บันทึกความทรงจำ

27/01/66：ในวันที่ 27 ได้มีการไปร่วมทริปกับเพื่อนๆในสาขาทที่เรียนด้วยกัน สถานที่ที่ได้เดินทางไปคือจังหวัดกาญจนบุรี ไปด้วยกันทั้งหมด 4 สถานที่

สถานที่ที่1 คืออุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์สถานที่นี้ก็มีความประทับใจคืออากาศค่อนข้างดีเนื่องด้วยในเวลาที่ไปนั้นเป็นเวลาในตอนสายไม่กลางวันที่มีแดดร้อนมากเกินไป และวิทยากรให้ความรู้ได้น่าสนใจ

สถานที่ที่2 คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่าสถานที่นี้เป็นตึกขนาดใหญ่ที่มีการออกแบบตึกได้ทันสมัยมาก และภายในตึกมีสิ่งต่างๆที่ให้ความรู้ค่อนข้างเยอะ รวมถึงมีคลิปวีดีโอให้ได้ชม

สถานที่ที่3 คือพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดสถานที่นี้เดินทางไปถึงในเวลาที่ค่อนข้างร้อนเพราะไปถึงในช่วยบ่ายที่แดดกำลังแรง และเนื่องด้วยอากาศร้อนจึงทำให้เกิดไฟป่าที่พึ่งดับไปบริเวณใกล้พิพิธภัณฑ์จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างร้อนและบรรยากาศไม่ค่อยปลอดโปร่ง และในสถานที่นี้นั้นมีการเดินในระยะทางที่ค่อนข้างใกล้จึงทำให้ร้อนเป็นอย่างมาก

สถานที่ที่4 อุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่สถานที่นี้เดินทางไปถึงในเวลาที่ค่อนข้างเย็น จึงทำให้อากาศค่อนข้างปลอดโปร่งมีแดดที่แรงเล็กน้อย และได้เห็นน้ำตกที่มีความร่มรื่น และได้มีการไปเดินขึ้นเขาที่มีวิทยากรนำไปเพื่อชมธรรมชาติและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์ ระยะทางค่อนข้างไกลแต่เนื่องจากได้เดินทางไปถึงสถานที่นั้นในเวลาที่ค่อนข้างเกือบเย็นแล้วจึงทำให้อากาศไม่ค่อยร้อนมาก และในตอนที่เดินไปขึ้นเขานั้นบางช่วงระยะทางมีอากาศที่เย็นเหมือนเปิดแอร์

ภาพรวมของการไปทริปนี้คือค่อนข้างเหนื่อย แต่ก็ได้มิตรภาพกับเพื่อนๆในสาขาที่มีการช่วยเหลือกันในงานด้านต่างๆ และมีการฝึกการทำงานเป็นทีมและความสามัคคีกันเป็นหมู่คณะ

น้ำตกไทรโยก

รีวิวน้ำตกไทรโยคใหญ่ (อุทยานแห่งชาติไทรโยค) จังหวัดกาญจนบุรี

น้ำตกไทรโยคหรือใหญ่ น้ำตกเขาโจน สุสานที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค ไหลจากแม่น้ำแควน้อยแยกเป็น 2 แพร่งหินแกรนิตที่อยู่ทางตอนเหนือของเพื่อนบ้าน น้ำตกไทรโยคใหญ่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียวที่รองรับชั้นหินเหล่านี้กันเป็นชั้น ประมาณ 8 เมตร น้ำตกไทรโยคใหญ่เป็นน้ำตกที่ต้องใช้น่าท่องเที่ยวมาก โดยนักท่องเที่ยวต้องเดินข้ามสะพานแขวนไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อชมสายน้ำตกที่ไหลสำหรับสัตว์ป่าเหล่านั้น น้ำตกไทรโยคใหญ่นั้นจะมีน้ำตลอดปีและน้ำจะ แรงมากในช่วงที่เหลือของอุทยานและสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่จอมเกล้าฯ (รัชกาลที่ 5) ของเราเคยเสด็จประพาส ณ น้ำตกสำหรับอุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางเพื่อไปยังจุดชมวิวสะพานแขวนไทรโยคที่ น้ำตกไทรโยคได้อย่างชัดเจน

น้ำตกที่นี่แปลกกว่าน้ำตกที่อื่น ๆ เพราะว่า่น้ำตกจะไหลจากหินอ่อนจากนั้นท้ายสุดจะลงยังชะง่อน หินสุดท้ายเข้าสู่ลำน้ำแควน้อยสำหรับผู้ที่ล่องแพมาสามารถเล่นน้ำตกได้ และถึงแม้จะไปถึงเกือบเย็นแล้วบรรยากาศก็ยังถือว่าร่มรื่นเป็นบรรยากาศที่ดีมาก ๆ รู้สึกเย็นสบายอยู่ตลอดเวลาเพราะติดแม่น้ำ

การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกไทรโยคใหญ่

1.มารถยนต์ส่วนตัว  

2.มาโดยรถไฟจากหัวลำโพง(กรุงเทพฯ)มาลงที่สถานีจังหวัดกาญจนบุรี หรือ มาลงที่สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตัวจังหวัดก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ลองถามบริษัททัวร์ หรือรถเหมาเพื่อเดินทางไปเที่ยวน้ำตกไทรโยคใหญ่

3. มาโดยรถตู้(บางจังหวัดจะมีรถตู้มากาญจนบุรี) หรือรถทัวร์จากสายใต้ใหม่มากาญจนบุรี ส่วนท่านที่ไม่เคยมา ถ้ามาจากกรุงเทพญจะมีรถทัวร์จากสายใต้ใหม่ และ มีรถตู้นั่งมาได้

บันทึกความทรงจำ

หนึ่งวันกับกาญจนบุรี

วันที่ 27 มกราคม 2566 สาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ได้ออกภาคสนามไปยัง กาญจนบุรี

ตื่นเเต่เช้า เพื่อเริ่มออกเดินทางตั้งเเต่ตี 5 ครึ่ง เเต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่วางเเผนไว้ทำให้ออกเดินทางล่าช้า ที่นั่งรถก็ไม่พอจำนวนเด็กที่ไป ทำให้เพื่อนต้องนั่งพื้นกันบางส่วน รู้สึกว่าควรมีการเตรียมตัวให้มากกว่านี้เพราะว่าก็มีการจ่ายเงินจำนวนเท่ากันเเต่เพื่อนบางส่วนรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบกับการไปเที่ยวในครั้งนี้ รถที่พาไปก็ขับดีมากกกกกกก/หรอ555555 แต่ก็เดินทางถึงโดยสวัสดิภาพ ถึงจะไม่ตรงตามกำหนดการที่วางไว้

ที่แรกที่เดินทางไปถึงคือ ปราสาทเมืองสิงห์ รู้สึกว่าร่มรื่นดี แต่อากาศที่นี้ค่อนข้างร้อนมาก เหงื่อตกกันเเทบจะทุกคน ได้ศึกษาหลายอย่างภายในพื้นที่ รู้สึกประทับใจที่ประเทศของเรายังมีการอนุรักษ์และเห็นคุณค่าของโบราณสถาน แต่พอจะออกจากที่นี้กำหนดการเดิมจะต้องไป อุทยานแห่งชาติไทรโยค แต่มีอาจารย์ท่านนึงอยากจะไป พิพิธภัณฑ์บ้านเก่า ทำให้ไม่เป็นตามเเผนเดิมที่วางกันไว้ เพื่อนบางส่วนก็รู้สึกเฟลกับการเดินทางในครั้งนี้ เพราะที่จริงจะต้องได้รับประทานอาหารกลางวัน แบบตามปกติ หาข้าวกินที่อุทยานไทรโยคเเต่นี้ต้องมานังกินข้าวกันบนรถ เลยทำให้มีเพื่อนที่ไม่ได้สั่งข้าวมา ไม่มีอะไรกินกัน แต่พอมาถึงบ้านเก่าก็รู้สึกดีเพราะเเอร์เย็น555555 ไม่ค่อยได้เดินดูอะไรเยอะเพราะว่ารู้สึกเบื่อๆไม่จอยเท่าไหร่ พอต่อจากนี้ก็ได้เดินทางมาถึงพิพิธภัณฑืช่องเขาขาด เป็นการเดินศึกษาดูเกี่ยวกับร่องรอยของการเกิดสงครามโลกครั้งที่2ที่นี้รู้สกึเหนื่อยเป็นพิเศษเพราะต้องเดินทางเยอะประมาณ 1 กิโล แล้วทางค่อนข้างชันไม่ใช้ทางเดินราบ ปวดตีงงงงงง มากกกกกก อย่าหาเดิน55555 แต่ถ้าใครชอบที่จะศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ก็ต้องยอมเดิน เพราะว่ามีร่องรอยการเกิดทางรถไฟที่ไม้หมอนยังคงอยู่ ที่ร่องรอยมในการขุดช่องทางการเดิน มีการเขียนเรื่องราวต่างๆบริเวณหินข้างๆ หลังจากนั้นก็ได้ไปน้ำตกไทรโยค อากาศดีมากกกกกกกกกก ถ่ายรูปบนสะพานสวยแต่สภาพตอนนั้นคือไม่ไหวแล้วทั้งร่างกายเเละทุกๆอย่าง ทำให้อยากกลับบ้าน รู้สึกอยากนอนนมาก

