้นึกเป็นน้องคิวปิดนะคะ
ขอบคุณเพลงจากน้องเอินด้วยค่ะ 
0 notes
10969rainbow · 6 years
Text
AU Hogwarts :> Toruka
                                             .
                                             .
                  พบเธอก็เหมือนถูกสะกดไว้ในอีกโลกหนึ่ง
                                             .
                              เธอร่ายมนตร์เอาไว้
                                             .
Tumblr media
(ภาพและคำบรรยายไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลย...เพ้อล้วนๆ)
    วันนี้ทากะมีภารกิจอันใหญ่หลวง ...
ก็คือไปที่หลังรูปปั้นแม่มดตาเดียว แอบโผล่ขึ้นมาที่ฮ้อกส์มี้ดตรงร้านฮันนี่ดุ๊กส์ ซื้อขนมและของกินกลับไป แต่ต้องไม่ลืมไปที่ร้านไม้กวาดสามอันเพื่อซื้อบัตเตอร์เบียร์กลับมาสิบถัง ถามว่าจะขนกลับมายังไงน่ะเหรอ ก็ต้องใช้คาถาย่อส่วนแล้วก็ใส่ถุงอเนกประสงค์แบกกลับมาน่ะสิ ถ้าถามว่าไปกับใครเหรอ ก็คนที่ชื่อโทรุที่ไม่เคยคุยกันสักครั้งเลยน่ะสิ 
เราสองคนอยู่คนละบ้านเขาอยู่ฮัฟเฟิลพัฟ อีกฝ่ายอยู่เรเวนคลอ แล้วทำไมถึงต้องไปด้วยกันน่ะเหรอ เรื่องมีอยู่ว่าทุกต้นเดือนจะมีคนไปขนเสบียงเพื่อนำกลับมาจัดปาร์ตี้ในห้องต้องประสงค์ เนื่องจากว่าเสี่ยงที่จะโดนจับได้สูงหากไปหลายคน แต่ละบ้านก็จะส่งตัวแทนมาในแต่ละเดือน มีสี่บ้านก็แรนด้อมไปจนกว่าจะถึงคิว เขาไม่เคยโดนหน้าที่นี้หรอก เนื่องจากเสกคาถาไม่เก่งเท่าคนอื่น สายตาสั้นแล้วก็ซุ่มซ่าม ชอบทำแว่นหล่นเวลาเดินสะดุดอะไรเข้า 
แต่ว่า...วันหนึ่งที่เขาต้องออกไปทำภารกิจนี้เองมาถึงจนได้....เพราะทุกคนในบ้านยุ่งๆ กันหมด พวกพี่มาห์ที่มีแข่งควิดดิชกับบ้านสลิธีรินวันนี้ คนส่วนหนึ่งไปเป็นกองเชียร์ด้วย พวกที่ต้องคอยเสกคาถาให้ป้ายกับพู่เชียร์ลอยแล้วก็เปลี่ยนเป็นคำต่างๆ ตัดภาพมาที่เขาเลยละกัน ปกติจะต้องไปยืนโง่ๆ อยู่บนสแตนเชียร์ พอถูกโยนภารกิจมาให้รู้สึกเหมือนจะลอยได้ ใช้โอกาสวันแข่งควิดดิชที่ถูกคนกำลังสนใจเกมส์การแข่งขันแอบหนีออกไปซื้อของ 
อ้อ ลืมไปถ้าทำอะไรพลาดโดนจับได้ จะโดนลงโทษสถานหนักเลย
ต้องแวะเอาเค้กที่สั่งด้วย เค้กวันเกิดพี่โทโมยะกะใครสักคน...จำชื่อไม่ได้แหะ
ปาร์ตี้คืนนี้พิเศษกว่าทุกที เนื่องจากพี่ไฮด์บ้านเขาได้ขอผู้หญิงบ้านเรเวนคลอแต่งงานแล้ว วางแผนว่าเรียนจบในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก็จะจัดงานแต่ง ปาร์ตี้ในคืนนี้จะเต็มไปด้วยเด็กเรเวนคลอกับฮัฟเฟิลพัฟเป็นส่วนใหญ่ ถามว่าผิดกฎของโรงเรียนไหม....
