เมื่อรถของท่านเกิดอุบัติเหตุ และรถได้รับความเสียหาย เราทั้งหลายมักกังวลใจว่า หากซ่อมสีเพียงบางชิ้นงานอาจทำให้เกิดการเพี้ยน สีไม่เท่ากันระหว่างชิ้นงาน หลายๆคนจึงมักตัดสินใจที่จะทำสีรอบคัน เพื่อให้รถดูสวยและสีมีความสม่ำเมอมากขึ้น แต่การมีประกันชั้น 1 นั้น สามารถที่จะเคลมสีรอบคันได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร

สิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ของการเคลมประกันภัยรถยนต์ ก็คือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ ไม่มีละก็จะเกิดอะไรขึ้น คงเป็นเรื่องที่หลายคนก็อาจรู้ แต่บางคนก็อาจยังสงสัยอยู่... แล้วจะทำอย่างไรดี ถ้าใบขับขี่ของท่ายหาย หรือ หมดอายุไปแล้ว

หลายคนคงจะสงสัยว่า ทำไมทำประกันประเภท 1 (เรียกบ้านๆ ชั้น 1 ) จ่ายแพงแล้ว ยังต้องมาเสียค่าเอ็กเซป, ค่าแอคเซป, เอ็กเซส,  ค่าแอคเซฟ ที่ต่างก็เรียกผิด เรียกถูก สุดท้ายจ่ายตังค์ แถมยังแอบสงสัยกันอีกว่า พนักงานที่มาให้บริการเอาเงินเราไปใช้เองรีป่าวน้า... แล้วเค้าใช้หลักการอะไรในการพิจารณาว่าจะเก็บหรือไม่เก็บ

อย่างที่ทราบดีกันอยู่แล้วนะครับ ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเรา เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแล้ว ท่านใดที่มีประกันภัยรถยนต์ก็คงต้องรีบยกหูโทรหาน้องๆเคลม กันอย่างด่วนเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากในบางสถานะการณ์ เราเองก็ไม่สามารถตัดใจได้ว่า การเกิดเหตุในลักษณะนั้นๆ จะเข้าเงื่อนไขความคุ้มครองหรือไม่

เป็นประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับผู้ใช้รถที่มีประกันภัยประเภท 1 หรือ ประกันชั้น 1 ที่ต้องคอยมากังวลว่าหลังการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง จะคิดอยู่เสมอว่าจะถูกเพิ่มเบี้ยในปีถัดไปมั้ย บางท่านถึงขนาดไม่เปิดเคลมเลย เพราะต้องการรักษาประวัติดีไว้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการเพิ่มเบี้ยประกันภัย กันนะครับว่า

จากกรณี รถยนต์คุณพ่อ ขับรถถอยหลังในบ้าน ชนรถคุณลูก ทำให้เสียหายทั้ง 2 คัน บังเอิญรถคุณลูกดันขาดต่ออายุประกันภัยซะนี่ แต่คุณพ่อยังอุ่นใจมีประกันชั้น 1 ที่ดูแล จึงเรียกพนักงานเคลมมาที่บ้าน และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ในกรมธรม์ประกันภัยรถยนต์ สำหรับ 2 คำนี้หมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรก เหมือนกันแต่จะทำงานต่างกันดังนี้

พ.ร.บ. รถยนต์ หมายถึง ประกันภัยภาคบังคับ ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่ง กฎหมาย บังคับให้ยานพาหนะทางบกทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ต้องจัดทำ โดยสามารถต่ออายุได้ล่วงหน้า 3 เดือน

สำหรับท่านที่ประสบปัญหา ถูกหนูกัดสายไฟห้องเครื่อง หรือกัดแทะอุปกรณ์ต่างๆของตัวรถ โดยส่วนใหญ่แล้ว ท่านจะทราบเมื่อท่านนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ หรือ มีสัญลักษณ์พิเศษแปลกตา ที่ท่านจะสังเกตุเห็นได้จากแผงจอหลังพวงมาลัยของท่าน ที่แสดงความผิดปกติของตัวรถ และหลายๆคนก็อาจจะทำการซ่อมเองไป โดยไม่ทราบว่า สามารถใช้สิทธิ์ เคลมจากประกันรถยนต์ประเภท 1 ได้