ทุกอย่างจบลง การเดินทางขากลับรู้สึกดีมาก เพราะอาจารย์มีร้องเพลงให้ฟัง55555 เสียงอาจารย์แต่ละคนน่าฟังมากค่าาาา แต่ก็นะการเดินทางในครั้งนี้อาจจะมีที่เราไม่พอใจบ้าง มีที่เราชอบบ้าง ไม่มีอะไรที่เราถูกใจได้ตลอด เราต้องยอมรับกับสภาพเเวดล้อมต่างๆได้

ทำให้รู้ว่าที่จริงเเล้ว ห้องเราก็รักกันนะ ไม่ว่าจะเจออะไรเราก็ไม่เคยว่ากันเองมีแต่จะให้กำลังใจกัน รักพวกมึงนะ

สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวที่ว่า เหนื่อยมากกกก กลับหอมานอนเป็นตายยยยย

สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้เราจะมานำเสนอสถานที่สำคัญของเมืองกาญ หรือ จังหวัดกาญจนบุรีที่เรารู้จักนั่นเองค่ะ วันนี้เลยได้มานำเสนอในสถานที่ของ ช่องทางเขาขาดหรือช่องไฟนรก มาที่นี่เส้นทางรถไฟสายไทย-เมียนมา (ทางรถไฟสายมรณะ) ซึ่งในช่วงของการขุดเจาะช่องเขาขาดเริ่มในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2486 ปรากฏว่างานล่าช้ากว่ากำหนดจึงมีช่วงที่เร่งงานซึ่งแรงงานแต่ละกะต้องทำงานถึง 18 ชั่วโมง โดยงานส่วนใหญ่ล้วนใช้แรงคนทั้งสิ้น เช่นการสกัดภูเขาด้วยมือ ซึ่งเป็นการทำงานที่ทารุณยิ่ง เนื่องจากต้องปีนลงไปสกัดในช่องเขาซึ่งบางช่วงสูงถึง 11 เมตร จนแทบไม่มีอากาศหายใจทั้งยังต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงเดือนมีนาคม ในภาวะขาดแคลนน้ำและอาหาร เมื่อเจ็บป่วยแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ไม่เพียงพอต่อการรักษาเชลยศึกและกรรมกรที่ช่องเขาขาดต้องทำงานตอนกลางคืนด้วยแสงไฟจากคบเพลิงและกองเพลิงทำให้สะท้อนเห็นเงาของเชลยศึกและผู้คุมวูบวาบบนผนัง ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า "ช่องไฟนรก"

จุดท่องเที่ยวของ ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑ์สถานแห่งความทรงจำ (เปิดเวลา 09.00-16.00 น. เปิดทำการทุกวันนะคะ)

ทางเดินตามทางรถไฟช่องเขาขาด-สถานีหินตก จากหมู่บ้านที่มีบันไดเดินลงไปตามเส้นทางรถไฟสายมรณะ ก็ขอให้มีพื้นที่ต่อไปนี้ให้เดินชมเหล่านี้ขึ้นตั้งแต่บริเวณช่องเขาขาดเป็นสถานีหินตก

"สิ่งที่ทุกคนควรพึงระวังนะคะคือทางลัดค่ะ เพราะมีความชันเเละเหนื่อยมาก โดยมีอาจารย์มารับรองความเหนื่อยเเละลำบากในครั้งนี้ค่ะ"

ไปเที่ยวกาญจนบุรีด้วยกันมั้ยค้าเพื่อนๆ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคน วันนี้น้อง มม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีมาเเนะนำ สำหรับเพื่อนๆที่ชอบ เที่ยว พิพิธภัณ และ ชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ น้อง มม ขอเเนะนำเพื่อนๆ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า

มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายให้เพื่อนๆได้ศึกษา หาความรู้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๐๘ เพื่อเก็บรวบรวม รักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่แหล่งโบราณคดีบ้านเก่าและแหล่งโบราณคดีอื่นๆใน จังหวัดกาญจนบุรี ภายในพิพิธภัณฑ์ มี Sky Walk พิพิธภัณฑ์บ้านเก่าอยู่ทิวทัศน์สวยๆ เครื่องมือหินจำลอง ถ้ำจำลองเล่าชีวิตคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ หม้อสามขาเอกลักษณ์วัฒนธรรมบ้านเก่า ทั้งที่กล่าวมานะคะจะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวอยู่ทุกจุด ถ้าเพื่อนเพื่อนไม่เข้าใจหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมถามพี่พี่เจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ พิพิธภัณฑ์บ้านเก่า มีสิ่งที่น่าเรียนรู้มากมาย น้อง มม ขอฝากสถานที่ท่องเที่ยวนี้ไว้ให้เพื่อนๆ ได้ไปศึกษา หาความรู้กันนะ

ถ้า น้อง มม ไปสถานที่ไหนโดนใจจะเอามาแนะนำ พี่ๆ เพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวศึกษา นะคะ 

วันนี้ น้อง มม ขอตัวลาไปก่อนนนน ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะฮับ

น้ำตกไทรโยค แห่งกาญนะจ๊ะบุรี แฮร่ กาญจนบุรี

ก่อนอื่นขอสวัสดี���พื่อนๆทุกคนเลยนะคะ วันนี้คุณ dd ก็อยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวการไปทริปครั้งแรกของนักศึกษาปี 3 สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองราชบุรีและเมืองประจวบ จะบอกว่าเป็นการไปทริปครั้งแรกตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาเลย และการไปทริปในครั้งนี้สู้ชีวิตเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่การนัดรวมตัวเลยคือออกรถช้ากว่ากำหนด ไปถึงที่หมายแรกแบบเฉียดฉิว และมีการเพิ่มสถานที่ศึกษาดูงานมาอีกหนึ่งที่ แล้วยังมีการสลับสับเปลี่ยนแผนระหว่างทริปด้วย ทุกคนคิดว่ามาถึงจุดนี้คงสู้ชีวิตมากแล้วใช่ไหมคะ แต่นี่ยังแค่เล็กน้อยเท่านั้น การสู้ชีวิตจริงๆกำลังเริ่มต่อจากนี้ค่ะ ณ น้ำตกไทรโยก เป็นสถานที่จุดที่ 4 ที่เราจะต้องไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติรวมๆอาจจะคิดว่าเราไปชมวิวใช่มั้ย แต่ทุกคนคิดผิดแล้วค่ะ เพราะพวกเราไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติรวมแล้วเกือบ 10 กว่ากิโล พวกเรามีคุณพี่วิทยากรคอยให้ความรู้ เริ่มจากพาไปชมวิวที่สะพาน เพื่อจะได้มองเห็นวิวน้ำตกได้ชัดเจน แล้วก็พากันไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติของจริงค่ะ เรามาสู้ชีวิตกันต่อดีกว่าค่ะ เราเดินเข้าป่าไปเจอต้นไม้หลายๆสายพันธุ์ มีขึ้นเขา ลงเขา ไปเจอเส้นทางรถไฟที่ญี่ปุ่นเกณฑ์เชลยมาสร้าง แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว กว่าจะเดินถึงทางออกก็คือสู้ชีวิตมากๆ ทุกคนอ่อนล้าและอ่อนแรง แต่ก็ถือว่าได้ความรู้มากมายจากพี่วิทยากร แล้วได้ไปพบเจอธรรมชา���ิที่เราไม่ค่อยได้สัมผัส นั่นแหละค่ะการสู้ชีวิตส่วนหนึ่งของทริปนี้ วันนี้คุณ dd ก็ขอตัวลาไปก่อนแล้วนะคะ ไว้โอกาสหน้าคุณ dd จะมาบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆอีก ฝากทุกคนกด Follow ไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดเรื่องราวสนุกๆของคุณ dd ด้วยนะคะอิอิ😁

Life in the Old Stone Age

การใช้ชีวิตในยุคหินเก่า

ผู้คนในสมัยยุคหินเก่าหรือสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบฟอสซิลของมนุษย์ชวา ร่องรอยการใช้หินกระทบให้เป็นรูปร่าง ที่ลุ่มเเม่น้ำเเควน้อย พบโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมาก มนุษย์ในยุคหินเก่ามีเครื่องมือเครื่องใช้ส่วนใหญ่ทำมาจากหิน ไม้ มักอาศัยอยู่ในถ้ำในป่า มีการดำเนินชีวิตหาอาหารโดยการทำวัสดุเครื่องมือจากไม้ ในการหาปลา ล่าสัตว์ เเสวงหาพืชผักผลไม้ เครื่องประดับที่ทำมาจากเปลือกหอย กระดูกของสัตว์ต่างๆ นำมาคล้องคอ หรือประดับรอบเอว มีเครื่องนุ่งห่มที่ทำมาจากขนสัตว์ หนังสัตว์ ใบไม้ หญ้า เปลือกไม้ มีการนับถือพระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อในโลกใบหน้าในการฝังศพคนตายกลับคืนสู่พื้นดิน วิวัฒนาการของมนุษย์ยุคหินเริ่มมีการเปลี่ยนเเปลงจากการทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ จนพัฒนามาถึงปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี

ที่มาภาพ ：พิพิธภัณฑ์บ้านเก่า

เรื่องอยากจะเล่าวันไปภาคสนามที่กาญนะจ๊ะบุรี๊

เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งของเดือนมกราคมที่ผ่านมานักศึกษาสาขาสังคมของมหาวิทยาลัยราชภัฏเเห่งหนึ่งในเพชรบุรีได้เดินทางไปภาคสนาม ณ จังหวัดกาญจนบุรีเเละได้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งทำกับข้าวไปกินกันเองระหว่างวันโดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปนั่งกินข้าวในรถบัสที่ช่องเขาขาดเพราะในกลุ่มได้คุยกันว่าจะนั่งกินข้าวเเล้วจะตามเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ไปทีหลังเเต่หลังจากที่นั่งกินข้าวไปได้เเค่เเปปเดียวเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ก็ได้เดินหายไปเเล้วจึงทำให้นักศึกษากลุ่มนั้นรีบกินข้าวเเละเดินตามเพื่อนๆไปเเต่พอไปได้ยังไม่ถึงครึ่งทางได้เจอกับเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ที่เริ่มทะยอยเดินออกกันมาเเล้วโดยระหว่างเดินสวนกันเพื่อนที่เดินกลับออกมาบอกว่าไม่ต้องเดินเข้าไปก็ได้ไม่มีอะไรเเต่นักศึกษากลุ่มนั้นก็ยังจะเดินเข้าไปอยู่ดีเเละด้วยความดื้อดึงของนักศึกษากลุ่มนั้นก็ทำให้เดินกันเข้าไปจนถึงจุดที่สำคัญก็ได้ถ่ายรูปเเละฟังเพื่อนเล่าประวัติให้ฟังโดยที่นักศึกษากลุ่มนั้นไม่รู้เลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาจนเวลาได้ผ่านไปสักพักพวกเขาได้สังเกตว่าคนเริ่มหายไปหมดเเต่พวกเขาก็ยังคิดว่าถ้ายังไงเพื่อนกลุ่มใหญ่น่าจะโทรตามเเต่เมื่อหนึ่งคนในกลุ่มได้หยิบโทรศัทย์ขึ้นมาทำให้รู้ว่าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ทำให้พวกเขาเริ่มกังวลพวกเขาจึงได้เดินออกมายังจุดที่มีสัญญาณเเล้วจึงพบว่าเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ได้โทรตามพวกเขาหลายสายมากๆ เพราะ!!!!!!!!!อาจารย์ให้คนขับรถออกรถเพื่อเตรียมไปที่ใหม่เเล้วเเต่โชคยังดีที่เพื่อนได้เเจ้งให้อาจารย์ทราบว่าเพื่อนยังมาไม่ครบให้รถรอก่อนเเละขณะนั้นเพื่อน 4 คนสุดท้ายยังอยู่ไกลจึงทำให้ต้องวิ่งกลับมาที่รถอย่างเร่งรีบจนทำให้เกิดอาการตะคริวกินขาเเต่ก็ต้องพยายามฝืนวิ่งต่อเพื่อให้รถรอไม่นานจนวิ่งกันมาถึงรถด้วความเหนื่อยหอบเเละเจ็บขาเเต่ฉันรู้สึกว่ามันคุมค่ากับสิ่งที่ได้มา

เรื่องนี้ทำรู้สึกว่าการมาภาคสนามครั้งนี้ทำให้เราได้ทั้งความรู้เเละความเหนื่อยไปพร้อมๆกัน

สุดท้ายนี้ฉันอยากจะบอกทุกคนว่าให้ลองทำอะไรที่มันเเปลกเเยกบ้างเพราะเราจะได้ทั้งความสนุก ความสุข ความรู้ เเละ สิ่งต่างๆอีกมากมาย ถึงเเม้มันอาจจะเหนื่อยกว่าคนทั่วไปก็ตาม

ที่มาของภาพ : สุดยอดประสบการณ์ผจญภัยทั่วเมืองไทย พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด

รีวิว ช่องเขาขาด

กาญจนบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์จำนวนมาก ช่องเขาขาดหรือที่เรียกว่าช่องไฟนรกก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวในอดีตของเชลยศึกที่ถูกใช้แรงงานในการสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกค่ะ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องไม้เครื่องมือที่นำมาสร้างทางรถไฟ เห็นแล้วอาจจะรู้สึกหดหู่กับความโหดร้ายของสงครามโลกไปบ้าง แต่ก็ทำให้ทราบประวัติศาสตร์ ความเป็นมาในอดีตได้ดีทีเดียวค่ะ พิพิธภัณฑ์โซนนี้จะมีจุดที่ยื่นออกไปนอกตัวอาคาร เป็นจุดชมวิวรอบๆ มองออกไปเห็นป่าไม้เขียวขจี จุดนี้อย่าลืมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพกันนะคะ (แต่ไปตอนกลางวันอากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าวทีเดียวค่ะ) นอกจากโซนพิพิธภัณฑ์ที่ติดแอร์แล้ว ยังมีโซนเดินชมช่องเขาขาดที่เหล่าเชลยศึกเป็นผู้ทำขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเส้นทางในการเดินทาง ทางรถไฟ เดินๆไปเราจะเห็นไม้หมอนเก่าๆวางอยู่เป็นระยะด้วยค่ะ สำหรับการเดินชมช่องเขาขาดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงค่ะ เส้นทางไม่ลำบากเลยค่ะ มีบันไดให้เดินลงไปอย่างสะดวก แต่อาจจะมีความชันอยู่บ้าง อาจต้องระวังสำหรับเด็กๆและผู้สูงอายุนะคะ