“ใครสนกัน” พี่มาห์ตอบ
ตั้งแต่บ้านของเราไปสนิทกับบ้านอื่น เรายิ่งทำอะไรแหกกฎขึ้นทุกวัน บ้านที่ชวนเริ่มงานปาร์ตี้จะบ้านไหนล่ะลองนึกดู ตัวย่อ..ก เขาก็กลัวเสี่ยงที่จะโดนจับได้ พวกรุ่นพี่น่ะเขาไม่กลัวกันบ้างเหรอ ไม่รู้หรือว่าจะโดนหักคะแนนบ้านกี่คะแนน โดนทำโทษให้ขัดพื้นห้องน้ำโดยไม่ใช้เวทมนตร์ ซ้ำยังต้องไปถูพื้นในห้องเรียนวิชาปรุงยา(โดยไม่ใช้เวทมนตร์) ของศาตราจารย์ทาเครุ และคนอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่จะคิดกันได้
 เขากำลังยืนรอคนที่พวกพี่นัดไว้ เด็กเรเวนคลอชื่อโทรุตรงหน้าประตูห้องน้ำชั้นสี่ วันนี้แทบไม่มีคนผ่านมา ส่วนมากอยู่กันที่สนามแข่งควิดดิช ทากะทบทวนแผนการในหัวซ้ำไปซ้ำมา กลัวว่าจะทำอะไรพลาดสักอย่าง... จนคนที่รออยู่มายืนอยู่ตรงหน้า
“อ่า หวัดดี” ทากะเงยหน้าขึ้นสบตาพูดตะกุกตะกักเคยเห็นคนๆ นี้จากที่ไกลๆ ตลอดแหละ ในสนามแข่งควิดดิชไง หมอนี่เป็นซีกเกอร์ทีมเรเวนคลอ
“หวัดดี” อีกฝ่ายตอบ โทรุตัวจริงสูงกว่าที่คิดไว้อีก แน่สิก็ไม่เคยเฉียดกายเข้าไปใกล้คนๆ นี้เลย โทรุที่เขาเห็นมีเพื่อนรุมล้อมอยู่ตลอด แค่มองไกลๆ ก็รู้สึกถึงออร่า ใบหน้าที่หล่อเหลา ร่างกายสูงโปร่ง แขนขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ใช่ตัวเล็กๆ บางๆและเตี้ยอย่างเขา โทรุซีกเกอร์มือทองคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา มือข้างนั้นที่ใช้มันจับลูกสนิชอย่างว่องไว ในที่สุดก็ได้เห็นใกล้ๆ แต่..เอ๊ะ ทำไมวันนี้มีผ้าพันรอบข้อมือด้วยล่ะ
“มือนายเป็นอะไรเหรอ?”
“อุบัติเหตุน่ะ” อีกฝ่ายตอบ ไม่สนใจ เดินนำไปยั���รูปปั้นที่เป็นที่ซ่อนของช่องทางลับ ท่าทางจะรีบกว่าเขาอีก
“รอฉันด้วยสิ” ทากะรีบจ้ำเท้าตามไป เพราะไม่กี่ก้าวเดินของโทรุนั้นทำให้เขาต้องวิ่งไล่ตามเลยถึงจะเดินตามทัน
  “ลูมอส” 
โทรุเสกคาถาจุดไฟที่ไม้กายสิทธิ์หลังจากเดินเข้ามาในทางเดินมืดๆ ด้านหลังรูปปั้น ทากะเองก็หยิบไม้กายสิทธ์ออกมาเสกคาถาเช่นกัน เดินถือไม้กายสิทธ์ตามฝ่ายนั้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากว่ามองไม่ค่อยเห็นและโทรุเดินเร็วทำให้ต้องรีบเดินตาม คนซุ่มซ่ามอย่างเขาจึงเดินสะดุดขาตัวเองจนได้
ทากะหน้าทิ่มลงบนพื้น ไม้กายสิทธิ์หล่นไปจากมือ แว่นก็หล่น ตอนนี้คือมองอะไรไม่เห็นแล้ว พยายามเอามือควานหาอะไรสักอย่างที่อยู่ใกล้ที่สุด ผงะ...เมื่อรู้สึกถึงความร้อนของไฟที่จ่อมาตรงหน้า  ยกมือขึ้นมาปิดแสงที่จ่อหน้า หรี่ตามองแต่ก็มองเห็นไม่ชัด
“สายตาสั้นเท่าไหร่เนี่ย”
“ไม่ได้วัดนานละอ่ะ ไม่แน่ใจ”
“ไปทำเลสิคสิ”
“เลสิค คืออะไรเหรอ?” ทากะมองไม่เห็นคนที่นั่งยองๆ ลงมาหา จนโทรุลดไฟจากไม้กายสิทธิ์ลงต่ำ
“อ่ะแว่น” ทากะหันกลับไปมอง เห็นเงาลางๆ ของอีกฝ่ายส่งแว่นมาให้ ทากะยื่นมือไปหยิบแต่มือคว้าพลาด คว้าได้แค่ลม  ก็สายตาสั้นมากจนกะระยะไม่ถูก ที่จริงโทรุถือแว่นไว้ตรงหน้าเลยแค่เอื้อมมือไปตรงๆ ไม่ต้องขยับไปไหนแต่อย่างใด 
“นายควรไปทำเลสิคนะ” ฝ่ายนั้นบอกพอเขาเอาแว่นมาใส่แล้ว ทากะพยักหน้า...ว่าแต่เลสิคคืออะไรเหรอ เพิ่งจะเคยได้ยิน
เอ่อ...ทำไมหน้าโทรุอยู่ใกล้จังง่ะ เห้ย....ไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าจะอยู่ใกล้กันขนาดนี้ ค่อนข้างเป็นคนขี้ตื่นคน ทากะขยับตัวหนีไปโดยไม่รู้ตัว โทรุเห็นแล้วขมวดคิ้ว
“เป็นไรของนาย?”
“อ่อ แค่...ไม่ชิน”
“งั้นไปต่อเถอะ” โทรุบอกแล้ว เอื้อมมือมาคว้าช่วงไหล่เขาให้ลุกขึ้นยืน โทรุแข็งแรงหรือเขาผอมไปกันแน่...
“เดี๋ยวสิ ไม้กายสิทธ์หล่น”
“ตรงไหน”
“ก็แถวๆ ที่ล้มนี่มั้ง” ทากะบอก โทรุเลยกวาดไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไปรอบๆ เพื่อมองหาอันที่หล่น เดินวนไปวนมารอบๆ ตัวทากะ เดินย้อนกลับไปที่ปากทางเข้า เดินวนกลับมาตรงที่ทากะยืนอีกรอบ
“ไม่เจอ”
“ได้ไงต้องเจอดิ..มันหล่นตอนล้ม”
“ตอนทำหล่นเผลออุทานอะไรออกมารึเปล่า”
“ห้ะ..” ทากะนึกตาม เหมือนว่าจะไม่ได้พูดอะไรเป็นคำๆ นะ แค่เห้ยออกมาแล้วพุ่งตัวไปกองที่พื้นเลย
“อาจจะเสกมนตร์ส่งของไปอีกที่”
“ห้ะ..???” เพิ่งเคยได้ยินมนตร์ที่ว่านี่