เที่ยวเมืองกาญ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรีกันค่ะ เริ่มเดินทางออกในเวลา 5.30 นาที ซึ่งเราจะเดินทางด้วยรถบัสนะคะ และสถานที่เราจะไปกันนั้นก็คือ ปราสาทเมืองสิงห์ พิพิธภัณฑ์บ้านเก่า พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดและอุทยานไทรโยคค่ะ ในแต่ละสถานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถานที่ โดยเราได้หยิบยกสถานที่น่าสนใจและความน่าดึงดูดในเสน่ห์ของธรรมชาติที่เราได้ไปท่องเที่ยวในครั้งนี้ คือ อุทยานไทรโยค มีน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ มีภูเขาสลับซับซ้อน และทัศนียภาพที่น่าหลงไหลเป็นอย่างมาก

http://www.painaidii.com/review/113016/sai-yok-national-park-711500/lang/th/

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

น้ำตกไทรโยคน้อยมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำตกเขาพัง" เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน ประกอบด้วยพื้นที่ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ไทรโยคได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งเดียวในประเทศไทยที่มีค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลก คือ ค้างคาวกิตติ และ ปูราชินี ปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลกอาศัยอยู่

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทรโยคเคยเป็นค่ายพักแรมของทหารญี่ปุ่น ปัจจุบันปรากฎร่องรอยเตาหุงข้าวและซากเตาไฟอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยมนุษย์ยุคหินเก่า

มีพื้นที่ครอบคลุม 2 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีคือ อำเภอไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ "น้ำตกไทรโยคใหญ่" หรือ เรียกอีกชื่อว่า "น้ำตกเขาโจน" ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อยราวกับกระโจนลงมา น้ำตกไทรโยคใหญ่จะมีน้ำตลอดปี และน้ำจะแรงมากในฤดูฝน บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เย็นสบาย และน้ำที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค คือเย็นฉ่ำ ตอบโจทย์กับสายเที่ยวป่าเที่ยวเขา สายรักธรรมชาติมาก เดินทางไปอุทยานแห่งชาติไทรโยคก็สะดวกสบายมากๆ แนะนำให้ไปเที่ยวกันเยอะๆ

เจ้าหน้าที่คือรีวิวให้ดีมากกก

ท่องเที่ยวเมืองกาญ

เที่ยวเมืองกาญจนบุรีครั้งแรก

เริ่มต้นการท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะตื่นให้ทันขึ้นรถที่มหาวิทยาลัย เริ่มต้นออกเดินทางเกือบ 6โมงเช้าแล้วเป็นการนั่งรถที่ยาวนาน เราไปเที่ยวที่แรก คือ อุทยานปราสาทเมืองสิงห์ เป็นสถานที่ปรากฎอารยธรรม ความเชื่อที่มีความเก่าแก่และสวยงามเป็นอย่างมาก ที่เที่ยวที่สอง คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่ ซึ่งเป็นเป็นสถานที่เก็บรวบรวมความเก่าแก่ในด้านของวัตถุที่มีการค้นพบ ที่มีการส่งต่อให้คนปัจจุบันได้ศึกษาถึงวิธีชีวิตของในแต่ละยุค ที่เที่ยวที่สาม คือ พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ที่เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำโดยมีการกล่าวว่า หนึ่งไม้หมอน เท่ากับ หนึ่งชีวิต จาการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ เป็นสถานที่เดินเหนื่อยที่สุดในการได้ไปท่องเที่ยวกาญจนบุรีครั้งนี้เลยก็ว่าได้ และต่อมาเป็นสถานที่สุดท้ัายในการไปท่องเที่ยวครั้งนี้แต่เป็นสถานที่ที่มี���วามชอบส่วนตัวเป็นอย่างมาก คือ อุทยานไทรโยค เป็นอุทยานแรกที่เราได้เดินป่าเป็นครั้งแรกและจะไม่ใช่ครั้งเดียวที่จะไปเดินเพราะ เป็นสถานที่ที่มีความร่มรื่น มีอากาศที่มีความเย็นสบาย มีน้ำตกที่มีความสวยงามได้เห็นการสร้างสรรค์ของธรรมชาติที่ไม่มีการเติมแต่งด้วยน้ำมือมนุษย์ที่อาจทำให้เกิดการเสียสมดุลของธรรมชาติที่สวยงาม จากนั้นก็เดินทางกลับเมืองพริบพรีโดยถึงมหาลัยเกือบ 5 ทุ่มเลย

��ี่มาของรูปภาพอุทยานไทรโยค https://www.wowtgt.com/images/content/original-1524126898845.jpg