“ทำใจซะ ไปซื้อใหม่ละกัน” โทรุตัดบทอย่างง่ายดายมากๆ แต่คนฟังช็อกไปแล้ว ถึงขั้นที่โทรุเดินไปใกล้ทางออกแล้ว ทากะยังคงยืนนิ่งยังกับโดนคาถามึนคงสาปให้แน่นิ่ง ถึงแม้บ้านจะมีเงินจ่ายเพื่อซื้ออันใหม่ แต่ว่าถ้ารู้ว่าต้องใช้เงินไปซื้อไม้กายสิทธิ์เพราะสะดุดล้มแล้วทำหายไปล่ะก็ ต้องโดนดุ โดนงดค่าขนม ปิดเทอมต้องโดนทำโทษไม่ให้ไปเที่ยวไหนแน่ 
ไม่นะ...มีแผนการมากมายตอนปิดเทอม ฮือ....ทำไมไม้กายสิทธิ์ต้องมาหายด้วยล่ะ
“เหย..ร้องไห้เหรอ” โทรุที่เดินกลับมาตอนไหนไม่รู้ยืนจ้อง ทากะบอกเลยว่าไม่อายแล้ว ร้องไห้แยต่อหน้าคนอื่น ความกังวลที่ไม้กายสิทธิ์หายมันมากกว่าความอาย ก้อนสะอื้นมาเป็นชุดแล้วคราวนี้ ร้องไห้แบบอัดอั้นตันใจ น้ำตาเปียกนองสองแก้ม
 “แอกซีโอ!ไม้กายสิทธิ์!”
 และแล้วไม้กายสิทธิ์ที่หายไปก็กลับมาอยู่ในมืออย่างง่ายดายด้วยฝีมือโทรุ
อ่าว แล้วไอคนที่บอกว่าต้องซื้อใหม่ทำไมยืนยิ้ม อย่าบอกนะว่าตั้งใจ...
  ทากะกลับมาแล้วพร้อมของกินมากมายที่อยู่ในถุงอเนกประสงค์ คืนนี้ปาร์ตี้คึกคักมากเป็นพิเศษ ดูเหมือนสองคนที่จะแต่งงานเชิญเพื่อนทุกบ้านมา เพราะงานปาร์ตี้บางเดือน บางทีเขาก็ไม่มากันนะ ติดอ่านหนังสือสอบบ้าง คนที่ไม่ชอบงานปาร์ตี้ก็มีอยู่ 
เสียงเพลงถูกเปิดสร้างบรรยากาศ มีคนเล่นเปียโนอยู่บนเวทีตรงอีกฟากหนึ่งของห้อง ใครบางคนยืนร้องเพลง เสียงเพลงแสนเข้ากันกับเสียงเปียโน ฟังละเคลิ้ม 
ตอนนี้ทากะไม่ขออะไรมาก มีที่หลบมุมนั่งเงียบๆ คนเดียว จิบบัตเตอร์เบียร์เย็นๆ ให้ชื่นใจ ให้สมกับที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน โชคดีที่ตรงที่เขานั่งถูกบังด้วยถังบัตเตอร์เบียร์ ถ้าไม่เดินมาเติมเบียร์จากถังนี้เพิ่มก็คงไม่เห็น เพราะถังมันวางอยู่ทุกมุมห้อง ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไร อยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องแคร์สายตาใคร จะนั่งตรงไหนก็ไม่มีคนสนใจหรอก กลมกลืนหายไปในห้องนี้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพยายามเลย...
เสียงเพลงบทใหม่ดังขึ้น เพลงนี้เขาร้องตามได้...ทากะฮัมเพลง หลับตาโยกคอไปมา
   Stay with me now
We're looking out, we're looking out, we're looking out now
Stay we're looking out
We're looking out
Stay, we're looking out, looking out, stay, yeah....
    มีเสียงปรบมือดังขึ้นข้างๆ  ทากะหันไปมองทางต้นเสียง โทรุที่กำลังยิ้มให้... 
ทำไมคนๆ นี้ถึงมานั่งอยู่ตรงมุมนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทากะยิ้มแหยๆ คิดได้ตั้งแต่ก่อนกลับมาที่โรงเรียนว่าผู้ชายคนนี้นี่แสบมากๆ ไม่ควรเข้าใกล้....
“ร้องเพลงเพราะจัง”
“...ขอบใจ..”
“ร้องเพลงไหนอีกได้บ้าง”
“ไม่ค่อยได้ฟังเพลง” โกหกคำโตเลยอ่ะ เชื่อไม่เชื่อก็ช่างเถอะ ปล่อยเขาไว้ตรงนี้เงียบๆ อย่ามายุ่งดิ
“เนี่ย ที่โลกของฉันมีประกวดวงดนตรีอยู่ สนใจไปร่วมวงด้วยกันไหม?”
“ประกวดวงดนตรี?” เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ
“นี่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกมนุษย์บ้าง เป็นคนรึเปล่า...อ่อ ไม่ใช่สินะ เป็นพ่อมด อยู่แต่ในโลกเวทมนตร์ เอาล่ะ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวโลกมนุษย์เอง สนใจไหมล่ะ”
“จริงเหรอ นายจะพาฉันเที่ยวเหรอ”
“อื้อ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”
“อยากไปเที่ยว พาไปได้จริงๆ เหรอ แต่บ้านฉันเข้มงวดมาก จะออกจากบ้านทีต้องขออนุญาตก่อนเป็นอาทิตย์ แล้วเขาก็ไม่เคยพาไปเที่ยวโลกมนุษย์เลย ฉันว่าพวกเขาคงไม่ให้ไปกับนาย” 
“ไม่เห็นยากเลย..จัดการได้ อย่าห่วง ฉันเก่งเรื่องเวทมนตร์นะ” 
คิดจะเสกคาถาอะไรล่ะ...ทำหน้าตาไม่น่าไว้ใจเลยด้วย แต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็อยากไปเที่ยวในโลกมนุษย์ โลกที่ไม่มีเวทมนตร์คาถา...มันจะเป็นยังไงนะ
“งั้นก็ตกลง” ทากะตอบไม่เต็มเสียง
“ดีลนะ”
“โอเค” ทากะยิ้มชืด....ไม่ได้ลืมนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ แต่พ่อแม่สอนว่า ถ้าเจอคนร้ายๆ ก็ให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป ทำเป็นเฉยๆ ซะ เดี๋ยวเขาก็ไม่สนใจไปเองแหละ
ไม่คิดอะไรแล้ว ปล่อยให้ตัวเองนั่งโยกไปมาตามจังหวะเพลง อีกสักพักนั่งดูวงดนตรีขึ้นไปเล่นบนเวที  ปากก็ฮัมเพลงไปเรื่อยๆ โดยที่โทรุที่มองอยู่ไม่พูดอะไร...
โทรุคิดอยู่ในใจ ไม่มีทางปล่���ยให้ทากะหลุดมือไปเด็ดขาด หูของเขาค่อนข้างดีเป็นพิเศษ เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์เรื่องการฟังและการแยกแยะเสียง หลังจากที่ได้ยินเสียงทากะ ถึงแม้ว่ามันจะเบาจนไม่มีใครทันสังเกตแต่มันก็สามารถทำให้เขาหายตัวจากหน้าเวทีมาอยู่ข้างๆ เจ้าของเสียงภายในชั่วพริบตา
แน่ล่ะ นี่มันคือเสียงที่เขาตามหามาทั้งชีวิต
ทากะนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ นึกว่าจะเป็นแค่ไอ้เอ๋อจอซุ่มซ่าม ที่ไหนได้กลับมีเสียงที่ไพเราะจับหัวใจ
...ส่วนนิสัยที่ตามคนไม่ทัน เห็นแล้วมันอดแกล้งไม่ได้...
...ยิ่งตอนร้องไห้ อยากจะเข้าไปกอดปลอบ แล้วทำให้ร้องไห้ออกมาอีกรอบด้วยตัวของเขาเอง...
 โทรุยิ้ม
       ^____^
ชอบ au นี้จังค่ะ อยากเขียนมานานแล้วอ่ะ
ใกล้ๆ จบนึกถึง #iftakawasagirl อ่ะ เขียนถึงเลยละกัน 
ขอบคุณน้า ไม่ได้แต่งฟิคยาวๆ นานแล้ว สนุกดีแต่ก็แอบเครียด....