วันที่27 มกราคม เป็นการเดินทางลงพื้นที่ไปที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกในรอบ3ของนักศึกษาปี3 อย่างพวกเรา เริ่มต้นด้วยการไปสถานที่แรกของทริปคือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่ได้รับอิทธิพลศิลปะมาจากเขมรเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคตะวันตกของประเทศไทย และยังคงมีซากโบราณสถานต่างๆ และซากศาสนสถานทรงปราสาทหิน สถานที่ที่2ของทริป คือ พิพิธภัณฑ์บ้านเก่า เป็นสถานที่ที่ทำให้เห็นถึงวิวัฒนาการของคนในยุคนั้น ทั้งเครื่องใช้และเครื่องประดับต่างๆ วิถีการใช้ชีวิต และพิธีกรรม สถานที่ที่3 ช่องเขาขาด เป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-พม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดจากการตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือของทหารเชลยศึกชาวออสเตรเลียและอังกฤษ เชลยศึกต้องทำงานถึงวันละ18ชั่วโมงต่อวัน จึงถูกขนานนามว่าช่องไฟนรก และสถานที่สุดท้าย ท้ายสุดของทริป ก็คือ น้ำตกไทรโยคใหญ่หรือเรียกอีกอย่างว่าน้ำตกเขาโจน เป็นสถานที่มีเส้นทางธรรมชาติให้เดินศึกษาหลายเส้นทาง มีจุดชมวิวทิวทัศน์บนสะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย ที่สามารถข้ามไปเล่นน้ำยังฝั่งตรงข้ามน้ำตกได้อีกด้วย

เริ่มต้นยังไงดี55555

เริ่มตั้งเเต่คืนก่อนไปละกันคืนนั้นก่อนไปเที่ยวกับสาขาโคตรจะตื่นเต้น กินเยอะมากเเต่นอนไม่หลับวันนั้นอยู่กับเพื่อนโง่ๆคนนึงคืนนั้นคุยกันทั้งคืนสรุปไม่ได้นอน55555ก็ลุกมาเเต่งตัวเลยสิค๊าาตี4ที่เเสนง่วงนอนเเต่ไม่นอน😂

เข้าเรื่องเลยละกันเป็นเที่ยวเเรกของสาขาสังคมที่ดีนะสนุกดีเเต่สถานที่ที่ประทับใจที่สุดคือน้ำตกโทรโยกใหญ่รู้สึกว่าตั้งเเต่ก้าวขาลงไปมันเป็นอะไรที่ชอบมากๆเพราะได้ยินเสียงน้ำตก พอเดินไปเรื่อยๆจนเจอน้ำตกมันสวยมากๆมันมีเเดดเเรงๆที่ดูเหมือนจะร้อนเเต่เเปลกมากที่มันเย็นสบายมากๆเป็นที่เดียวที่อยากเดินไปเรื่อยๆรู้สึกชอบป่าชอบเขามากเลยไม่เคยเบื่อป่าเบื่อเขาเลยทั้งๆที่บ้านเกิดตัวเองก็เป็นป่า5555555 ไม่มีอะไรจะพูดเเล้วเเต่ชอบที่นี้ที่สุดเลย🫶🏻

เเละอยากจะบอกสิ่งที่ประทับใจอีกอย่างนึงก็คือ.....ตอนนั่งรถกลับชอบตอนอาจารย์ร้องเพลงเเละเพื่อนๆทุกๆคนช่วยกันร้องเพลงมันดูตลกดีมันดูร้องไม่ตรงคี มันดูวุ่นวายดี55555อยากบอกว่าขอบคุณเสียงร้องเพลงร้อยยิ้มเเละเสียงหัวเราะที่ทำให้ตัวฉันยิ้มได้เเม้วันนั้นจะ sad อยู่นิดๆ😂🫶🏻😍

one day trip 1 วันไปกาญ

วันนี้อ้อเเอ้จะพาไป 1 วันกาญจนบุรี 05：30 ออกเดินทางจากมหาวิทยาลัย 08：50 ที่เเรกที่เราจะไปก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ปราสาทเมืองสิงห์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถาน นิกายมหายาน ซึ่งมีสถาปัตยกรรมเเละปฏิมากรรม เดินชิลล์เที่ยวชมสถาปัตยกรรม เมื่อเราเข้ามาภายในบริเวรปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ผรั่งเศส เเละจีน อำนวยความสะดวก เเนะนำประวัติศาสตร์เเละสถานที่สำคัญต่างๆของปราสาทเมืองสิงห์ให้กับผู้ที่มาท่องเที่ยวค่ะ

10：30 เราเดินทางไปสถานที่ที่ 2 กันเลยค่ะ ที่ที่ 2 ก็คือ พิพิธภัณฑ์สถานเเห่งชาติ บ้านเก่าเป็นเเหล่งรวบรวมรักษาเเละจัดเเสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ได้จากการสำรวจขุดค้นทางโบราณคดี ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องจัดเเสดง 6 ห้อง สามารถเดินเที่ยวชมภายในได้อย่างชิลล์เเอร์เย็นมว๊ากกก