ไม่แน่ใจว่าสนุกหรือเครียดมากกว่ากัน มันแบบเห้ย เหนื่อยจัง แต่พอเห็นรีพลาย แล้วก็ยิ้มอ่ะ 
ขอบคุณค่ะ 
ปล.ในโรงเรียนฮอกวอตส์หายตัวไม่ได้นะคะ โทรุเป็นกรณีพิเศษ ถ้าได้เขียนเพิ่มจะลงรายละเอียดนะคะ
ปล.คาถาย่อส่วนนี่มีไหมนะ ขออนุญาติมีเลยละกันะคะ  :>
1 note · View note
10969rainbow · 6 years
Text
Strawberry Boy
Tumblr media
     ณ เมืองยามานาชิ......
   ในเรือนกระจกของไร่สตอเบอร์รี่ วันนี้ถูกแม่ใช้ให้ไปยืนถ่ายรูปแขกที่มากินสตอเบอร์รี่
ในเรือนกระจกมีจัดเป็นบุฟเฟต์ไว้ ให้ถาดใส่นมข้นคนละถาด เอาไว้จิ้มกับลูกสตอเบอร์รี่ เวลากินคือครึ่งชั่วโมงต่อคน 
วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ ทากะเดินแกร่วรอให้ลูกค้ามา รอเก็บรูปเพื่อจะเอาไปลงในเพจของร้าน แล้วก็จะถ่ายวีดีโอเพื่อทำโฆษณาของไร่
 เดินใจลอยอยู่สักพัก มีกลุ่มผู้ชายสามสี่คนเข้ามาในเรือนกระจก มองจากไกลๆ ก็รู้ว่าหน้าตาดี เอาล่ะ ไปถ่ายกลุ่มนี้ก็แล้วกัน ทากะเดินเข้าไปใกล้ๆ
 "ทางร้านขออนุญาตถ่ายรูปไม่ทราบว่าจะสะดวกไหมครับ?"
 กลุ่มชายหนุ่มสี่คนนั้นที่กำลังยืนเด็ดสตอเบอร์รี่ใส่ปากหันมามองทากะ หนุ่มน้อยกะอายุจากสายตา น่าจะเป็นเด็กมัธยมต้นเองมั้ง
 "ได้ๆ" ผู้ชายผมหยิกหยอยคนหนึ่งพยักหน้าตอบรับ ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้สนใจอะไร ปล่อยให้เขายืนถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ทากะเดินตามคนกลุ่มนี้ไปเรื่อย
"โห ลูกนี้ใหญ่มาก แดงชะมัด” ผู้ชายคนหนึ่งชี้ไปที่สตอเบอร์รี่ที่ห้อยอยู่กับต้น
“ไหน” ผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินมาดูแล้วเด็ดลูกสตอเบอร์นี่นั้นออกมา
“เหี้ยโทรุ ของกู!”
“มึงช้าเองเรียวตะ” คนที่ชื่อโทรุยิ้มแล้วหยิบสตอเบอร์รี่ลูกนั้นใส่ปาก ทากะเดินเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ ไม่พลาด จะได้มีภาพผู้ชายหล่อขนาดนี้ลงในเพจร้าน
โทรุมองคนที่ยืนตั้งใจถ่ายรูป ก็เลยช่วยสงเคราะห์ จากที่ยืนกัดด้วยท่าทางธรรมดาๆ ตอนนี้เขาเงยหน้าทำมุมกล้อง ทำองศาให้เห็นตอนกัดสตอเบอร์รี่ลูกฉ่ำให้แตกในปาก น้ำสตอเบอร์รี่ไหลย้อยจากมุมปากไหลลงมาตามแนวคาง สายตาไม่ละไปจากกล้อง ฟันสีขาวบดเขี้ยวผลสีแดงกล่ำ จนลูกสตอเบอร์รี่นั้นถูกกลืนกินไปหมดแล้ว ลิ้นแดงๆ กวาดเลียรอบปากช้าๆ คนถ่ายรูปเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว มือที่กดถ่ายหยุดไปตอนไหนไม่รู้......สายตาคู่นั้นมันทำไมทำใจเต้นจังง่ะ
 เรียวตะ มาซาโตะและโทโมยะที่มองอยู่ลอบยิ้ม โทรุเอานิสัยนายแบบมาใช้กับเด็ก ถ้าเด็กมันใจแตกเพราะแกก็ไม่แปลกใจ...
    ทากะกลับมานั่งเฝ้าด้านในของร้าน มือกดดูรูปในกล้อง ภาพเขาตอนกัดสตอเบอร์รี่ยังคงทำให้หัวใจมันหวิวๆ ร่างกายมันแปลกๆ ปั่นป่วนจนต้องรีบเดินหนีออกมาสงบสติอารมณ์ ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ร่างกายช่วงกลางลำตัวปวดหนึบจนยืนจะไม่ไหว เป็นอะไรนะ มันมวนๆ ท้องแบบนี้  แล้วพอเอาภาพผู้ชายคนนั้นมาดูทีไรก็ปวดหนึบที่ตัวทุกครั้ง แม่งเอ้ยย!
“ทากะ ช่วยเอาสตอเบอร์รี่ไปส่งที่ห้อง 109 หน่อยสิลูก เขาโทรมาสั่ง เก็บเงินมาให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”
“ครับบบ” ทากะขานเสียงใส ปิดกล้องวางไว้ไปทำงานเล็กๆ น้อยๆ ของที่บ้าน บางทีคนงานวุ่นอยู่กับการดูแลแขก งานอะไรที่พอช่วยได้ก็จะช่วย อย่างเช่นงานส่งของตามห้องพัก
ทากะหอบถุงสตอเบอร์รี่สี่ถุงไปส่งถึงหน้าห้อง ไร่สตอเบอร์รี่ของเขาทำเป็นรีสอร์ทให้พักด้วย งานก็เลยค่อนข้างเยอะ คนงานทำงานกันไม่ทัน บางทีอาจจะต้องรับคนเพิ่มตอนโรงเรีย���เปิดเทอม ขาดเขาไปสักคนแม่คงเหนื่อย
  ประตูห้อง 109 เปิดออก ผู้ชายผมทองๆ คนหนึ่งในกลุ่มที่เขาไปยืนถ่ายรูปออกมาเปิดประตู ....หน้าตาดีชะมัด
“เอามาวางไว้บนโต๊ะสิไอ้หนู” ประตูห้องเปิดอ้ากว้างให้พอสำหรับคนตัวเล็กๆ เดินเข้าไปข้างใน เด็กน้อยทากะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนงานในไร่สตอเบอรี่อยู่หลายต่อหลายครั้ง คราวก่อนถูกใจให้ไปหยิบถาดใส่นมข้นเพราะลูกค้าเผลอทำหล่นบนพื้น เพราะทากะใส่ชุดพนักงานอยู่ด้วยมั้งเลยโดนใช้ไปโดนปริยาย คราวนี้ก็เช่นกัน....