13：30 เราเดินทางไปสถานที่ที่ 3 กันเลยค่ะ ที่ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดภายในอนุสรณ์สถานช่องเขาขาดจะมีวิดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ยากของเชลยสงครามในช่วงเวลานั้นๆมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเก่าในการสร้างทางรถไฟสำหรับใครที่อยากลองไปดูสถานที่จริงก็สามารถลงไปดูสถานที่จริงๆได้เรามาช่วงบ่ายเเดดร้อนมากสำหรับใครที่อยากจะมาอย่าลืมพกหมวกหรือร่มมาด้วยน้าา

16：00 เราเดินทางไปสถานที่ที่ 4 กันเลยค่ะ น้ำตกไทรโยค เราได้ไปเดินชมธรรมชาติเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร ชมน้ำตกที่สวยงาม ร่มรื่นมีรีสอร์ทเหมาะเเก่การพักผ่อนมากกก สำหรับใครที่ชอบเเนวธรรมชาติเเนะนำที่นี่เลยค่ะ

หนึ่งวันกับทริปการเดินทางไปกาญจนบุรี

เริ่มออกจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้ามืด รู้สึกง่วงนอนมากและไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องอาหารเช้าเลย เมื่อเริ่มออกเดินทางก็หลับจนมาถึงสถานที่แรก คือ "อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์" เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพุทธศาสนสถาน นิกายมหายาน ซึ่งมีสถาปัตยกรรม ปฏิมากรรมคล้ายคลึงกับปราสาทของขอม ซึ่งจะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาไว้สำหรับแนะนำสถานที่สำคัญ ถือเป็นสถานที่ที่มีความร่มรื่น ถึงแม้อากาศจะร้อนแต่มีต้นไม้ค่อนข้างเยอะทำให้ไม่รู้สึกร้อนมากเกินไป วิทยากรที่บรรยายก็ค่อนข้างมีความรู้ครอบคลุมในเรื่องที่สงสัยและบรรยายได้ดีทำให้ไม่รู้สึกกับการฟังบรรยาย มีการแนะนำสถานที่ได้ค่อนข้างดี ใช้เวลาอยู่สถานที่นี้ไม่นานมากก็เดินทางต่อมายังสถานที่ที่สอง คือ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า" เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่แผนการเดินทางแต่อาจารย์ได้แวะให้เข้าชม ซึ่งไม่ไกลจากสถานที่แรกมากนัก เป็นสถานที่เกี่ยวกับแหล่งอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ มีโครงกระดูกมนุษย์สมัยยุคหินใหม่ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหิน เครื่องประดับ ถ้าต้องการไปศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ถือเป็นสถานที่ที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง สถานที่เป็นห้องแอร์ทำให้ไม่รู้สึกร้อนและสามารถเดินได้สะดวกเพราะมีเดินทางเดินที่ชัดเจน มีลิฟต์ไว้อำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องการเดิน ใช้เวลาไม่นานก็ออกเดินทางมายังสถานที่ต่อไป คือ "พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด" สถานที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดจากการตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือของทหารเชลยศึก ซึ่งในพิพิธภัณฑ์มีคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการทำงานของเชลยศึก ทำให้เห็นถึงความลำบากของเชลยศึกที่ทำงานเมื่อเทียบกับจำนวนอาหารที่ได้รับถือว่าไม่เพียงพอ และมีเส้นทางธรรมชาติให้เดินศึกษาในสถานที่จริงที่ทหารเชลยศึกได้ทำงาน ซึ่งทำให้ยิ่งเห็นความยากลำบากมากขึ้นและก็รู้สึกเหนื่อยมากเช่นกันเพราะมีระยะเวลาจำกัดในการเดินศึกษา ในวันที่ไปพบเจอฝุ่นควันจากไฟไหม้ป่าที่ยังดับไม่หมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ที่ต้องคอยช่วยกันดูแล ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมายังสถานที่สุดท้าย คือ "อุทยานไทรโยคใหญ่" ซึ่งกว่าจะเดินทางมายังสถานที่นี้ก็ใช้เวลาค่อนข้างนานเมื่อมาถึงก็ใกล้เวลาปิดทำการของสถานที่จึงต้องรีบเดินทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งรู้สึกเหนื่อยล้ามากจากการเดินทางมาหลายสถานที่ เมื่อเดินทางศึกษาธรรมชาติเสร็จได้เดินทางกลับมหาวิทยาลัย ซึ่งระหว่างทางก็ได้มีอาจารย์ร้องเพลงให้ฟังตลอดทาง ซึ่งรู้สึกประทับใจที่สุดจากการเดินทางครั้งนี้ จนลืมความเหนื่อยล้าที่ได้เดินทางมาทั้งวัน