ทากะถอดรองเท้แล้วเดินเข้าไปในห้องถึงได้เห็น คนอื่นกำลังนั่งดื่มกันอยู่ที่พื้นห้อง ผู้ชายคนนั้นหันมาสบตาพอดี เด็กน้อยใจเต้นระส่ำ วางถุงไว้บนโต๊ะแล้วหันมาคิดเงินกับคนที่เปิดประตู
“ถุงละ 1600 เยน สี่ถุงก็ 6400 เยนถ้วนครับ”
“โทรุมึงจ่ายดิ กูไม่มีเงินสด”
คนที่ชื่อโทรุหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา โบกมือเรียกให้เขาเดินเข้าไปหา ก็เดินเข้าไปใกล้ ผมที่ถูกย้อมเป็นสีเทาๆ ดูหล่อๆ ร้ายๆ บอกไม่ถูก...หล่อมากไป ภาพปากที่กัดสตอเบอร์รี่ยังติดอยู่ในหัว ทากะรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าว แทบไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าแล้ว
“อ่ะ”
ทากะยื่นมือไปรับเงินมาแต่กลับถูกดึงข้อมือให้เสียหลักล้ม แต่ไม่ได้ล้มลงบนพื้นนะ ล้มลงบนตักของคนที่ดึงแทน
“หน้าแดงหมดแล้วมึง” โทโมยะแซว
“แกล้งเด็กว่ะ”
ทากะจะลุกขึ้นยืนพอรู้สึกตัวแต่ถูกโอบรอบเอวไว้ ขยับตัวไปไหนไม่ได้
“กลัวเหรอ” เสียงหล่อๆ ทุ้มๆ กระซิบกระซาบที่หู สติ...กลับมาๆ
“โห แก้มแดงเชียว ยังกับลูกสตอเบอร์รี่” โทรุพึมพำ เอามือจิ้มแก้มใสๆ
“ร้อนด้วยแหะ สุกพร้อมเสริฟสินะ” โทรุหัวเราะ คนอื่นที่นั่งอยู่พลอยหัวเราะไปด้วย
“มึงจะทำไร น้องเขายังเด็กนะ” คนผมทองที่เดินไปเปิดประตูปิดประตูแล้วกลับมานั่งดื่มด้วยกันต่อ ทากะดิ้นให้หลุดจากมือหนา มันรัดแน่นจนขยับตัวไปไหนไม่ได้
“ซื้อคนละถุงจะพอเหรอวะ” เรียวตะบ่น สักพักลุกไปหยิบสตอเบอร์รี่ออกมาจากถุง  1 แพ็ค นั่งกินอยู่ที่โต๊ะ กินท่าทางเอร็ดอร่อยจนคนอื่นๆ ลุกไปกินด้วย แต่ยังเหลือคนหนึ่งกอดเอวเด็กน้อยที่จับได้ไว้แน่น
“ขอกินได้ไหม...”
“ห่ะ?”
โทรุหอมแก้มเด็กด้วยความหมั่นเขี้ยว คนถูกหอมยกมือขึ้นปิดแก้มแดงๆ
“คุกๆๆๆ” เสียงยามาโตะแกล้งกระแอมไอ โทรุหรือจะสน เอามือปิดข้างนี้ก็ไปหอมอีกข้างแทน คราวนี้เด็กบนตักก็เลยยกมือปิดทั้งสองแก้ม
น่ารัก....
ไม่คิดว่าจะมาเจอเด็กในไร่สตอเบอร์รี่ที่แสนจะน่ารัก
หรือจะซื้อกลับไปด้วยเลยดี ตัวเล็กๆ ขนาดพกพา
เด็กน้อยที่น่ากินกว่าสตอเบอร์รี่...
    จบแล้วจ้า...
   ตอนแรกก็จะเรทแหละแต่ตั้งสติได้....ใช่ตอนแรกจะเอาห้าพี ดึงสติกลับมาแรงมาก ปล่อยให้มโนกันต่อเองถ้าอยากได้เรทแรงขนาดนั้น 555555
 ถ้าถามว่าทำไมทากะไม่โวยวายอะไร คือ ลองนึกภาพถูกโทรุหอมแก้มนะ นั่งอยู่บนตักเขาด้วย ตายไปแล้ว...
  ช่วงนี้ทุกคนขยันปล่อยฟิคกัน สนุกดีค่ะ รอติดตามนะคะ
ทิ้งภาพที่เป็นแรงบรรดาลใจ... แต่ฟิคที่ได้คนละเรื่องเลย ขอบคุณภาพประกอบจากน้องแพร @1O1O95P  เยิฟ :>
Tumblr media Tumblr media Tumblr media
3 notes · View notes